‘จุลพันธ์’ เตรียมเรียกแบงก์รัฐ-แบงก์พาณิชย์ ถกเชื่อมระบบ Open Loop รองรับเงิน 10,000 บาทในโครงการดิจิทัล วอลเล็ต แจงยิบประชาชนที่เคยยืนยันตัวตนผ่านโครงการรัฐแล้วไม่ต้องยืนยันตัวตนใหม่ รอโหลดแอปพลิเคชัน “ทางรัฐ” เพื่อกดยืนยันรับสิทธิ์อย่างเดียว พร้อมระบุกลุ่มไม่มีสมาร์ทโฟนเฮ! ใช้บัตรประชาชนแทนได้
18 พ.ค. 2567 – นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.การคลัง เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะอนุกรรมการกำกับการดำเนินโครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่านดิจิทัล วอลเล็ต ว่า ในสัปดาห์หน้าจะมีการเชิญสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐ และธนาคารพาณิชย์ เข้ามาหารือเกี่ยวกับการเชื่อมโยงระบบในลักษณะ Open Loop เพื่อเปิดให้ Wallet ของสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐ และธนาคารพาณิชย์ สามารถเชื่อมต่อระบบกันได้ เพื่อเปิดทางเลือกให้ประชาชนสามารถใช้รับเงินและใช้จ่ายได้ง่ายขึ้น
ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้ได้มีการพูดคุยนอกรอบกับสถาบันการเงินทั้งหมด ซึ่งได้รับสัญญาณที่ดีในหลาย ๆ ประเด็น ทั้งเรื่องการเข้ามาเชื่อมโยงระบบ เพราะทุกฝ่ายมองว่าเรื่องนี้จะเป็นประโยชน์กับประชาชนให้สามารถเข้าถึงบริการของรัฐได้ง่ายขึ้น และได้รับการสนับสนุนในเรื่องนโยบายที่จะเป็นกลไกในการช่วยเหลือ เชื่อมโยงในนโยบายของรัฐที่จะเป็นประโยชน์กับทุกภาคส่วน โดยรายละเอียดทั้งหมดกำลังอยู่ระหว่างการหารือ
นายจุลพันธ์ กล่าวอีกว่า หลักการเบื้องต้นของโครงการ คือ ประชาชนที่จะเข้าร่วมโครงการและเคยยืนยันตัวตนผ่านโครงการของรัฐแล้วไม่ต้องยืนยันตัวตนใหม่ เพราะขั้นตอนค่อนข้างใช้เวลา ดังนั้นอาจจะมีการดึงฐานข้อมูลเก่ามาใช้ได้ แต่จะต้องมีการยืนยันเพื่อรับสิทธิ์ในโครงการดิจิทัล วอลเล็ต โดยประชาชนทุกคนที่จะเข้าร่วมโครงการจะต้องโหลดแอปพลิเคชัน “ทางรัฐ” เพื่อเข้าสู่กระบวนการยืนยันการรับสิทธิ์ เช่นเดียวกันกับร้านค้าที่จะเข้าร่วมโครงการ ที่หากเคยลงทะเบียนโครงการของรัฐไว้แล้ว ก็จะมีการดึงฐานข้อมูลเก่ามาใส่ไว้ในระบบใหม่เช่นเดียวกัน
“การยืนยันการรับสิทธิ์ ตรงนี้จำเป็น ประชาชนที่ผ่านกระบวนการยืนยันตัวตนแล้ว จะต้องโหลดแอป “ทางรัฐ” เพื่อยืนยันการรับสิทธิ์” รมช.การคลัง ระบุ
นอกจากนี้ ที่ประชุมยังได้หารือถึงเงื่อนไขในการใช้บริการภายใต้ระบบ Face to Face โดยผู้ใช้งานจะต้องไปที่ร้านค้าด้วยตัวเอง และมีการแลกเปลี่ยนสินค้าจริง โดยเป็นสินค้าที่ไม่อยู่ในกลุ่ม Negative List ต้องมีการโอนเงินในดิจิทัล วอลเล็ตจริง ณ สถานที่แลกเปลี่ยนสินค้า ส่วนประชาชนกลุ่มที่ไม่สามารถเข้าถึงสมาร์ทโฟน หรือบางรายไม่มีโทรศัพท์มือถือเลย ก็ได้มีการหารือถึงกลไกที่จะรองรับกลุ่มดังกล่าว โดยจะมีการออกแบบระบบเพื่อรองรับการใช้งานผ่านบัตรประจำตัวประชาชนแทน แต่อาจจะต้องมีการหารือในรายละเอียดเพิ่มเติม
ขณะเดียวกันยังได้มอบหมายให้สำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล (องค์การมหาชน) หรือ สพร. ไปหารือในรายละเอียดกับคณะกรรมการที่ติดตามการทุจริตของโครงการดิจิทัล วอลเล็ต อาทิ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ตำรวจไซเบอร์ เพื่อออกแบบระบบและกลไกในการใช้งานเพื่อไม่ให้มีการใช้งานที่ผิดประเภท ผิดหลักการ ซึ่งส่วนตัวได้มีการทักท้วงเรื่องการเพิ่มการระมัดระวังการสวมสิทธิ์ และการใช้งานผิดวัตถุประสงค์
“การใช้จ่ายจะต้องดำเนินการผ่านสมาร์ทโฟน แบบ Face to Face ซึ่งหลักในการป้องกันการทุจริต คือจะต้องมีการสแกนใบหน้าเพื่อยืนยันตัวตนก่อนซื้อของ จะฝากกันไปใช้จ่ายไม่ได้ ตรงนี้ถือว่าผิดหลักเกณฑ์ ส่วนระบบจะตรวจจับการใช้จ่ายผิดหลักเกณฑ์ หรือผิดวัตถุประสงค์ได้หรือไม่ ตรงนี้จะมีกลไกออกมารองรับแน่นอน แต่ถามว่าจะมีการใช้ผิดประเภทหรือไม่ ผมตอบตามตรงก็ต้องยอมรับว่าอาจจะเกิดได้ คนอาจจะใช้ผิดประเภท ใช้หลบเลี่ยงอะไรก็ตาม แต่สิ่งเหล่านั้นผิดกระบวนการและผิดกฎหมายแน่นอน ผมเพิ่งมอบโจทย์ให้คณะกรรมการติดตามเรื่องการใช้ผิดหลักเกณฑ์ไปว่าจะต้องไปดูในรายละเอียดเกี่ยวกับการใช้สิทธิ์ทุกประเภท และจะต้องป้องกันอย่างไรเพื่อไม่ให้เกิดการทุจริต” นายจุลพันธ์ กล่าว
อย่างไรก็ดี โครงการนี้เดินหน้ามาพอสมควร ได้รับฟังความเห็นของหลายหน่วยงาน และรัฐบาลเองก็ได้มีการกำหนดกลไกเพื่อเพิ่มความรัดกุมเพื่อป้องกันการทุจริต คอร์รัปชัน กำหนดกลไกเพื่อให้ได้รับผลในการกระตุ้นเศรษฐกิจที่มากขึ้น โดยยืนยันว่าระยะเวลาการดำเนินโครงการจะเป็นไปตามเดิม คือ จะเปิดให้ประชาชนและร้านค้าลงทะเบียนได้ในไตรมาสที่ 3 และหลังจากมีความชัดเจนมากขึ้นจะมีการเร่งประชาสัมพันธ์โครงการเพื่อทำความเข้าใจกับประชาชน ขั้นตอนการดำเนินการมีอย่างไรบ้าง เช่น เรื่องการโหลดแอปพลิเคชัน การลงทะเบียน จะต้องมีการสื่อสารกับประชาชนอีกครั้ง
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'นิพนธ์' ซัดรัฐบาลแจกเงินหมื่น เฟส 2 หวังผลการเมือง ไม่ใช่กระตุ้นเศรษฐกิจ
นายนิพนธ์ บุญญามณี อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย-อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และอดีตนายก อบจ. พรรคประชาธิปัตย์ ได้ออกมาแสดงความเห็นเกี่ยวกับนโยบายการกระตุ้นเศรษฐกิจ เฟส 2 ของรัฐบาล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี โดยมีการแจกเงินสด 10,000 บาท ให้แก่ผู้สูงอายุที่มีอายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไป ที่ลงทะเบียนในระบบและยืนยันตัวตนแล้ว รวมกว่า 4 ล้านคน
ป้า 67 ป่วยหลายโรค หาบเร่ขายของเลี้ยงชีพ หวังได้เงินหมื่น เฟส 2 หวั่นตกหล่น บัตรคนจนก็ไม่มี
บุรีรัมย์ ป้า 67 ป่วยความดัน มีก้อนเนื้อที่คอ แต่ต้องหาบเร่ขายของเลี้ยงชีพและลูกพิการ หวังได้เงินหมื่น เฟสสอง มาแบ่งเบา
ธ.ค.เปิดชื่อแจกหมื่นเฟส2 หั่นเงินส่งFIDFแลกแก้หนี้
“คลัง” ปักธงแจกหมื่นเฟส 2 เป็นเงินสด ให้กลุ่มอายุ 60 ปีขึ้นไป 4 ล้านราย
รัฐบาลเคาะแจกเงินหมื่น เฟส 2 ให้คนอายุ 60 ปีขึ้นไป ก่อนวันตรุษจีนปี 68
น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการนโยบายโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งที่ 1/2567 โดยมี นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรมว.การคลัง
‘คลัง’ชงแพ็กเกจใหญ่!กระตุ้นศก.
“คลัง” ฟุ้งเตรียมขนแพ็กเกจใหญ่กระตุ้นเศรษฐกิจ