'เผ่าภูมิ' หวังผล 'คลัง' นัดเคลียร์ใจ 'แบงก์ชาติ' เป็นไปในทิศทางที่ดี

‘เผ่าภูมิ’ หวังผล ‘คลัง’ นัดเคลียร์ใจ ‘แบงก์ชาติ’ เป็นไปในทิศทางดี แม้อาจยังไม่เข้าใจตรงกัน 100% หวังเห็นภาพเศรษฐกิจใกล้เคียงกัน

16 พ.ค. 67 – นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รมช.การคลัง เปิดเผยว่า ส่วนตัวไม่ได้เข้าร่วมการหารือระหว่างนายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และรมว.การคลัง กับ นายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) จึงไม่ทราบเกี่ยวกับรายละเอียดที่มีการหารือกัน แต่ส่วนตัวคิดว่าภายหลังกาหารือกันในครั้งนี้ ผลที่ออกมาน่าจะเป็นไปในทิศทางที่ดี การที่ได้คุยกัน ได้เปิดเผยกัน ได้มาถกกันลงในรายละเอียด น่าจะนำไปสู่ข้อสรุปที่มีความชัดเจนมากขึ้น อาจจะยังไม่เข้าใจตรงกัน 100% แต่น่าจะเข้าใจตรงกันมากขึ้น ซึ่งเชื่อมั่นว่าน่าจะเป็นไปในทิศทางที่ดีขึ้นแน่นอน

ทั้งนี้ ขอชี้แจงว่า การหารือร่วมกันระหว่างกระทรวงการคลัง และธปท. นั้น ถือเป็นเรื่องปกติมาก เพราะเราสนับสนุนการทำงานร่วมกันระหว่างนโยบายการคลังและนโยบายการเงิน ซึ่งทั้ง 2 ส่วนต้องสอดประสานกัน และถือเป็นเรื่องที่พึงกระทำอยู่เสมอ ซึ่งจากสถานการณ์เศรษฐกิจในปัจจุบัน สิ่งที่ ธปท. และกระทรวงการคลังยังมองเห็นต่างกัน ทำให้นโยบายการเงินและนโยบายการคลัง ยังแตกต่างกัน เพราะมองเศรษฐกิจไม่ตรงกัน เพราะฉะนั้นเมื่อมองสถานการณ์เศรษฐกิจไม่ตรงกัน อัตราการเหยียบคันเร่ง และการเหยียบเบรกจึงแตกต่างกัน ดังนั้นสิ่งที่ดีที่สุดคือการพูดคุยกัน เพื่อที่จะทำให้มองภาพเศรษฐกิจให้ตรงกัน

“ผมเชื่อว่าถ้าเรามองเศรษฐกิจที่ตรงกัน มันจะทำให้เรามีอัตราการเร่งของนโยบายที่ใกล้เคียงกัน และนั่นคือความสอดคล้องกันของนโยบายการเงินและนโยบายการคลัง” นายเผ่าภูมิ กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่า หากท้ายที่สุดแล้วมุมมองทางเศรษฐกิจยังไม่ตรงกันจริง ๆ จะทำอย่างไร หากคนหนึ่งเหยียบเบรก คนหนึ่งเหยียบคันเร่ง รมช.การคลัง ระบุว่า สิ่งที่กระทรวงการคลังให้ความสำคัญคือ ต้องมองเศรษฐกิจให้ตรงกัน ดังนั้นหากได้คุยกัน ได้หารือกันน่าจะเป็นประโยชน์มากขึ้น เพราะเศรษฐกิจมีตัวชี้วัดที่บ่งบอกชัดเจนอยู่แล้วว่าสถานการณ์เศรษฐกิจของประเทศไทยเป็นอย่างไร ทั้งตัวเลขอัตราเงินเฟ้อ อัตราการเติบโตของเศรษฐกิจ ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม (MPI) ซึ่งดัชนีเหล่านี้ต้องหยิบมาคุยกันว่าคิดเห็นอย่างไร มันกำลังมีปัญหา หรือว่ามันกำลังดูดี ต้องหยิบมาคุยกันทีละตัว เพื่อประเมินเศรษฐกิจร่วมกัน เพื่อนำไปสู่ทางออกในการมีนโยบายการเงินและนโยบายการคลังที่สอดคล้องกัน

“จริง ๆ ตัวเลขเศรษฐกิจมันมีตัวชี้วัดอยู่แล้ว มีวิทยาศาสตร์รองรับอยู่ทุกตัวเลข และในทางเศรษฐศาสตร์ทุกตัวเลขมีความหมายที่ตีความได้อย่างเดียวกัน เช่น ตัวเลขหนึ่งบอกค่าไว้ที่ 2% เราไม่สามารถไปตีความได้ว่าตัวเลขนี้สูง หรือตัวเลขนี้ต่ำ แต่ 2% สำหรับนักเศรษฐศาสตร์นั้นก็ต้องมองว่าสูง หรือต่ำเท่า ๆ เทียมกัน เพราะฉะนั้นผมว่าควรจะคุยกัน เป็นเรื่องปกติที่ทาง ธปท. และคลังจะต้องคุยกัน ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร” นายเผ่าภูมิ กล่าว

ขณะที่นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.การคลัง ระบุว่า ส่วนตัวไม่ทราบรายละเอียดเกี่ยวกับการนัดหารือในครั้งนี้แต่อย่างไร ผมก็ทราบจากสื่อเช่นกัน ส่วนรายละเอียดทั้งหมดยืนยันว่าไม่ทราบเลยจริง ๆ

เพิ่มเพื่อน