'คมนาคม' เร่งทางคู่นครปฐม–ชุมพร เปิดเต็มระบบปลายปี67

‘สุรพงษ์’  เร่งสร้างรถไฟทางคู่สายใต้ ช่วงนครปฐม – ชุมพร หลังเปิดให้บริการบางช่วง หากเดินตามแผนจะเปิดให้ประชาชนใช้บริการทางคู่เต็มระบบได้ปลายปี 67แน่นอน มั่นใจเพิ่มศักยภาพการบริการขนส่งทางราง ลดต้นทุนขนส่งระบบโลจิสติกส์

14 พ.ค. 2567 – นายสุรพงษ์ ปิยะโชติ รมช.คมนาคม เปิดเผยความคืบหน้าของโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่สายใต้ ช่วงนครปฐม – ชุมพร  ว่า โครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ ช่วงนครปฐม-ชุมพรนี้  เป็นโครงการสำคัญในเส้นทางสายใต้ มีระยะทาง 420 กิโลเมตร งบประมาณการก่อสร้าง 33,982 ล้านบาท  ซึ่งล่าสุด ได้เปิดให้บริการระหว่าง สถานีบ้านคูบัว จ.ราชบุรี ถึงสถานีสะพลี จ.ชุมพร รวมระยะทาง 348 กิโลเมตร ส่วนช่วงที่ 2 ของสายใต้ระหว่างสถานีโพรงมะเดื่อ-บ้านคูบัว ระยะทาง 50 กิโลเมตร และสถานีสะพลี – ด้านเหนือสถานีชุมพร ระยะทาง 12.80 กิโลเมตร อยู่ระหว่างการดำเนินการ ขณะนี้ทุกโครงการมีความก้าวหน้าตามลำดับ  คาดว่าทุกโครงการจะดำเนินการแล้วเสร็จภายในปีนี้ และมีความพร้อมเปิดให้บริการทางคู่สายใต้ได้เต็มระบบภายในปลายปี 67

สำหรับการติดตามความคืบหน้าโครงการเพื่อให้เกิดความเชื่อมโยงด้านคมนาคม โดยเฉพาะโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่สายใต้ ช่วงนครปฐม – ชุมพร ซึ่งมีความสำคัญต่อการเพิ่มประสิทธิภาพระบบการขนส่งทางราง และการเดินทางของพี่น้องประชาชนในการเดินทางสู่ภาคใต้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งช่วงเทศกาลสงกรานต์  67 ที่ผ่านมา มีพี่น้องประชาชนใช้บริการรถไฟในเส้นทางสายใต้เป็นจำนวนมาก ซึ่งสามารถช่วยให้ผู้โดยสารได้รับความสะดวก พึงพอใจในการใช้บริการและลดเวลาการเดินทางให้น้อยลง

นายสุรพงษ์ กล่าวต่อว่า  โครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ ช่วงนครปฐม-ชุมพร  เป็นโครงการสำคัญในเส้นทางสายใต้ มีระยะทาง 420 กิโลเมตร งบประมาณการก่อสร้าง 33,982 ล้านบาท  ได้เปิดให้บริการระหว่าง สถานีบ้านคูบัว จ.ราชบุรี ถึงสถานีสะพลี จ.ชุมพร รวมระยะทาง 348 กิโลเมตร ส่วนช่วงที่ 2 ของสายใต้ระหว่างสถานีโพรงมะเดื่อ-บ้านคูบัว ระยะทาง 50 กิโลเมตร และสถานีสะพลี – ด้านเหนือสถานีชุมพร ระยะทาง 12.80 กิโลเมตร อยู่ระหว่างการดำเนินการ โดยในส่วนของงานโยธาได้ดำเนินการใกล้เสร็จครบทั้งหมด งานด้านระบบอาณัติสัญญาณ มีความคืบหน้าแล้ว  58.489% และตามแผนจะเปิดใช้ทางคู่ประมาณช่วงเดือนมิถุนายน 2567 

ทั้งนี้ ในภาพรวมความก้าวหน้าของโครงการรถไฟทางคู่สายใต้ทั้งระบบ ซึ่งแบ่งออกเป็น 5 สัญญา ขณะนี้ทุกโครงการมีความก้าวหน้าตามลำดับ โดยคาดว่าทุกโครงการจะดำเนินการาแล้วเสร็จภายในปีนี้ และมีความพร้อมเปิดให้บริการทางคู่สายใต้ได้เต็มระบบภายในปลายปี 2567  โดยมีรายละเอียด ได้แก่

1. ช่วงนครปฐม – หัวหิน สัญญาที่ 1 (นครปฐม – หนองปลาไหล) ระยะทาง 93 กิโลเมตร งบประมาณก่อสร้าง 8,198 ล้านบาท ความคืบหน้าผลงาน 98.319% ล่าช้ากว่าแผน 1.681% 2. ช่วงนครปฐม – หัวหิน สัญญาที่ 2 (หนองปลาไหล – หัวหิน) ระยะทาง 76 กิโลเมตร งบประมาณก่อสร้าง 7,520 ล้านบาท ความคืบหน้าผลงาน 99.313% ล่าช้ากว่าแผน 0.687%

3. ช่วงหัวหิน – ประจวบคีรีขันธ์ ระยะทาง 84 กิโลเมตร งบประมาณก่อสร้าง 5,807 ล้านบาท ปัจจุบันดำเนินการแล้วเสร็จ 4. ช่วงประจวบคีรีขันธ์ – ชุมพร สัญญาที่ 1 (ประจวบคีรีขันธ์ – บางสะพานน้อย) ระยะทาง 88 กิโลเมตร งบประมาณก่อสร้าง 6,465 ล้านบาท ความคืบหน้าผลงาน 99.245% สร้างล่าช้ากว่าแผนงาน 0.755 %  และ5. ช่วงประจวบคีรีขันธ์ – ชุมพร สัญญาที่ 2 (บางสะพานน้อย – ชุมพร) ระยะทาง 79 กิโลเมตร งบประมาณก่อสร้าง 5,992 ล้านบาท ความคืบหน้าผลงาน 99.425% สร้างล่าช้ากว่าแผนงาน 0.575 %

นายสุรพงษ์ กล่าวต่อว่า  โครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ ถือเป็นภารกิจสำคัญในการยกระดับการเดินทาง ที่จะช่วยเพิ่มศักยภาพการให้บริการขนส่งระบบราง ลดต้นทุนการขนส่งระบบโลจิสติกส์ เพิ่มประสิทธิภาพการขนส่งสินค้าทางรถไฟ ลดระยะเวลาในการเดินทาง พัฒนาคุณภาพชีวิต ประหยัดพลังงานเชื้อเพลิงลดปัญหามลพิษต่อสิ่งแวดล้อม เชื่อมโยงเครือข่ายการบริหารจัดการระบบขนส่งมวลชน สินค้าและบริการ ทั้งในพื้นที่ชนบท เมือง และประเทศเพื่อนบ้านอย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ ยังเป็นการเชื่อมต่อระบบการขนส่งเส้นทางท่องเที่ยวของจังหวัดชุมพร เช่น รถเช่า เรือท่องเที่ยว และธุรกิจอื่นๆ ช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศสู่ความมั่นคง มั่งคั่ง อย่างยั่งยืนต่อไป

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ไทยดูแลปลอดภัย! ชาวเมียนมาหนีตายกว่า 200 คน อพยพข้ามชายแดนระนอง

เมื่อช่วงเช้าวันนี้ เจ้าหน้าที่ความมั่นคงจังหวัดระนอง ได้รับแจ้งจากชาวบ้านในพื้นที่ ม.5 บ.น้ำแดง ต.น้ำจืด อ.กระบุรี จ.ระนอง ซึ่งอำเภอกระบุรี เป็นอำเภอเขตติดต่อกับ