หลักทรัพย์ธนชาต ชี้ช่วงครึ่งปีหลัง 67 เป็น 'โอกาส' ในการลงทุนจากหลายปัจจัยบวก

หลักทรัพย์ธนชาต ชี้กลยุทธ์การลงทุนในช่วงครึ่งปีหลัง 2567 เป็น ‘โอกาส’ ในการลงทุน เพราะเริ่มเห็นปัจจัยบวกหลายด้านที่ช่วยหนุนเศรษฐกิจ นอกจากมูลค่าหุ้น (valuation) ที่อยู่ในระดับต่ำแล้ว

7 พ.ค. 2567 – นายอดิศักดิ์ ผู้พิพัฒน์หิรัญกุล Head of Retail Strategy และ Investment Strategist  บริษัทหลักทรัพย์ ธนชาต จำกัด (มหาชน) เผยถึงสภาวะการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ขณะนี้ว่า การลงทุนใน SET ในช่วงที่ผ่านมา แม้มูลค่า (valuation) “ไม่แพง” แต่ก็สร้างผลตอบแทนไม่ดีนัก เพราะเครื่องยนต์ทางเศรษฐกิจมีเพียงเครื่องยนต์เดียวคือภาคการท่องเที่ยว สะท้อนให้เห็นจากเศรษฐกิจที่ขยายตัวต่ำเพียง 1.9% ในปีที่ผ่านมา

อย่างไรก็ตามหากมองในมุมบวก ถือว่าเป็น “โอกาส” ในการลงทุนมากทีเดียว เพราะนอกจาก valuation ที่อยู่ในระดับต่ำแล้ว ยังเห็นเครื่องยนต์ทางเศรษฐกิจที่เร่งตัวขึ้นในช่วงที่เหลือของปีนี้ จากนักท่องเที่ยวที่เติบโตต่อเนื่อง โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวจีน การเร่งเบิกจ่ายงบประมาณรัฐบาล ทำให้การลงทุนภาครัฐฯ ที่หายไปตลอดหลายเดือนที่ผ่านมากลับมาทำงานอีกครั้ง มาตรการ Digital Wallet ปลายปี 2567 ภาคการส่งออกที่น่าจะฟื้นตัวได้ตามภาคการผลิตของโลกที่ผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว และธนาคารกลางหลายแห่งจะเริ่มปรับลดดอกเบี้ยตั้งแต่กลางปีนี้-ปลายปีนี้ เป็นต้นไป

กลุ่มหลักทรัพย์ที่มีรายได้อิงกับการบริโภค-การลงทุนภายในประเทศ และการท่องเที่ยว จะมีกำไรเติบโตได้ดี และเป็นกลุ่มหุ้นที่คาดว่าจะให้ผลตอบแทนที่ดีในช่วงที่เหลือของปีนี้ ได้แก่ CPALL CPN CBG  AOT  AMATA WHA CK STEC และ MTC ขณะที่กลุ่มโรงพยาบาลขนาดใหญ่อย่าง BDMS และ BH เหมาะสำหรับการลงทุนระยะยาว ที่ได้รับผลบวกจากจำนวนผู้ป่วยต่างประเทศที่เพิ่มขึ้น และแนวโน้มสังคมสูงวัยในประเทศ

นอกจากนี้ การลงทุนโดยตรงในหุ้นแล้ว ยังเห็นโอกาสเพิ่มผลตอบแทนจากการลงทุนผ่านหุ้นกู้อนุพันธ์ (Structured Note) ที่ให้อัตราผลตอบแทนในรูปแบบดอกเบี้ย สูง 12% ถึง 20% ด้วยเช่นกัน

เพิ่มเพื่อน