คลังปักธงปี 65 เดินหน้าแก้หนี้ครัวเรือนเป็นวาระของประเทศ

คลังปักธงปี65 เดินเครื่องแก้หนี้ครัวเรือน สั่งปรับโครงสร้างหนี้ทุกประเภท ครอบคลุมทุกกลุ่ม เร่งฟื้นฟูภาคธุรกิจ

4 ม.ค. 2564 นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.การคลัง เปิดเผยว่า จากที่นายกรัฐมนตรีได้กำหนดให้ปี 2565 เป็นปีแห่งการแก้หนี้ภาคครัวเรือน จึงได้สั่งการและมอบหมายให้หน่วยงานต่างๆ ในสังกัดกระทรวงการคลังและสถาบันการเงินเฉพาะกิจ กำหนดให้การแก้ไขปัญหาหนี้สินของประชาชนเป็นพันธกิจหลักและเร่งดำเนินการในประเด็นต่าง ๆ ที่ได้รับมอบหมายให้แล้วเสร็จโดยเร็วต่อไป ดังนี้

1.การแก้ไขปัญหาหนี้กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) นั้น กยศ. ได้ดำเนินการช่วยเหลือลูกหนี้แล้วในหลายด้าน เช่น การปรับปรุงรูปแบบการจ่ายชำระคืน การปรับปรุงลำดับการตัดชำระหนี้ การปรับลดอัตราดอกเบี้ยผิดนัดชำระหนี้ การปรับโครงสร้างหนี้ให้กับผู้ที่มีปัญหา เป็นต้น เพื่อให้ลูกหนี้มีภาระที่ลดลง ทั้งนี้ ได้กำชับให้ กยศ. เร่งติดตามการแก้ไขพระราชบัญญัติเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา พ.ศ. 2560 ซึ่งอยู่ระหว่างนำเสนอให้สภาผู้แทนราษฎรพิจารณา ให้มีผลใช้บังคับโดยเร็ว พร้อมทั้ง กยศ. ได้เร่งดำเนินการช่วยเหลือลูกหนี้อย่างต่อเนื่องทั้งช่องทางออนไลน์ผ่าน Application “กยศ. Connect” และเว็บไซต์ www.studentloan.or.th รวมทั้งช่องทางออฟไลน์

2. การกำหนดให้การไกล่เกลี่ยและการปรับโครงสร้างหนี้เป็นวาระของประเทศ กระทรวงการคลังได้เห็นชอบในหลักการของประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เรื่อง แนวทางการปรับปรุงโครงสร้างหนี้สำหรับลูกหนี้ของสถาบันการเงินเฉพาะกิจ (SFIs) อย่างยั่งยืน ซึ่งมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2565 เป็นต้นไป และได้มอบหมายให้สำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) แจ้งไปยังผู้แทนกระทรวงการคลังในทุก SFIs เพื่อให้เร่งกำหนดวิธีปฏิบัติและแนวนโยบายต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการไกล่เกลี่ยและปรับปรุงโครงสร้างหนี้เพื่อให้มีผลบังคับใช้พร้อมกันในเดือนมกราคม 2565 และได้กำชับให้สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ติดตามการดำเนินการของ SFIs เพื่อช่วยเหลือลดภาระให้กับลูกหนี้ตามประกาศดังกล่าว

3. การแก้ไขปัญหาหนี้เช่าซื้อรถยนต์และรถจักรยานยนต์นั้น ได้มอบหมายให้ สศค. พิจารณาร่วมกับ ธปท. กำหนดแนวทางกำกับดูแลสินเชื่อและธุรกรรมที่มีลักษณะคล้ายคลึงสินเชื่อ เพื่อให้มีการกำกับดูแลธุรกิจเช่าซื้อรถยนต์และรถจักรยานยนต์ที่เหมาะสมต่อไป

4. การแก้ไขปัญหาหนี้สินข้าราชการ โดยเฉพาะข้าราชการครูและข้าราชการตำรวจ ได้มอบหมายให้ธนาคารออมสินเร่งแก้ไขปัญหาหนี้ข้าราชการครูอย่างจริงจัง และร่วมกับกระทรวงศึกษาธิการและกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ขับเคลื่อนโครงการแก้ไขปัญหาหนี้ครูผ่านการใช้สหกรณ์ออมทรัพย์ครูต้นแบบ

5. การปรับลดและทบทวนโครงสร้างและเพดานอัตราดอกเบี้ยและค่าธรรมเนียม และการออกมาตรการคุ้มครองสิทธิของลูกหนี้นั้น ที่ผ่านมากระทรวงการคลังได้ใช้ SFIs เป็นเครื่องมือในการแทรกแซงดอกเบี้ยในตลาดและดำเนินโครงการสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำเพื่อช่วยเหลือประชาชนและผู้ประกอบการ SMEs อย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นไปตามพันธกิจของ SFIs ที่ต้องช่วยให้ประชาชนและผู้ประกอบการ SMEs สามารถเข้าถึงสินเชื่อได้ในอัตราที่เหมาะสม

6. การแก้ไขปัญหาหนี้บัตรเครดิตและสินเชื่อส่วนบุคคล ได้มีนโยบายให้ธนาคารออมสินและธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ให้เข้าร่วมกับโครงการคลินิกแก้หนี้ของ ธปท. เพื่อสนับสนุนให้ปรับเปลี่ยนหนี้บัตรเครดิต บัตรกดเงินสด และสินเชื่อส่วนบุคคลที่ไม่มีหลักประกันให้เป็นสินเชื่อระยะยาวที่มีดอกเบี้ยต่ำลง นอกจากนี้ กระทรวงการคลังได้ร่วมกับ ธปท. SFIs และธนาคารพาณิชย์ ดำเนินโครงการหมอหนี้เพื่อประชาชน เพื่อให้คำปรึกษาเกี่ยวกับแนวทางปรับธุรกิจและมาตรการต่างๆ ให้กับลูกหนี้เป็นรายกรณี อีกทั้ง ยังได้มอบหมายให้ SFIs ทุกแห่งพิจารณาแนวทางช่วยเหลือและแก้ไขปัญหาให้กับลูกหนี้ของแต่ละ SFIs อีกด้วย

7.การแก้ไขปัญหาการเข้าถึงแหล่งเงินทุนของประชาชนรายย่อยและ SMEs ได้มอบหมายให้ สศค. และ ธปท. พิจารณาแนวทางการดูแลลูกหนี้ SMEs ที่ได้สินเชื่อ Softloan ระยะแรกและจะครบกำหนดชำระ 2 ปี โดยจะเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาแนวทางการดูแลดังกล่าวได้ก่อนที่สินเชื่อ Softloan จะครบกำหนดในช่วงเดือนเมษายน 2565

การปรับปรุงขั้นตอนในกระบวนการยุติธรรมเพื่อเอื้อให้เกิดการแก้ไขปัญหาหนี้สิน โดยกระทรวงการคลังพร้อมสนับสนุนกระทรวงยุติธรรมและสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาในการเร่งรัดการแก้ไขกฎหมายเกี่ยวข้องกับการฟื้นฟูกิจการของ SMEs ให้แล้วเสร็จ
กระทรวงการคลังได้ดำเนินมาตรการเพื่อช่วยเหลือและลดภาระให้กับลูกหนี้มาอย่างต่อเนื่อง โดยในระยะสั้นได้มอบหมายให้ธนาคารออมสินจัดทำโครงการ “สร้างงานสร้างอาชีพ” เพื่อช่วยเหลือประชาชนที่ประสบกับปัญหาการขาดรายได้จากการตกงาน ถูกเลิกจ้าง หรือลดเงินเดือน ให้เข้าโครงการอบรมเสริมความรู้ และได้รับสินเชื่อนำไปประกอบอาชีพเพื่อเพิ่มช่องทางในการหารายได้และลดภาระหนี้สิน นอกจากนี้ ในระยะยาวกระทรวงการคลังอยู่ระหว่างจัดทำแผนการให้ความรู้ทางการเงินแก่ประชาชนอย่างครบถ้วนและทั่วถึง เพื่อให้สามารถแก้ไขปัญหาหนี้สินครัวเรือนอย่างยั่งยืนและจะเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาแผนฯ ดังกล่าวต่อไป

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

รัฐบาลเตือนผู้กู้ยืม กยศ.อย่าเบี้ยวหนี้

รัฐบาลเตือนผู้กู้ยืม กยศ.หากไม่ชำระเงินคืนตามกำหนดจะทำให้เกิดภาระดอกเบี้ยและเสียเบี้ยปรับจากการผิดนัดชำระหนี้ รวมถึงถูกฟ้องร้องบังคับคดีตามกฎหมาย ย้ำผู้กู้ยืมต้องมีคุณธรรมมีความรับผิดชอบ

'คารม' แจงยิบยัน 'กยศ.' คิดดอกเบี้ยอัตรา 1%

'คารม' ย้ำ กองทุนกู้ยืมเพื่อการศึกษาคิดดอกเบี้ยอัตรา 1% ตั้งแต่เริ่มกู้จนชำระเสร็จสิ้น ไม่มีการคิดดอกเบี้ยซ้อนดอกเบี้ย ขอให้ผู้กู้ยืมชำระหนี้ตามจำนวนที่แจ้งในหน้าแอปพลิเคชัน กยศ.Connect

รัฐบาลชวนผู้กู้ยืม กยศ.เข้าร่วมมหกรรมแก้หนี้!

รัฐบาลเชิญชวนผู้กู้ยืม กยศ. เข้าร่วม 'มหกรรมแก้หนี้ สร้างวิถีแห่งความเป็นธรรม' ตามสถานที่ที่กำหนดตลอดเดือน ก.ค.2567 เผยมียอดผู้กู้ยืมที่ปรับโครงสร้างหนี้แล้ว 67,194 ราย