เปิดม่านงานแสดงสินค้าอัญมณีระดับโลก JGAB 2024 ผู้ซื้อพบผู้ขายคุณภาพ เจรจาธุรกิจปิดดีล B2B

เปิดม่านงานแสดงสินค้าอัญมณีระดับโลก JGAB 2024 เปิดโอกาสผู้ประกอบการไทยดึงพันธมิตร พร้อมขยายสู่ตลาดต่างประเทศ หนุนไทยเป็นศูนย์กลางอัญมณีและเครื่องประดับของภูมิภาค

1 พ.ค. 2567 – นายภาสกร ชัยรัตน์ อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า เชื่อว่าการจัดงานดังกล่าวจะเป็นประตูสำหรับอุตสาหกรรมเครื่องประดับและอัญมณีของไทยในการเข้าถึงตลาดอาเซียนและเป็นเวทีสำคัญที่ผู้ประกอบการไทยจะได้นำเสนอผลิตภัณฑ์ และเทคนิคการผลิตที่เป็นนวัตกรรมสู่ตลาดอาเซียนและตลาดโลก ขณะเดียวกันยังเป็นการเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการได้รับความรู้และแลกเปลี่ยนเทคโนโลยีใหม่ๆ ในการออกแบบและผลิตเครื่องประดับให้เข้ากับยุคสมัย อีกทั้งเรามองว่างาน JGAB นี้จะเป็นเวทีในการสร้างเครือข่ายและพันธมิตรของไทยครั้งสำคัญตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป

นายมนู เลียวไพโพจน์ ประธาน อินฟอร์มา มาร์เก็ตส์ ประเทศไทย ในฐานะผู้จัดงาน Jewellery & Gem ASEAN Bangkok (JGAB) กล่าวว่า เครือข่ายของ Informa Markets Jewellery ถือเป็นงานแสดงสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับที่ใหญ่และมีชื่อเสียงที่สุดในโลก โดยจะจัดขึ้นเป็นประจำทุกปีในเขตปกครองพิเศษฮ่องกง ญี่ปุ่น อินเดีย สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และบาห์เรน ส่วนประเทศไทยถือเป็นการจัดงานครั้งที่สอง และเป็นงานแสดงสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อีกด้วย สำหรับการงาน JGAB 2024 ซึ่งจัดที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์บนพื้นที่มากกว่า 17,000 ตารางเมตร โดยงานนี้ถือเป็นการรวมตัวครั้งสำคัญของผู้ค้าอัญมณีและเครื่องประดับทั่วโลก ทั้งกลุ่มผู้ซื้อ โดยเฉพาะในกลุ่มผู้ค้าปลีก ผู้ค้าส่ง ผู้ผลิต รวมถึงนักออกแบบจากเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

นอกจากนี้ JGAB 2024 ยังเป็นเวทีสำคัญที่ทำให้ผู้ประกอบการไทยได้พบปะเจรจาธุรกิจกับผู้เข้าชมงาน และผู้ประกอบการทั้งในประเทศและต่างประเทศแล้ว ยังเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการไทยในภาคธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับอัญมณีและเครื่องประดับ โดยเฉพาะกลุ่มผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม หรือ SMEs ได้มีโอกาสแสดงศักยภาพสินค้าที่ผลิตในประเทศไทยโดยฝีมือคนไทยให้เป็นที่ประจักษ์ในระดับนานาชาติอีกด้วย

นายมนู กล่าวต่อว่า ในปีนี้มีผู้ร่วมออกงานแสดงสินค้ารวมกว่า 500 บริษัท จาก 15 ประเทศ โดยเป็นผู้ประกอบการชั้นนำจากต่างประเทศมากกว่า 30% อาทิ จีน ฮ่องกง อินเดีย อิตาลี ญี่ปุ่น สิงคโปร์ และตุรกี และคาดการณ์ว่าจะมีนักธุรกิจและผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมมากกว่า 10,000 ราย จากทั่วภูมิภาค รวมถึงผู้ซื้อที่มีศักยภาพซึ่งเราเชิญมามากกว่า 225 ราย จาก จีน ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ กัมพูชา มาเลเซีย อินเดีย เวียดนาม ญี่ปุ่น แอฟริกาใต้ อินโดนีเซีย ศรีลังกา ออสเตรเลีย เขตปกครองพิเศษฮ่องกง เยอรมณี และ สหรัฐอเมริกา

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

อึ้ง! SMEs ไทย 50% เผชิญปัญหาสมองไหล พนักงานลาออกสูง เหตุ เครียด-ขาดความสุข กระทบการเติบโตภาคธุรกิจ-อุตสาหกรรม สสส. สานพลัง อก. ตั้งศูนย์ Happy Workplace Center 5 แห่งทั่วประเทศ

เมื่อวันที่ 26 มิ.ย. 2567 ที่ศูนย์สุขภาวะ อาคารกองพัฒนานวัตกรรมและเทคโนโลยีอุตสาหกรรม กรุงเทพฯ นายภาสกร ชัยรัตน์ อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม