“นภินทร” สั่ง “ทูตพาณิชย์ เวียดนาม-จีน” จับตาใกล้ชิด การขนส่งผลไม้ ส่งสัญญาณไทยทันทีหากติดหน้าด่านย้ำ!! ช่วยคนไทยส่งทุเรียน-มังคุดช่วงพีค เข้าจีน ให้เร็วที่สุด
28 เม.ย. 2567 นายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ ให้สัมภาษณ์ถึงผลการประชุมหารือกับรองนายกเทศมนตรีเมืองฉงจั่ว เขตปกครองตนเองกว่างซีจ้วง และจากการสำรวจตลาดสำคัญในประเทศจีน ว่า
“ วัตถุประสงค์ในการเดินทางของผมในครั้งนี้ เนื่องจาก ผลไม้ไทยในช่วงฤดูร้อน จะเริ่มออกในเดือนเมษายนถึงมิถุนายน แต่ในปีนี้ ผลไม้ไทยบางส่วนเลื่อนมาออกในเดือนพฤษภาคม โดยเฉพาะทุเรียนของภาคตะวันออกและภาคใต้ และยังตรงกับทุเรียนของเวียดนาม ทำให้การออกในเดือนมิถุนายนอยู่ในปริมาณที่มาก ซึ่งกระทรวงพาณิชย์เป็นห่วงสถานการณ์การกระจายสินค้าในประเทศและต่างประเทศโดยเฉพาะที่สำคัญคือทุเรียนกระจายไปสู่ประเทศจีนจำนวนมาก เพราะฉะนั้นในช่วงที่ผลผลิตออกมาปริมาณมาก ทำให้การขนส่งไปยังประเทศจีนอาจติดขัด และเกิดปัญหาขึ้นได้ ทางกระทรวงพาณิชย์จึงได้ติดตาม การขนส่งผลไม้จากไทยผ่านเวียดนามและเข้าสู่ประเทศจีนที่เมืองฉงจั่ว ผ่าน 2 ด่านที่สำคัญของเวียดนามคือด่านหูหงิ ซึ่งเป็นทางรถยนต์ และเป็นเส้นทางที่ค่าใช้จ่ายในการขนส่งถูกที่สุด และอีกด่าน คือด่านรถไฟด่งดัง เข้าด่านรถไฟผิงเสียงของจีน และอีกเส้นทางหนึ่ง คือ เส้นทางเรือ ที่ออกจากท่าเรือแหลมฉบังไปยังประเทศจีน ได้แก่ ท่าเรือกวางโจว ท่าเรือชินโจว ท่าเรือเสินเจิ้น ท่าเรือฮ่องกง“
โดยผมได้นำคณะมาสำรวจเส้นเวียดนาม และจีน โดยสำรวจที่เวียดนามที่แรกคือ ด่านหูหงิ และด่านรถไฟด่งดัง พบว่าการขนส่งโดยรถไฟยังมีความสามารถในการขนส่งได้อีก เนื่องจากว่าสามารถส่งได้วันประมาณ 6 ขบวนด้วยกันขบวนหนึ่งประมาณ 25 ตู้ ซึ่งปัจจุบันใช้ไปเพียง 2 ตู้ ส่วนทางด่านหูหงิ ซึ่งเข้าสู่ประเทศ จีนทางด่านโหย่วอี้กวน ซึ่งเป็นที่นิยมที่สุดซึ่งแต่เดิมก็สามารถขนส่งได้ในวันประมาณ 150 ตู้ ในขณะนี้ได้มีการขยายขยายเพิ่มขึ้นเป็น 250 ตู้ และการพูดคุยกับทางด่านหูหงิ โดยลางเซินของประเทศเวียดนาม และฉงจั่วประเทศจีนได้พบปะหารือกัน ก็จะพยายามขยายเวลาและขยายการตรวจเพื่อให้การขนส่งผลไม้ไทยเข้าสู่ประเทศจีนได้เร็วขึ้น”
อย่างไรก็ดีในเดือนพฤษภาคม คาดว่าจะมีผลไม้ของไทยนั้นออกจำนวนมากและคาดว่าจะมีถึง 900 ตู้ในบางวัน เพราะฉะนั้นจะต้องมีการพูดคุยกัน และเตรียมความพร้อมในทางเรือด้วย ตนจึงได้สั่งการให้ทูตพาณิชย์เวียดนามและทูตพาณิชย์จีน ประสานงานกับกระทรวงเกษตรเพื่อรับทราบข้อมูลสินค้าเกษตรทั้งหมดที่ผ่านด่านของประเทศไทยออกมาทางบกเข้าสู่เวียดนาม ว่ามีปริมาณเท่าใดในแต่ละวันและสถานการณ์ในแต่ละด่านไม่ว่าจะเป็นที่เวียดนามหรือจีนมีความคับคั่งขนาดไหนเพื่อให้ผู้ประกอบการสามารถตัดสินใจได้ว่าควร จะขนสินค้ามาในช่วงเวลาใด ในขณะเดียวกันควรจะมาทางบกหรือทางเรือ และได้ประสานงานกับด่านโหย่วอี้กวน ของประเทศจีนในช่วงเวลาที่รถคับคั่งบริเวณด่าน ทางฉงจั่วจะขยายเวลาและเพิ่มเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงาน เพื่อให้สินค้านั้นผ่านไปได้เร็วขึ้น
จากนั้นคณะได้ไปสำรวจสินค้าที่ตลาดกลางขนาดใหญ่หนานหนิงชื่อ ตลาด HIGREEN และเป็นตลาดกลางผักและผลไม้ที่ใหญ่ที่สุดในจีน คือตลาดเจียงหนาน ซึ่งตั้งอยู่ในกวางโจว พบว่าสินค้าในส่วนของทุเรียนเป็นที่นิยมพบว่าสินค้าของประเทศไทยขายได้ดี คนจีนยอมรับสินค้าทุเรียนของไทยและที่สำคัญก็คือมาตรฐานการตัดผลไม้ ที่ไม่ตัดผลไม้ที่อ่อน จึงอยากจะฝากพี่น้องเกษตรกรคงคุณภาพไว้ โดยขอให้ตัดทุเรียนที่มีความสุกไม่น้อยกว่า 70%
นอกจากนี้ได้มีการหารือกับทูตเกษตรของไทยที่อยู่ที่กว่างโจว ในการที่จะผลักดันให้สินค้าแปรรูป เช่น มะพร้าว ลําไย มะม่วง และมังคุดแช่แข็ง ให้ทางประเทศจีนรับสินค้าแปรรูปของไทย โดยเฉพาะมะพร้าวและลำไยเพื่อจะช่วยให้ดูดซัพพลายได้เยอะและดึงราคาสินค้าเกษตรขึ้นมา
“ขอให้ผู้ประกอบการติดตามข้อมูลกระทรวงพาณิชย์ที่ ที่ได้เก็บข้อมูล ว่าในแต่ละวันนั้นมีสินค้าออกจากประเทศไทยปริมาณเท่าใดและขณะเดียวกันสถานการณ์ในแต่ละด้านของทางเวียดนามไม่ว่าจะเป็นด่านหูหงิและด่งดัง และ ด่านในประเทศจีนไม่ว่าจะเป็นด่านโหย่วอี้กวนและด่านรถไฟผิงเสียง มีความคับคั่งของสินค้าขนาดไหนต้องรอการเข้าสู่ประเทศจีนมากขนาดไหน เพื่อประกอบการพิจารณาของท่านว่า ท่านจะเลือกส่งสินค้ามาในช่วงนั้นทางใดหรือไม่ หากว่าต้องเสียเวลาในการติดขัด4-5 วัน จะทำให้ผลไม้นั้นเสื่อมคุณภาพลง เพราะฉะนั้น อยากให้ท่านติดตามสถานการณ์จากกระทรวงพาณิชย์อย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะที่สำคัญก็คือลองพิจารณาดูเส้นทางที่เหมาะสม เส้นทางทางเรือซึ่งถือได้ว่าเป็นการขนส่งที่มีประสิทธิภาพอีกทางเพื่อนำผลไม้ส่งออกเข้าสู่ประเทศจีน” นายนภินทร กล่าว
ปริมาณทุเรียนไทยส่งออก ไปยังประเทศจีนในปีที่ผ่านมา (ปี2566)ร้อยละ 99.5 ของปริมาณที่ส่งออกทั้งหมด และผลผลิตมังคุดร้อยละ 96.4 ของปริมาณที่ส่งออกทั้งหมด
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
พาณิชย์ชวนร้านค้ารับเครื่องหมาย DBD Registered
“นภินทร” ชวน ร้านค้าออนไลน์ รับเครื่องหมาย DBD Registered / DBD Verified สร้างความเชื่อมั่นผู้ซื้อ ป้องกันการถูกหลอกลวง
พาณิชย์ขึ้นทะเบียน 'ทุเรียนบางนรา' สินค้า GI ตัวใหม่
“พาณิชย์” เดินหน้าสนับสนุนชุมชนท้องถิ่นอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดขึ้นทะเบียนสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (GI)“ทุเรียนบางนรา” ของจังหวัดนราธิวาส เนื้อละเอียด รสชาติหวานมันกลมกล่อมเป็นเอกลักษณ์ มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักกันแพร่หลาย จนเป็นที่ต้องการของตลาดทั้งในประเทศและต่างประเทศ
พาณิชย์ขึ้นทะเบียน GI 'หินอ่อนพรานกระต่าย'
“พาณิชย์” เดินหน้าสนับสนุนชุมชนท้องถิ่นอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดขึ้นทะเบียนสิ่งบ่งชี้ ทางภูมิศาสตร์ (GI) “หินอ่อนพรานกระต่าย” สินค้าเด่นประจำจังหวัดกำแพงเพชร อัตลักษณ์ชัดเจน มีหลากหลายสี พบได้แห่งเดียวในประเทศไทย สร้างรายได้เข้าจังหวัดกำแพงเพชร กว่า 19 ล้านบาทต่อปี
‘สุชาติ’ นำทัพถกจีนลุยขยายการค้าไทย-จีน ผลักดันเปิดตลาดสินค้าเกษตรเพิ่ม
รมช.พณ. สุชาติ นำทีมไทยแลนด์ ถกประเด็นความร่วมมือทางการค้าระหว่างไทย-จีน ในการประชุม “ซับ-คอมมิทตี ไทย-จีน”
'นภินทร' ขึ้นทะเบียน GI ตัวล่าสุด 'กล้วยหอมทองเพชรบุรี' เตรียมส่งออกญี่ปุ่น
"นภินทร“ ประกาศ ขึ้นทะเบียน GI ตัวล่าสุด "กล้วยหอมทองเพชรบุรี" เตรียมส่งออกญี่ปุ่น ต่อเนื่อง, คาดสร้างรายได้กว่า 580 ล้านบาทต่อปี