‘จุลพันธ์’ พร้อมแจงบอร์ด ธ.ก.ส. ปมดึงร่วมแจกดิจิทัล วอลเล็ต ยืนสภาพคล่องแข็งแกร่ง ด้าน ‘ปลัดคลัง’ ระบุต้นสัปดาห์หน้าคณะอนุกรรมการกำกับจ่อถกความคืบหน้า สำนักงบประมาณ-บัญชีกลาง ลุยเช็คลิสต์ล้างท่อโครงการอืดใช้งบ 67 ไม่ทัน โยกอุ้มดิจิทัล วอลเล็ต
27 เม.ย. 2567 – นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.การคลัง กล่าวว่า การประชุมคณะกรรมการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เมื่อวันที่ 26 เม.ย. คงยังไม่ได้มีการหารือลงลึกในรายละเอียดเกี่ยวกับข้อกฎหมายในการให้ ธ.ก.ส. ร่วมในการดำเนินโครงการดิจิทัล วอลเล็ต โดยเบื้องต้นอาจจะมีการแจ้งให้ที่ประชุมรับทราบว่าจะมีการดำเนินการเรื่องนี้ หากมีข้อสงสัยอะไร ก็พร้อมจะชี้แจงทำความเข้าใจทั้งหมด
ทั้งนี้ กรณีที่มีการแสดงความเป็นห่วงเรื่องสภาพคล่องของ ธ.ก.ส. นั้น ยืนยันว่าสภาพคล่องของ ธ.ก.ส. มีเพียงพอ และอยากให้เข้าใจว่ารัฐบาลในฐานะคนปฏิบัติ เราอยู่ด้านใน รู้ความพร้อมและข้อกฎหมายทั้งหมด ส่วนกรณีคนที่คัดค้านก็ต้องหามุมมาพูด มาบอกว่าทำไมจึงไม่ควรเดินหน้าโครงการอยู่แล้ว ตรงนี้เป็นเรื่องธรรมดา แต่ด้วยความเป็นรัฐบาลมีความรับผิดชอบต่อประชาชนเพราะผ่านการเลือกตั้ง ผ่านการแถลงนโยบายต่อสภา ดังนั้นนโยบายนี้ก็ต้องเดินหน้า ส่วนประเด็นเรื่องความห่วงใย หรือข้อคิดเห็นทั้งหมดนั้นรัฐบาลพร้อมรับฟังและรับไว้ โดยสิ่งใดที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) สั่งการให้รับความเห็นและนำไปพิจารณา ก็ต้องไปดูว่าอะไรที่เป็นประโยชน์ อะไรที่พอจะปรับเปลี่ยน หรือหากลไกมาป้องกันตามข้อห่วงใยได้ ก็พร้อมจะทำ
นายลวรณ แสงสนิท ปลัดกระทรวงการคลัง กล่าวว่า คาดว่าในช่วงต้นสัปดาห์หน้าคณะอนุกรรมการกำกับการดำเนินโครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่านดิจิทัล วอลเล็ต ซึ่งมีนายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง เป็นประธาน จะมีการประชุมเพื่อติดตามความคืบหน้าเกี่ยวกับโครงการดิจิทัล วอลเล็ต ทั้งในส่วนของร้านค้าที่จะเข้าร่วมโครงการ แหล่งเงินและระบบที่จะใช้ในการดำเนินโครงการ ตลอดจนแนวทางป้องกันการทุจริตต่าง ๆ ว่าเป็นอย่างไร ว่ามีความคืบหน้าไปถึงไหน
ทั้งนี้ ยืนยันว่าการดำเนินการผ่านธ.ก.ส. วงเงิน 1.72 แสนล้านบาท ด้วยมาตรา 28 นั้น ไม่ใช่รัฐบาลกู้เงินจาก ธ.ก.ส. อย่างแน่นอน แต่เป็นเงินทดลองจ่ายไปก่อน แล้วรัฐบาลจะตั้งงบมาชำระคืน ดังนั้นกติกาการใช้จ่ายของประชาชนและเกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการก็จะเหมือนกันทั้งหมด อีกทั้งยืนยันว่าโครงการดังกล่าวไม่ขัดต่อ พ.ร.บ. เงินตรา อย่างแน่นอน เพราะรัฐบาลมีแหล่งเงินชัดเจนและมีเม็ดเงินครบทั้ง 5 แสนล้านบาทในการรองรับการดำเนินการอยู่แล้ว
ส่วนเม็ดเงินของโครงการที่จะใช้จากงบประมาณปี 2567 จำนวน 1.75 แสนล้านบาทนั้น สำนักงบประมาณ และกรมบัญชีกลางอยู่ระหว่างการพิจารณาดูว่า มีโครงการใดของหน่วยงานใดบ้างที่อาจจะดำเนินการใช้ไม่ทัน ผูกพันไม่ทัน ก็จะดึงกลับมา ขณะเดียวกันก็ยังมีงบกลางปี 2567 อีกราว 9 หมื่นล้านบาท โดยต้องยอมรับว่างบประมาณปี 2567 ไม่ปกติ เริ่มบังคับใช้ล่าช้า และทำให้เหลือเวลาใช้อีกราว 5 เดือนเท่านั้น ซึ่งตรงนี้ก็ต้องไปเกลี่ยดู โดยคาดว่าราว 1- 1 เดือนครึ่งก็น่าจะเริ่มเห็นความชัดเจน และหลังจากนั้นก็จะมีการออก พ.ร.บ. โอนงบประมาณในส่วนนี้มาเพื่อรองรับโครงการดิจิทัล วอลเล็ต