กนอ.โวยอดขาย/เช่าพื้นที่ครึ่งปีแรกพุ่ง ตั้งเป้าเพิ่มขึ้นเป็น 4,500 ไร่

กนอ.โวยอดขาย/เช่าพื้นที่ครึ่งปีแรกทะลุเป้า ตั้งความหวังใหม่ที่ 4,500 ไร่ พร้อมจับตาสงคราม-สถานการณ์เศรษฐกิจป่วนการลงทุน ลุยศึกษาผุดนิคมฮาลาล และในพื้นที่แลนด์บริดจ์ เผยโครงการตามนโยบายรัฐ-องค์กร คืบหน้าตามแผน

25 เม.ย. 2567 -นายวีริศ อัมระปาล ผู้ว่าการการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(กนอ.) เปิดเผยว่า ในช่วง 6 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2567 (ต.ค. 2566-มี.ค. 2567) กนอ. มียอดขาย/เช่าพื้นที่นิคมอุตสาหกรรม 3,946 ไร่ แบ่งเป็นพื้นที่ในเขตพัฒนาพิศษภาคตะวันออก (อีอีซี) 3,472 ไร่ และนอกพื้นที่อีอีซี 474 ไร่ คิดเป็นมูลค่าการลงทุน 158,372 ล้านบาท ซึ่งเกินกว่าเป้าหมายของปีงบประมาณ 67 ที่กนอ. ตั้งไว้ 3,000 ไร่แล้ว และเห็นถึงโอกาสของการลงทุน จึงได้มีการตั้งเป้ายอดขาย/เช่าพื้นที่ของปีนี้เพิ่มขึ้นเป็น 4,500 ไร่ แต่ต้องติดตามสถานการณ์ความรุนแรงของสงครามต่าง ๆ และความตรึงเครียดของภาวะเศรษฐกิจว่าจะยืดยาวมากน้อยแค่ไหน เนื่องจากเป็นปัจจัยหลักที่สร้างผลกระทบให้กับภาคอุตสาหกรรมทั้งการลงทุน การส่งออก รวมถึงโลจิสติกส์ด้วย แต่มั่นใจว่านักลงทุนยังเชื่อมั่นความสามารถของประเทศไทย โดยที่ผ่านมากลุ่มต่างประเทศมีการขยายการลงทุนในไทยอย่างต่อเนื่องทั้งจีน ยุโรป และญี่ปุ่น

“กนอ. มีแผนดำเนินการเพื่อพัฒนาพื้นที่รองรับการลงทุนอีกหลายโครงการ โดยเบื้องมองไปถึงการพัฒนาพื้นที่เพิ่มรับการลงทุนที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมฮาลาล หรือเป็นนิคมฮาลาลและเกี่ยวข้องกับอาหารทะเล เพื่อรองรับนโยบายของรัฐบาล รวมถึงยังมีแผนศึกษาจัดตั้งนิคมอุตสาหกรรมในพื้นที่โครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านการคมนาคมขนส่งเพื่อพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคใต้ เพื่อเชื่อมโยงการขนส่งระหว่างอ่าวไทยและอันดามัน(แลนด์บริดจ์) และนิคมยางเพิ่มเติม ขณะที่โครงการที่กำลังดำเนินการอยู่ก็มีการจัดโปรโมชั่นกระตุ้นยอดขายอย่างต่อเนื่อง”นายวีริศ กล่าว

สำหรับโครงการสำคัญตามนโยบายรัฐ-องค์กร อย่างโครงการพัฒนาท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุด ระยะที่ 3 ที่มีวัตถุประสงค์หลักคือ เพิ่มขีดความสามารถของท่าเรือมาบตาพุด เพื่อรองรับการขนถ่ายสินค้าเหลวและก๊าซธรรมชาติ (LNG) 14.8 ล้านตัน/ปี เอกชนร่วมลงทุนทั้งถมทะเล สร้างท่าเรือ และประกอบกิจการ ระยะเวลาดำเนินการ 35 ปี เงินลงทุน 55,400 ล้านบาท คาดว่าเมื่อแล้วเสร็จจะมีผลตอบแทนทางเศรษฐกิจมูลค่า 32,000 ล้านบาทนั้น ความคืบหน้าล่าสุด อยู่ที่ 87.33% (ข้อมูล ณ วันที่ 19 เม.ย. 67) ซึ่งการถมทะเลและก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานคาดว่าจะแล้วเสร็จปลายปี 2567 และสามารถก่อสร้างท่าเรือก๊าซฯ ได้ในช่วงต้นปี 2568 ก่อนที่จะพร้อมเริ่มดำเนินการเชิงพาณิชย์ได้ในปี 2570

“การก่อสร้างโครงการฯ ในช่วงที่ 2 นั้น อยู่ระหว่างทบทวนรายงานผลการศึกษา เพื่อคัดเลือกเอกชนร่วมลงทุนพัฒนาก่อสร้างท่าเทียบเรือสินค้าเหลวและพื้นที่หลังท่า แต่เรื่องการลงทุนด้านปิโตรเคมีในมาบตาพุดก็ต้องจับตาอย่างใกล้ชิด เนื่องจากปัจจุบันกลุ่มประเทศจีนที่เคยเป็นลูกค้าของไทยก็หันมาเป็นผู้ผลิตและส่งออกมาขายแข่งเพื่มมากขึ้น กลงทุนในปัจจุบนก็อาจจะมีความเสี่ยง ซึ่งส่งผลให้การตัดสินใจของนักลงทุนในประเทศก็ยังไม่กล้าตัดสินใจ” นายวีริศ กล่าวขณะที่โครงการนิคมอุตสาหกรรมสมาร์ท ปาร์ค (Smart Park) มีความก้าวหน้า 84.81% (ณ วันที่ 22 เม.ย. 2567) คาดว่าจะสามารถเปิดให้บริการได้ตามแผนที่วางไว้ในปี 2567 มีนักลงทุนจากหลายประเทศให้ความสนใจเข้ามาลงทุน ล่าสุดนักลงทุนจากจีนสนใจเช่าที่ดินแบบเหมาแปลงใหญ่ เพื่อประกอบกิจการในกลุ่มอุตสาหกรรมแห่งอนาคต (New S-Curve) ทั้งนี้ เมื่อดำเนินการแล้วเสร็จคาดว่าจะเกิดการจ้างงาน 7,459 คน มีเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจพื้นที่กว่า 1,342 ล้านบาทต่อปี

อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมา กนอ. ได้ดำเนินการทำโปรโมชั่นกระตุ้นการลงทุนในนิคมอุตสาหกรรมสมาร์ท ปาร์ค (Smart Park) จังหวัดระยอง และนิคมอุตสาหกรรมภาคใต้ ในส่วนของ Rubber City ดังนี้ นิคมอุตสาหกรรมสมาร์ท ปาร์ค ระยะเวลาโปรโมชั่นตั้งแต่ 1 ก.ย. 66 ถึง 27 ธ.ค. 67 ได้รับสิทธิประโยชน์ ยกเว้นค่าเช่าที่ดิน 1 ปี ยกเว้นค่าบริการบำรุงรักษาสิ่งอำนวยความสะดวก 1 ปีแรก โดยมีเงื่อนไข คือ ทำสัญญาเช่าที่ดินเพื่อประกอบกิจการในนิคมอุตสาหกรรม วางหลักประกันการเช่าที่ดินเป็นเงินสดหรือหนังสือค้ำประกันเต็มจำนวน มูลค่าสองเท่าของค่าเช่ารายปี ห้ามให้เช่าช่วงหรือโอนสิทธิการเช่าที่ดินบางส่วนหรือทั้งหมดภายใน 2 ปี แจ้งเริ่มประกอบกิจการภายใน 3 ปี และมีระยะเวลาการเช่าที่ดินไม่น้อยกว่า 10 ปี โดยเงื่อนไขและข้อกำหนดทั้งหมดเป็นไปตามที่ กนอ. กำหนด

ด้านนิคมอุตสาหกรรมภาคใต้ ในส่วนของ Rubber City ระยะเวลาจัดโปรโมชั่นระหว่างวันที่ 15 มี.ค. 67 ถึง 30 ก.ย. 67 โดยให้สิทธิประโยชน์ทั้งผู้ประกอบกิจการใหม่ และผู้ประกอบกิจการเดิม ซึ่งผู้ประกอบกิจการใหม่ จะได้รับส่วนลด 3% จากราคาขายที่ดิน ขณะที่ผู้ประกอบกิจการเดิม จะได้รับส่วนลด 5% จากราคาขายที่ดิน มีเงื่อนไข คือ ทำสัญญาจะซื้อจะขายหรือสัญญาซื้อขายที่ดินเพื่อประกอบกิจการ ชำระค่ามัดจำไม่น้อยกว่า 15% ของมูลค่าที่ดิน แจ้งเริ่มประกอบกิจการภายใน 3 ปี ห้ามขายหรือโอนที่ดินภายใน 9 ปี เว้นแต่ได้รับอนุญาตจาก กนอ. กรณีไม่ปฏิบัติตาม กนอ. มีสิทธิ์ยกเลิกมาตรการ ยึดเงินมัดจำ และเรียกร้องค่าเสียหายได้

เพิ่มเพื่อน