“ภูมิธรรม” บุกตลาดย่านนนทบุรี ตรวจความพร้อมร้านค้าเข้าร่วมดิจิทัลวอลเล็ต ยัน 10,000 บาท เข้ากระเป๋าแน่ปลายปีนี้
21 เม.ย. 2567 – นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวภายหลังลงพื้นที่ตรวจสอบความพร้อมร้านค้าที่จะเข้าร่วมโครงการดิจิทัลวอลเล็ต ที่ตลาดดวงแก้ว จ.นนทบุรี
นายภูมิธรรม กล่าวว่า วันนี้มาที่ตลาดดวงแก้วดูความพร้อมการเข้าร่วมโครงการดิจิทัลวอลเล็ต ให้พี่น้องประชาชนทุกอำเภอ ทุกหมู่บ้าน มีส่วนช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ ที่ช้าเพราะมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ เราเคยผ่านมาแล้วทั้งโครงการกองทุนหมู่บ้านละหนึ่งล้านบาท โครงการ 30 บาทรักษาทุกโรค
โครงการนี้พรรคเพื่อไทยคิด เสนอเป็นนโยบายรัฐบาลต่อสภา คาดว่าภายในสิ้นปีนี้ พฤศจิกายน-ธันวาคม เงินเข้ากระเป๋าแน่นอน ตอนแรกคิดที่ 4 ตารางกิโลเมตร เพราะหวังให้เงินกระจายลงพื้นฐานชุมชนให้มากที่สุด แต่พบว่าบางที่ยังขาดที่ใช้เงิน เช่น ร้านค้าห่างไกล หน่วยอำเภอน่าจะใหญ่พอและมีความพร้อม มีการวิพากษ์วิจารณ์ว่าเอามาใช้แล้วเกิดประโยชน์กับนายทุนเราไม่กังวล เราให้พี่น้องประชาชนเอามาใช้สำหรับชีวิตประจำวัน การลงทุน เอาเงินไปต่อเงิน ซุปเปอร์มาร์เก็ตใหญ่เราไม่สนใจ ถ้าเป็นรายย่อยอยู่ในปั๊มน้ำมันถือว่าเกิดการหมุนเวียนเศรษฐกิจของชุมชน บังคับในช็อตแรกต้องลงถึงชุมชนทั้งหมดเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจ
ในหลักทฤษฎีเงินถ้าถูกกระจาย ส่วนย่อยทั้งหมดจะขยายตัวและหมุนได้อีกหลายรอบเราบังคับที่รอบแรกให้กระจายไปทั่ว หลังจากที่เศรษฐกิจโต ธุรกิจทุกอย่างก็จะโต ดีดีต่อจีดีพีประเทศ ซึ่งวิจารณ์ได้เรารับฟังหลายเรื่องเราก็เอามาปรับ
วันนี้มาซื้อของพ่อค้าแม่ค้าก็บอกว่าเศรษฐกิจซบเซา แย่มาหลายปีและต่อเนื่องตนจึงบอกว่า ผู้มีความรู้ทั้งหลายมาเดินตลาดไม่ต้องเถียงทฤษฎี เข้าสู่ความเป็นจริง ต้องให้รัฐบาลที่มาจากเสียงของประชาชนที่แถลงนโยบายต่อรัฐสภาที่หาเสียงมาให้ทำ ดูที่ผลบั้นปลาย ถ้าทำไม่ได้ คนเสนอนโยบายต้องรับผิดชอบทางการเมืองอยู่แล้ว
เราไม่กลัวสิ่งที่คิดใหม่เพราะเราทำสำเร็จในสิ่งที่คนต่อต้านมาแล้ว เช่น 30 บาทรักษาทุกโรคก็เป็นเครื่องพิสูจน์ ให้คำมั่นสัญญาว่าปลายปีนี้เงิน 10,000 บาทถึงมือ ใช้ให้เกิดประโยชน์ให้เกิดการหมุนเวียน
วันนี้เราตัดสินใจเอาเงิน 500,000 ล้านบาททุ่มกระตุ้นเศรษฐกิจ อย่ากังวลว่าทำไมรัฐบาลชุดนี้เอาเงิน 500,000 ล้านบาท มากระตุ้นเศรษฐกิจ เพราะรัฐบาลที่ผ่านมาเอาเงินมากกว่านี้กระตุ้นเศรษฐกิจ หรือบางพรรคที่พูดถึงการจัดสวัสดิการสังคมใช้เงินมากกว่า 500,000 ล้านบาท ซึ่งต้องรับผิดชอบนาน ต้องหาเงินตลอดไป อันนั้นต่างหากที่เป็นปัญหา ประเทศต่างๆที่เจริญแล้วที่กระตุ้นเศรษฐกิจก็ทำ ไปดูสิงคโปร์ สหรัฐอเมริกา และอีกหลายประเทศ ยามที่เศรษฐกิจวิกฤตก็ใช้วิธีต่างๆ ให้เรามีความหวัง อยากให้มั่นใจรัฐบาลเพื่อไทยแถลงนโยบายแล้วเราอยากทำอย่างนั้น รัฐบาลนี้เป็นรัฐบาลที่ทำเรื่องเศรษฐกิจดิจิทัล เป็นรัฐบาลผสม เป็นผลงานร่วมกันของรัฐบาลชุดนี้ ถึงแม้ต้นคิดจะเป็นเพื่อไทยและจะสำเร็จได้ต้องการความร่วมมือ วันนี้ไม่ต้องการความขัดแย้ง ประเทศจะเดินหน้าได้ต้องมีความร่วมมือกัน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'ภูมิธรรม' เผย 4 ลูกเรือประมงไทยได้กลับบ้าน 4 ม.ค.68 ยันกองทัพไม่ได้อ่อนแอ
นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงความคืบหน้าการช่วยลูกเรือประมงไทยทั้ง 4 คนที่ถูกดำเนินคดีและตัดสินโทษจำคุกในข้อหารุกล้ำน่านน้ำเมียนมา ว่า การล่วงล้ำชายแดนไม่ว่าจะเป็นทางบกหรือทางทะเล
'รมว.กลาโหม' ลั่นยึดหลักเจรจา ปม 'ว้าแดง' บอกมีอีกหลายเรื่องพูดไม่ได้
นายภูมิธรรม เวชชัย รองนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม กล่าวถึงการแก้ไขปัญหาพื้นที่พิพาทชายแดนไทยเมียนมา ซึ่งอยู่ในกลุ่มอิทธิพลของกลุ่มว้า ว่า มีการพูดคุยในที่ประชุมสภากลาโหม และได้เห็นเอกสารทั้งหมดโดยเฉพาะ เรื่องเขตแดน
'รัฐบาลพ่อเลี้ยง' ฉายารัฐบาลปี67 นายกฯ'แพทองโพย' อนุทิน'ภูมิใจขวาง' วาทะแห่งปี'สามีเป็นคนใต้'
สื่อทำเนียบฯ ตั้งฉายาปี 67 'รัฐบาล(พ่อ)เลี้ยง' ส่วนฉายานายกฯ 'แพทองโพย' 7 รมต.ติดโผ 'บิ๊กอ้วน-อนุทิน-ทวี' พ่วง 3 รมต.โลกลืม
นายกฯ ยิ้มรับถูกถามศาลรธน. ตีตกคำร้องดิจิทัลวอลเล็ต ย้อนถามสื่อต้องหน้าบึ้งเหรอ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าภายหลังเสร็จสิ้นภารกิจเป็นประธานการประชุมศูนย์ปฏิบัติการติดตามเร่งรัดการบำบัดรักษา ฟื้นฟูสภาพทางสังคม ป้องกัน และปราบปรามยาเสพติด ครั้งที่ 2/2567 ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.)
“พิชัย” คิกออฟ New Year Mega Sale 2025 ลดราคาสินค้า-บริการ 4 หมื่นรายการ สูงสุด 80% เป็นของขวัญปีใหม่
“พิชัย” คิกออฟโครงการ “พาณิชย์ลดราคา New Year Mega Sale 2025” ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในโครงการฟื้นฟูเศรษฐกิจของรัฐบาล เป็นของขวัญปีใหม่ให้คนไทยทั้งประเทศ ผนึกกำลังผู้ผลิต
พาณิชย์คลอดมาตรการ ‘อนุญาตให้นำเข้า' ก่อน ‘ห้ามนำเข้า’ เศษพลาสติก
กระทรวงพาณิชย์ โดยกรมการค้าต่างประเทศออกกฎกำหนดมาตรการนำเข้าเศษพลาสติก 2 ฉบับ เพื่อรักษาสภาวะแวดล้อมและป้องกันอันตรายต่อสุขภาพของประชาชน โดยเป็นการดำเนินการตามนโยบายกำกับการนำเข้าเศษพลาสติก ที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติเห็นชอบเมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2566