บวท. ผุดรูทบินใหม่ผ่าน 3 น่านฟ้า 'ไทย-ลาว–จีน' ดันเที่ยวบินพุ่ง 2 แสนไฟล์ตต่อปี

บวท. กางแผนชง ICAO ไฟเขียวรูทบินใหม่ผ่าน 3 น่านฟ้า ‘ไทย – ลาว – จีน’รองรับเที่ยวบินเพิ่ม 2 แสนไฟล์ตต่อปี คาดได้รับอนุมัติ เริ่มเปิดใช้บริการปี 2569 ขณะที่ปริมาณเที่ยวบินเข้าไทย ฟื้นตัวแล้วกว่า 80% คาดปีนี้รองรับ 9 แสนเที่ยวบิน โกยรายได้ 1.2 หมื่นล้านบาท

29 มี.ค.2567-นายณพศิษฏ์  จักรพิทักษ์ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท วิทยุการบินแห่งประเทศไทย จำกัด (บวท.) เปิดเผยว่า จากการที่รัฐบาลได้มีนโยบายขับเคลื่อนประเทศไทยสู่การเป็นศูนย์กลาง(Hub)การบินของภูมิภาค วิทยุการบินฯ ในฐานะหน่วยงานผู้ให้บริการการเดินอากาศของประเทศ มีความพร้อมในการสนับสนุนผลักดันนโยบายของรัฐบาล ทั้งในด้านการด้านการท่องเที่ยว โดยเฉพาะการเปิดฟรีวีซ่า กับ จีน คาซัคสถาน และอินเดียว เพื่อเป็นการกระตุ้นการท่องเที่ยวและอุตสาหกรรมด้านการบิน

ทั้งนี้ มองว่าแนวโน้มอุตสาหกรรมการบินที่จะเกิดขึ้นหลังจากนี้ เห็นสัญญาณว่าในภูมิภาคเอเชียจะมีอัตราการขยายตัวอย่างก้าวกระโดด โดยเฉพาะตลาดจีน และอินเดีย ปัจจัยจากปริมาณการสั่งซื้อเครื่องบินที่มีรวมมากกว่า 1 พันลำ ส่งผลให้ บวท.ต้องวางแผนบริหารน่านฟ้าให้มีขีดความสามารถเพิ่มขึ้น เพื่อรองรับการขยายตัวดังกล่าว ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างการหารือร่วม 3 ประเทศ ประกอบด้วย ไทย ลาว และจีน ศึกษาความเหมาะสมของการเปิดเส้นทางบินใหม่ ที่จะรองรับเที่ยวบินได้เพิ่มขึ้นจากปัจจุบัน 1 แสนเที่ยวบินต่อปี เพิ่มเป็น 2 แสนเที่ยวบินต่อปี

 “ปัจจุบันการเดินทางไปจีน จะต้องใช้เส้นทางบินเดียวเป็นประตูเข้าออกที่องค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (ICAO) กำหนดไว้ อยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของน่านฟ้าลาว มีชื่อ SAGAG เป็นชื่อจุดรายงานบนเส้นทางบิน A581 และ B218 ซึ่งอยู่ระหว่างเขตรอยต่อของ FIR (Flight Information Region) หรือเขตแถลงข่าวการบินของจีนและลาว และมีจุดกึ่งกลางที่เป็นคอขวดมีความแออัดของเที่ยวบินในบริเวณนั้น ซึ่งช่วงก่อนเกิดโควิด-19 เที่ยวบินจำเป็นต้องรอเข้าคิวเพื่อบินผ่านจุดนี้หลายชั่วโมง ทำให้วันนี้ทั้ง 3 ประเทศกำลังมาคุยกันว่า จะต้องศึกษาเส้นทางบินใหม่ เพื่อเพิ่มทางเลือกให้สายการบิน ลดความแออัดของน่านฟ้า โดยจะเป็นเส้นทางบินคู่ขนานกับเส้นทางเดิม” นายณพศิษฏ์  กล่าว

สำหรับสถานะปัจจุบันอยู่ระหว่างหารือร่วม 3 ประเทศ เพื่อเตรียมนำข้อมูลเสนอไปยังสำนักงานการบินพลเรือนของแต่ละประเทศ ก่อนเสนอไปยังองค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (ICAO) พิจารณาอนุมัติ ตรวจสอบความปลอดภัยด้านการบิน ก่อนประกาศใช้เส้นทางบินใหม่นี้ เบื้องต้นคาดว่าจะดำเนินการตามขั้นตอนต่างๆ แล้วเสร็จเพื่อประกาศใช้เส้นทางบินใหม่ในต้นปี 2569 ซึ่งนอกจากจะส่งผลให้ 3 ประเทศ มีทางเลือกในการทำการบินเชื่อมต่อกันเพิ่มขึ้นแล้ว จะยังเป็นทางเลือกให้สายกายการบินจากทุกประเทศ สามารถบินผ่านเส้นทางการบินนี้ได้ด้วย

ทั้งนี้ ปัจจุบันดีมานด์การเดินทางจากจีนเริ่มฟื้นตัวอย่างมีนัยยะสำคัญ โดยมีเที่ยวบินบินเข้าไทยฟื้นตัวราว 80% หากเทียบกับปี 2562 ก่อนเกิดโควิด-19 ประกอบกับตลาดอินเดียยังเป็นตลาดใหม่มาแรงที่เติบโตต่อเนื่อง ส่งผลให้ในปี 2567 บวท. คาดการณ์ว่าจะมีเที่ยวบินบินเข้าไทยรวมกว่า 9 แสนเที่ยว เพิ่มขึ้นจากปี 2566 ที่มีปริมาณ 8 แสนเที่ยว และจะฟื้นตัวกลับเข้าสู่สถานการณ์ปกติในปี 2568 มีจำนวน 1 ล้านเที่ยว เช่นเดียวกับรายได้ของ บวท. ปีนี้คาดว่าจะอยู่ที่ 1.1 – 1.2 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2566 ที่มีจำนวน 1 หมื่นล้านบาท และจะกลับสู่สถานการณ์ปกติในปี 2568 มีรายได้รวม 1.3 หมื่นล้านบาท

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'บิ๊กต่อ' สั่งนครบาลสอบด่วน! ป้ายซื้อขายพาสปอร์ต ผิดจริงฟันแน่

'ผบ.ตร.' สั่งตรวจสอบที่มาของป้ายโฆษณาภาษาจีน รับทำหนังสือเดินทาง-ขอสัญชาติต่างๆ กำชับ สตม. ตรวจสอบ คัดกรองคนต่างด้าว เจอกระทำผิดฟันตามกฎหมายทุกมิติ

กรมอุตุฯ ประกาศฉบับ 5 อัปเดตเส้นทางพายุโซนร้อน 'พระพิรุณ'

นางสาวกรรวี สิทธิชีวภาค อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา ประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา เรื่อง พายุ “พระพิรุณ” ฉบับที่ 5 (145/2567) โดยมีใจความว่า

กรมอุตุฯ ประกาศฉ.4 พายุพระพิรุณขึ้นฝั่งจีนตอนใต้ 21-23 ก.ค. ไม่ส่งผลกระทบไทย

พายุนี้กำลังเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือด้วยความเร็วประมาณ 15 กิโลเมตรต่อชั่วโมง คาดว่าจะเคลื่อนผ่านเกาะไหหลำ