ครม.อนุมัติเพิ่มงบ 6,755 ล้านบาท โครงการก่อสร้างมอเตอร์เวย์ บางปะอิน-สระบุรี-นครราชสีมา
19 มี.ค.2567-นายคารม พลพรกลาง รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) สัญจร จังหวัดพะเยา ได้มีมติอนุมัติให้กรมทางหลวง(ทล.) เพิ่มวงเงินก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณโครงการก่อสร้างทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง สายบางปะอิน – สระบุรี – นครราชสีมา จำนวน 14 ตอน ตามปริมาณงานและวงเงินค่างานจริง วงเงิน 1,740.98 ล้านบาท ซึ่งไม่เกินกรอบวงเงินที่สำนักงบประมาณได้พิจารณาให้ความเห็นชอบไว้แล้วเมื่อวันที่ 1 กันยายน 2565
นอกจากนี้ ครม.ยังอนุมัติขยายระยะเวลาก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณ จำนวน 10 ตอน โดยให้กรมทางหลวง ปฏิบัติตามกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ มติคณะรัฐมนตรี และหนังสือเวียนที่เกี่ยวข้อง และมาตรฐานของทางราชการให้ถูกต้องครบถ้วนในทุกขั้นตอน โดยการดำเนินการจะต้องเป็นไปเพื่อประโยชน์สูงสุดของทางราชการ และประโยชน์ที่ประชาชนจะได้รับเป็นสำคัญ
สำหรับภาระงบประมาณที่เพิ่มขึ้น ซึ่งไม่ได้เสนอขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 รองรับไว้ให้กรมทางหลวง ถือปฏิบัติตามหลักเกณฑ์การบริหารวงเงินงบประมาณรายจ่ายที่ตั้งไว้สำหรับรายการก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณ สำหรับภาระงบประมาณส่วนที่คงขาดอยู่ให้เสนอขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 ตามความเห็นของสำนักงบประมาณต่อไป
นายคารม กล่าวว่า เดิมโครงการก่อสร้างทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง สายบางปะอิน – สระบุรี – นครราชสีมา แบ่งเป็นจำนวน 40 ตอน ปัจจุบันมีงานก่อสร้าง 16 ตอนที่พบปัญหาและจำเป็นต้องแก้ไขรูปแบบการก่อสร้าง ซึ่งที่ผ่านมากระทรวงคมนาคมได้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงด้านวิศวกรรม เพื่อตรวจสอบความเหมาะสมในการแก้ไข เปลี่ยนแปลงรูปแบบก่อสร้าง และได้ข้อยุติว่าการปรับรูปแบบของโครงการฯ เป็นรูปแบบที่เหมาะสมและถูกต้องตามหลักวิศวกรรมแล้ว
สำหรับการปรับรูปแบบของโครงการฯ ส่งผลให้ค่าก่อสร้างงานโยธาเพิ่มขึ้นจากค่างานตามสัญญาจากเดิม 59.410.24 ล้านบาท เป็น 66,165.90 ล้านบาท หรือ เพิ่มขึ้นจำนวน 6,755.65 ล้านบาท ซึ่งเมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2566 ครม.มีมติอนุมัติเพิ่มวงเงินงบประมาณเฉพาะในส่วนของงานที่ยังไม่ได้ดำเนินการก่อสร้าง 12 ตอน วงเงิน 4,970.71 ล้านบาท แล้วคงเหลือที่ต้องขอคณะรัฐมนตรีอนุมัติจำนวน 1,784.94 ล้านบาท
ต่อมากรมทางหลวง ได้แต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบงานโครงการฯ ในส่วนของงานก่อสร้างที่ได้ดำเนินการก่อสร้างก่อนลงนามในสัญญาแก้ไขดังกล่าว ซึ่งยังไม่มีการจ่ายค่างานในส่วนที่ดำเนินการไปก่อน จำนวน 14 ตอน พบว่า มีงานก่อสร้างบางตอนที่วงเงินลดลงจากเดิมวงเงินรวม 1,784.94 ล้านบาท เป็นวงเงินรวม 1,740.98 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม การเพิ่มค่างานครั้งนี้จะทำให้กรอบวงเงินค่างานก่อสร้างของทั้งโครงการฯ รวม 40 ตอน เพิ่มขึ้นจากเดิม 59,410.24 ล้านบาท เป็น 66,121.94 ล้านบาท แต่ยังคงอยู่ภายใต้กรอบวงเงินค่างานก่อสร้างตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 8 มีนาคม 2559 วงเงิน 69,970 ล้านบาท
ทั้งนี้ ครม. สัญจร จึงพิจารณาอนุมัติเพิ่มวงเงินงบประมาณรายการผูกพันข้ามปีงบประมาณ ภายใต้แผนงานบูรณาการพัฒนาด้านคมนาคมและระบบโลจิสติกส์ โครงการก่อสร้างทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง สายบางปะอิน – สระบุรี – นครราชสีมา จำนวน 14 ตอน ได้แก่ ตอนที่ 1 ตอนที่ 3 ตอนที่ 4 ตอนที่ 5 ตอนที่ 6 ตอนที่ 17 ตอนที่ 18 ตอนที่ 19 ตอนที่ 20 ตอนที่ 21 ตอนที่ 23 ตอนที่ 24 ตอนที่ 32 และตอนที่ 39 วงเงิน 1,740.98 ล้านบาท
รวมทั้งพิจารณาอนุมัติขยายระยะเวลาก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณ (ก่อหนี้ผูกพันฯ) ภายใต้แผนงานบูรณาการพัฒนาด้านคมนาคมและระบบโลจิสติกส์ โครงการก่อสร้างทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง สายบางปะอิน – สระบุรี – นครราชสีมา จำนวน 10 ตอน ดังนี้
1.ขยายระยะเวลาก่อหนี้ผูกพันฯ จากปีงบประมาณ พ.ศ. 2559 – 2563 เป็นปีงบประมาณ พ.ศ. 2559 – 2568 จำนวน 4 ตอน ได้แก่ ตอนที่ 3 ตอนที่ 6 ตอนที่ 17 และตอนที่ 32 2. ขยายระยะเวลาก่อหนี้ผูกพันฯ จากปีงบประมาณ พ.ศ. 2559 – 2566 เป็นปีงบประมาณ พ.ศ. 2559 – 2568 จำนวน 3 ตอน ได้แก่ ตอนที่ 5 ตอนที่ 20 และตอนที่ 24 และ 3.ขยายระยะเวลาก่อหนี้ผูกพันฯ จากปีงบประมาณ พ.ศ. 2559 – 2567 เป็นปีงบประมาณ พ.ศ. 2559 – 2568 จำนวน 3 ตอน ได้แก่ ตอนที่ 18 ตอนที่ 19 และตอนที่ 39
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ข่าวดี!นักวิจัยไทยคิดค้นแผ่นแปะผู้ป่วย 'โรคสะเก็ดเงิน'
รัฐบาลเผยนักวิจัยไทยคิดค้นนวัตกรรมแผ่นแปะสำหรับผู้ป่วย 'โรคสะเก็ดเงิน' คว้ารางวัลเหรียญเงินจากเวทีนานาชาติ เพิ่มทางเลือกการรักษาผู้ป่วยโรคสะเก็ดเงิน
เตือนอย่าเชื่ออย่าแชร์ข่าวปลอมให้ผู้เสียหายคดีฉ้อโกงออนไลน์ลงทะเบียนขอรับเงินคืน
รัฐบาลเตือน ปชช. อย่าเชื่อข่าวปลอม อย่าแชร์! ข้อความสื่อออนไลน์ระบุ 'ปปง. ร่วมกับ สอท. เปิดให้ผู้เสียหายคดีฉ้อโกงออนไลน์ลงทะเบียนขอรับเงินคืน เพียง 3 ขั้นตอน ผ่านเพจ Maintain security online'
รัฐบาลเตือนผู้กู้ยืม กยศ.อย่าเบี้ยวหนี้
รัฐบาลเตือนผู้กู้ยืม กยศ.หากไม่ชำระเงินคืนตามกำหนดจะทำให้เกิดภาระดอกเบี้ยและเสียเบี้ยปรับจากการผิดนัดชำระหนี้ รวมถึงถูกฟ้องร้องบังคับคดีตามกฎหมาย ย้ำผู้กู้ยืมต้องมีคุณธรรมมีความรับผิดชอบ