‘คลัง’ แจงประชาชนแห่ลงทะเบียนแก้หนี้นอกระบบแล้ว 1 หมื่นราย เคาะออมสิน-ธ.ก.ส. เตรียม 1.5 หมื่นล้านบาท ลุยปล่อยกู้อัดฉีดรายละไม่เกิน 2 แสนบาท ดอกเบี้ย 1% ต่อเดือน ปลอดชำระต้น 6 งวด
15 มี.ค. 2567 – นายพรชัย ฐีระเวช ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า เพื่อดำเนินการตามนโยบายการแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบที่เป็นวาระแห่งชาติ กระทรวงการคลังได้ให้ความช่วยเหลือแก่ผู้ลงทะเบียนแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบที่ผ่านการไกล่เกลี่ยประนอมหนี้แล้วและมีความประสงค์ที่จะขอสินเชื่อ ผ่านมาตรการสินเชื่อเพื่อช่วยเหลือและรองรับลูกหนี้นอกระบบที่ผ่านกระบวนการไกล่เกลี่ยหนี้ในโครงการแก้หนี้นอกระบบของรัฐบาล โดยธนาคารออมสิน และธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.)
ทั้งนี้ ผลการดำเนินการให้ความช่วยเหลือด้านสินเชื่อจากธนาคารออมสิน และ ธ.ก.ส. เพื่อแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบสำหรับผู้ลงทะเบียนที่ผ่านการไกล่เกลี่ยฯ ณ วันที่ 14 มี.ค. 2567 มีจำนวน 10,592 ราย แบ่งเป็นผู้ที่เข้าไปติดต่อขอรับความช่วยเหลือที่ธนาคารทั้งสองแห่งแล้วจำนวน 1,675 ราย คิดเป็น 15.81% และผู้ที่ยังไม่ได้เข้าไปติดต่อขอรับความช่วยเหลือที่ธนาคารทั้งสองแห่งจำนวน 8,917 ราย คิดเป็น 84.19% โดยจากจำนวนผู้ที่เข้ามาติดต่อขอรับความช่วยเหลือ ธนาคารทั้งสองแห่งได้ดำเนินการพิจารณาอนุมัติสินเชื่อไปแล้วจำนวน 525 ราย คิดเป็น 31.34% ของผู้ที่เข้าไปติดต่อขอรับความช่วยเหลือที่ธนาคารทั้งสองแห่ง รวมเป็นเงิน 12.02 ล้านบาท
สำหรับผู้ลงทะเบียนที่ผ่านการไกล่เกลี่ยฯ ที่ยังไม่ได้เข้าไปติดต่อขอรับความช่วยเหลือ ธนาคารทั้งสองแห่งได้ดำเนินการเชิงรุกโดยเร่งประชาสัมพันธ์และติดต่อผู้ลงทะเบียนผ่านทางโทรศัพท์ และส่ง SMS ตามข้อมูลที่อยู่ของผู้ลงทะเบียนที่ผ่านการไกล่เกลี่ยฯ เพื่อทำการนัดหมายให้เข้ามาติดต่อที่ธนาคารต่อไป สำหรับผู้ที่ไม่ได้รับความช่วยเหลือด้านสินเชื่อเนื่องจากคุณสมบัติไม่ผ่านเกณฑ์ ธนาคารทั้งสองแห่งก็ได้ให้ความช่วยเหลือทุกราย โดยการให้คำแนะนำปรึกษา ประกอบด้วย การปรับโครงสร้างหนี้ (ลดยอดผ่อนชำระต่องวดลง และขยายระยะเวลาชำระหนี้ให้นานขึ้น) การให้ความรู้ทางการเงิน รวมทั้งการส่งเข้าร่วมโครงการฟื้นฟูศักยภาพในการหาแหล่งรายได้หรือพัฒนาอาชีพของธนาคารทั้งสองแห่งด้วยแล้ว
“เพื่อให้การช่วยเหลือเป็นไปอย่างทั่วถึงและมีประสิทธิภาพ กระทรวงการคลังขอเชิญชวนให้ผู้ลงทะเบียนที่ผ่านการไกล่เกลี่ยฯ ติดต่อไปยังธนาคารทั้งสองแห่ง โดยธนาคาทั้งสองแห่งพร้อมให้ความช่วยเหลือด้านการเงิน และให้ความช่วยเหลือด้านอื่น ๆ กับประชาชนอย่างเต็มที่” นายพรชัย กล่าว
นอกจากนี้ กระทรวงการคลังได้ส่งเสริมให้มีการประกอบธุรกิจสินเชื่อรายย่อยระดับจังหวัดภายใต้การกำกับ (สินเชื่อพิโกไฟแนนซ์) เพื่อเพิ่มช่องทางในการเข้าถึงแหล่งเงินทุนในระบบให้แก่ประชาชนรายย่อย โดย ณ เดือน ม.ค. 2567 มีผู้ได้รับอนุญาตให้ประกอบธุรกิจสินเชื่อพิโกไฟแนนซ์ และเปิดดำเนินการแล้วสะสมสุทธิ 1,140 ราย ใน 75 จังหวัด และ ณ เดือน ธ.ค. 2566 มีการอนุมัติสินเชื่อพิโกไฟแนนซ์ให้กับประชาชนรายย่อยสะสมทั้งสิ้น 4,050,833 บัญชี รวมเป็นวงเงิน 38,857.69 ล้านบาท
สำหรับมาตรการสินเชื่อเพื่อช่วยเหลือและรองรับลูกหนี้นอกระบบที่ผ่านกระบวนการไกล่เกลี่ยหนี้ในโครงการแก้หนี้นอกระบบของรัฐบาล โดยธนาคารออมสิน และ ธ.ก.ส. จะสนับสนุนสินเชื่อวงเงินรวม 15,000 ล้านบาท วงเงินสินเชื่อรายละไม่เกิน 20,000 บาท อัตราดอกเบี้ย 1% ต่อเดือน (Flat rate) ปลอดชำระหนี้เงินต้นสูงสุด 6 งวดแรก และระยะเวลาคืนเงินกู้สูงสุดไม่เกิน 3 ปี โดยหากผู้ลงทะเบียนที่ผ่านการไกล่เกลี่ยฯ เป็นผู้ประกอบอาชีพทั่วไปสามารถติดต่อได้ที่ธนาคารออมสิน และหากเป็นเกษตรกรสามารถติดต่อได้ที่ ธ.ก.ส.
นอกจากนี้ ธนาคารออมสิน และ ธ.ก.ส. ยังมีโครงการสินเชื่ออื่นสำหรับผู้ลงทะเบียนที่ผ่านการไกล่เกลี่ยฯ รวมถึงประชาชนทั่วไปที่ต้องการสินเชื่อเพื่อนำไปชำระหนี้นอกระบบผ่านมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้นอกระบบ เช่น โครงการสินเชื่อธนาคารประชาชนโดยธนาคารออมสิน วงเงินสินเชื่อรายละไม่เกิน 50,000 บาท อัตราดอกเบี้ยคงที่ 0.75% ต่อเดือน, สินเชื่อเพื่อชำระหนี้นอกระบบโดย ธ.ก.ส. วงเงินสินเชื่ออนุมัติรายละไม่เกิน 200,000 บาท หรือในกรณีสงวนรักษาที่ดิน วงเงินสินเชื่อรายละไม่เกิน 500,000 บาท อัตราดอกเบี้ยเริ่มต้น MRR ระยะเวลาชำระคืนเงินกู้ไม่เกิน 12 ปี และบริษัท มีที่ มีเงิน จำกัด ซึ่งเกิดจากการร่วมทุนของธนาคารออมสิน เพื่อให้บริการขายฝากหรือให้สินเชื่อจดจำนองที่ดินอย่างเป็นธรรม อัตราดอกเบี้ยเริ่มต้น 7.5% ต่อปี และปลอดชำระเงินต้น 12 เดือน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ฟุ้ง!กระตุ้นศก. ดันเชื่อมั่นขยับ ลดค่าไฟ1.34บ.
คลังเผยเศรษฐกิจไทยเดือน ต.ค.67 ยังฉลุย รับอานิสงส์ส่งออกโตพรวด 14.6%