มหากาพย์ถนน7ชั่วโคตร โจทย์ใหญ่รัฐบาลปิดตำนานสร้าง54ปี

มหากาพย์โครงการก่อสร้างบนถนนพระราม 2 กลับมาเป็นเผือกร้อนอีกครั้ง หลังมีกระแสโซเชียลถกถึงประเด็นนักท่องเที่ยวมาเที่ยวหัวหินกันน้อยลง โดยหนึ่งในสาเหตุหลักที่ถูกกล่าวถึงคือปัญหาการจราจรของ “ถนนพระราม 2” ร้อนถึงรัฐบาล โดย นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ได้ชี้แจงผ่านโซเชียลทันควันว่า รัฐบาลได้ติดตามและเร่งรัดโครงการก่อสร้างขนาดใหญ่ที่ล่าช้าซึ่งสร้างปัญหาให้กับผู้สัญจรไปมาและนักท่องเที่ยว ทำให้ผู้ประกอบการสองฝั่งถนนเสียโอกาสในการประกอบอาชีพ รวมไปถึงก่อให้เกิดมลภาวะ กระทบต่อสุขภาพพี่น้องประชาชน พร้อมทั้งสั่งด่วนให้กระทรวงคมนาคมเร่งรัดแก้ไขปัญหาการจราจรติดขัด และการก่อสร้างที่ยาวนานต่อเนื่องจนเป็นอุปสรรคต่อการเดินทางมาโดยตลอด

ถนนพระราม 2 มีระยะทางรวมทั้งสิ้น 85 กิโลเมตร (กม.) เริ่มตั้งแต่ดาวคะนอง-วังมะนาว เป็นเส้นทางที่มีปริมาณการจราจรสูงที่สุดในประเทศไทย ประมาณ 4 แสนคันต่อวัน ซึ่งกรมทางหลวง (ทล.) ได้เก็บข้อมูลปลายปี 2566 แบ่งเป็น ช่วงดาวคะนอง-วงแหวนรอบนอกกรุงเทพฯ มีปริมาณการจราจรประมาณ 2.56 แสนคันต่อวัน จากวงแหวนฯ-สะพานข้ามแม่น้ำท่าจีน มีปริมาณการจราจรประมาณ 1.3 แสนคันต่อวัน และจากแม่น้ำท่าจีน-สมุทรสงคราม-วังมะนาว มีปริมาณการจราจรประมาณ 8 หมื่นคันต่อวัน แต่กลับมีการก่อสร้างยาวนานอย่างต่อเนื่องมากว่า 50 ปี

และเมื่อเผือกร้อนโยนมาที่ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม โดยตรง ดังนั้นจึงได้สั่งการให้อธิบดีกรมทางหลวงหารือผู้รับเหมาให้เสร็จทันตามกำหนด ซึ่งที่ผ่านมายังไม่คืบหน้าเท่าที่ควร เพราะขาดมาตรการบังคับผู้รับเหมาให้ทำตามสัญญา​ พร้อมทั้งยังได้เรียกประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมไปถึงผู้รับเหมาก่อสร้างบนถนนพระราม 2 เพื่อเร่งรัดงานก่อสร้าง โดยไล่บี้กำชับผู้รับเหมาในโครงการก่อสร้างทั้งหมด

“ที่มีการพูดมาว่าถนนพระราม 2 ทำ 7 ชั่วโคตรไม่เสร็จสักที แต่เมื่อดูรายละเอียดมีการขยายถนน ถนนสายนี้สร้างตั้งแต่ 2513 สมัยจอมพลถนอม กิตติขจร เป็นถนน 2 เลน เป็น 4 เลน และมีการก่อสร้างทางต่างระดับ 4 แห่ง จนถึงปัจจุบัน​ โดยโครงการก่อสร้างบนทางหลวงหมายเลข 35 สายดาวคะนอง-วังมะนาว (ถนนพระราม 2) มี 3 โครงการ แบ่งเป็นสัญญาของกรมทางหลวง 14 สัญญา และการทางพิเศษแห่งประเทศไทย​ 3 สัญญา” นายสุริยะ กล่าว

นายสุริยะ กล่าวว่า จากการหารือร่วมกับผู้รับเหมาเมื่อวันที่ 4 มี.ค.ที่ผ่านมา ส่วนใหญ่รับปากจะเร่งก่อสร้างให้แล้วเสร็จภายใน มิ.ย.2568 มีเพียง 2 สัญญาในโครงการทางหลวงพิเศษหมายเลข 82 ประกอบด้วย ตอน 4 จุดเริ่มต้นบริเวณ กม.25+734-กม.26+998 ในพื้นที่อำเภอเมืองฯ จังหวัดสมุทรสาคร รวมระยะทาง 1.264 กิโลเมตร และตอน 6 จุดเริ่มต้นบริเวณ กม.28+664-กม.29+772 ระยะทางรวมประมาณ 1.108 กิโลเมตร ที่จะแล้วเสร็จในช่วงเดือน ธ.ค.2568

“ถนนพระราม 2 มีการก่อสร้างต่อเนื่องตลอดระยะเวลายาวนานรวม 54 ปี เข้าใจและเห็นใจความรู้สึกของพี่น้องประชาชนที่อาศัยอยู่บริเวณดังกล่าว ที่เจอกับปัญหาการจราจรที่ติดขัด ปัญหาฝุ่นละออง หลังจากที่เข้ามารับตำแหน่งรัฐมนตรีคมนาคมอีกครั้งในช่วงเดือนกันยายน 2566 จึงได้สั่งการให้กรมทางหลวงไปเร่งรัดงานก่อสร้าง และได้มีการเชิญผู้รับเหมาโครงการทั้งหมดหารือถึงปัญหาและอุปสรรคในการทำงาน” นายสุริยะ กล่าว

พร้อมระบุว่า เพื่อให้โครงการเดินหน้าจึงมอบหมายเจ้าหน้าที่กรมทางหลวงรับผิดชอบ 1 รายต่อ 1 สัญญา โดยให้ทำงานใกล้ชิดกับผู้รับเหมา และต้องรายงานความคืบหน้ามาที่กระทรวงคมนาคมทุกเดือน โดยมอบหมายให้ กรมทางหลวง และ กทพ. ซึ่งเป็นหน่วยงานเจ้าของโครงการ ตรวจติดตามความคืบหน้างานก่อสร้างให้เป็นไปตามแผนรายเดือน หากพบว่ามีความล่าช้ามากกว่า 50% ให้ขอความร่วมมือผู้รับเหมาเร่งรัด และทุกๆ 2 เดือนจะประชุมเพื่อติดตามความคืบหน้าเร่งรัดให้เป็นไปตามเป้าหมาย มั่นใจว่าถ้ามีการติดตามใกล้ชิด ผู้รับเหมาจะทำให้เสร็จ

หากผู้รับเหมารายใดไม่ให้ความร่วมมือ กระทรวงจะใช้มาตรการพิจารณาปรับลดชั้น ไปจนขึ้นบัญชีดำ ซึ่งจะมีผลต่อการเข้าร่วมประมูลโครงการในอนาคต และร้ายแรงคือการบอกเลิกสัญญา เพราะที่ผ่านมากระทรวงมีแต่หลักเกณฑ์พิจารณาผลงานผู้รับเหมา หากพบว่าผู้รับเหมารายใดผลงานดีก็จะปรับเพิ่มชั้นจนไปสู่การเป็นผู้รับเหมาชั้นพิเศษ ดังนั้นหลังจากนี้หากผู้รับเหมาไม่สามารถเร่งรัดงานได้ตามแผน จะดำเนินการพิจารณาปรับลดชั้นลง” นายสุริยะ กล่าว

นายสุริยะ กล่าวว่า การปรับลดชั้นผู้รับเหมาได้มอบหมายให้กรมทางหลวงพิจารณาเกณฑ์ที่จะนำมาใช้ คาดจะแล้วเสร็จในอีก 1 เดือนหลังจากนี้ ดังนั้นจะเริ่มคุมเข้มผู้รับเหมาได้ทันทีในเดือน เม.ย.2567 เริ่้มจากการขอความร่วมมือ ตักเตือน ก่อนจะพิจารณาลดชั้นผู้รับเหมาที่ขึ้นบัญชีกับกรมบัญชีกลาง จากชั้นพิเศษลดลงเป็นชั้น 1 ซึ่งจะมีผลต่อการรับงานครั้งถัดไป หรือพิจารณาไปถึงการบอกเลิกสัญญา

สำหรับ มาตรการระยะเร่งด่วนเพื่อแก้ปัญหางานก่อสร้างที่ล่าช้า จากการหารือร่วมกับผู้รับเหมาทราบว่า ปัญหาบางส่วนเกิดจากชั่วโมงการทำงานที่ลดลง เหลือเฉลี่ย 4-5 ชั่วโมงต่อวัน โดยเฉพาะโครงการก่อสร้างของกรมทางหลวงที่มีมาตรการเกี่ยวกับความปลอดภัยของประชาชน และความเดือดร้อนของประชาชนในเรื่องการจราจรติดขัด ทำให้กำหนดเวลาก่อสร้างเฉพาะช่วงกลางคืนเท่านั้น

หลังจากนี้ กระทรวงคมนาคมได้มอบหมายให้กรมทางหลวงพิจารณาแผนขยายระยะเวลาในการก่อสร้างเพิ่มเติม โดยเฉพาะวันจันทร์-ศุกร์ ในช่วงที่การจราจรน้อยกว่าปกติ และจะมีการเบี่ยงการจราจรหรือสลับช่องจราจร เพื่อให้ผู้รับเหมาสามารถดำเนินการก่อสร้างได้ อย่างไรก็ตามการก่อสร้างที่เร็วขึ้นนั้นต้องคำนึงถึงความปลอดภัยของประชาชนเป็นหลัก และการจราจรต้องไม่ติดขัด

“จากการพูดคุยกับผู้รับเหมา ยืนยันว่าไม่ได้มีปัญหาสภาพคล่องทางการเงิน แต่ก็ขอให้กระทรวงเร่งเคลียร์เงินชดเชยค่างานก่อสร้างตามสัญญาแบบปรับราคาได้ (ค่า K) ซึ่งตอนนี้ได้มอบหมายให้กรมทางหลวงไปเร่งสรุปตัวเลขในส่วนของโครงการพระราม 2 เพราะเราก็อยากจะเยียวยาผู้รับเหมา เพราะที่ผ่านมาเราก็กำหนดลงเวลาก่อสร้างด้วย” นายสุริยะ กล่าว

สำหรับ มาตรการคุมเข้มผู้รับเหมาที่กระทรวงคมนาคมเตรียมนำมาบังคับใช้ปรับลดชั้นผู้รับเหมานั้น นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ออกมาระบุด้วยว่า ได้เรียกนางแพตริเซีย มงคลวนิช อธิบดีกรมบัญชีกลางมาหารือเพื่อหาแนวทางในการแก้ไขปัญหา และหามาตรการลงโทษบริษัทผู้รับเหมาก่อสร้างที่ละทิ้งงานหรือทำให้งานก่อสร้างภาครัฐล่าช้า

โดยมองว่าปัญหาการก่อสร้างบริเวณถนนพระราม 2 ที่มีความล่าช้าและส่งผลกระทบให้กับประชาชนเป็นอย่างมากต้องได้รับการแก้ไข ทั้งนี้มีสาเหตุมาจากการที่ผู้รับเหมาไม่ทำตามกรอบเวลาที่กำหนดในสัญญา และการควบคุมงานขาดประสิทธิภาพ โดยเฉพาะโครงการขนาดใหญ่ นอกจากที่จะมีการให้เลื่อนเกรดให้กับบริษัทผู้รับเหมาก่อสร้างที่ทำงานดี สำเร็จลุล่วงแล้ว หากบริษัทผู้รับเหมาก่อสร้างใดทำงานล่าช้า ไม่ส่งงานตามที่กำหนด หรืองานไม่ได้คุณภาพ ขอให้มีการตัดเกรดลงมาด้วย

ดูเหมือนว่าโครงการก่อสร้างบนถนนพระราม 2 ที่ส่งผลต่อการจราจร ไม่เพียงเป็นปัญหาของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง แต่ยังเป็นปัญหาใหญ่สำหรับรัฐบาลที่จะเข้ามาผลักดันและสั่งการเพื่อให้ปัญหาต่างๆ ได้คลี่คลายลง แน่นอนว่าเป็นอีกหนึ่งโจทย์สำคัญที่รัฐบาลจะต้องทำให้บรรลุตามเป้าหมายที่วางไว้ นั่นคือ การก่อสร้างงานทั้งหมดต้องแล้วเสร็จภายในเดือน มิ.ย.2568 ตามที่ได้สัญญากับประชาชนไว้

หลังจากนี้ต้องจับตาดูกันว่ารัฐบาลชุดปัจจุบันจะสามารถสานฝัน ลบคำว่า “พระราม 2 เจ็ดชั่วโคตร” ได้หรือไม่.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'สุริยะ' ชงครม.เคาะรถไฟสายสีส้มวันนี้ เตรียมลงนามสัญญา BEM คาดประชาชนได้ใช้ปี 71

ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวถึงกรณีกระทรวงคมนาค

‘สุริยะ’ สั่ง รฟม. ลงโทษ ’NBM‘ เหตุประตูรถไฟฟ้าเปิดกลางทางขู่ลงดาบแบล็กลิสต์

‘สุริยะ’เอาจริง มอบ รฟม. ส่งหนังสือถึง ‘NBM’ผู้รับสัมปทานรถไฟฟ้าสายสีชมพู จ่อดำเนินการตามบทลงโทษขั้นสูงสุด หลังเกิดเหตุประตูขบวนรถเปิดกลางทาง ลั่นไม่สามารถประนีประนอมหรือต่อรองได้ ย่ำหากไม่ปรับปรุงจ่อลงดาบแบล็กลิสต์

นายกฯ ดันไทยสู่การเป็น Aviation Hub ภูมิภาค ตั้งเป้าติด TOP 20

นายกฯ ดันไทยสู่การเป็น Aviation Hub ภูมิภาค เผยสถิติ 8 เดือน มีผู้โดยสารใช้บริการสนามบินในไทย 81.05 ล้านคน คมนาคมตั้งเป้าผลักดันติดอันดับ 1 ใน 20 สนามบินระดับโลกในปี 72 รองรับผู้โดยสาร 210 ล้านคนในปี 77