สสว. เผยผลสำรวจการนำเข้าสินค้าของเอสเอ็มอีไทย พบว่า ภาคธุรกิจเกษตร นำเข้าสินค้ามากที่สุด ส่วนกลุ่มสินค้าที่ครองแชมป์นำเข้าสูงสุด ได้แก่ กลุ่มเคมีภัณฑ์ เช่น ปุ๋ย ยาฆ่าศัตรูพืช น้ำยาทำความสะอาด และกลุ่มสินค้าเพื่ออุปโภคบริโภค แหล่งนำเข้าหลักมาจาก จีน ญี่ปุ่น อเมริกา เกาหลีใต้ และ เวียดนาม ฯลฯ โดยนำเข้าผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ เป็นหลัก แต่อุปสรรคสำคัญอยู่ที่ราคาขนส่งและความล่าช้าในการขนส่ง ผู้ประกอบการ SME จึงต้องการให้ภาครัฐและผู้เกี่ยวข้องสนับสนุนการพัฒนาสินค้าในประเทศให้ได้คุณภาพมาตรฐานเพื่อทดแทนการนำเข้า
8 มี.ค. 2567 – นายวีระพงศ์ มาลัย ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) เผยผลสำรวจเรื่องการซื้อสินค้า/วัตถุดิบนำเข้าของผู้ประกอบการ SME โดยสอบถามผู้ประกอบการเอสเอ็มอีจำนวน 2,741 ราย ใน 6 ภูมิภาคทั่วประเทศ ระหว่างวันที่ 19-29 มกราคม 2567 พบว่า การนำเข้าสินค้า/วัตถุดิบของเอสเอ็มอี เกือบร้อยละ 30 เป็นการนำมาเพื่อประกอบกิจการเป็นส่วนใหญ่ โดยเฉพาะในกลุ่มวิสาหกิจขนาดกลางขนาดกลาง การนำเข้าสินค้า/วัตถุดิบคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 21-40 ของต้นทุนสินค้าทั้งหมด เมื่อจำแนกตามภาคธุรกิจ พบว่า ภาคธุรกิจการเกษตรมีการนำเข้าสินค้า/วัตถุดิบมากถึงร้อยละ 67 แหล่งสินค้า/วัตถุดิบที่นำเข้า มาจากจีน ญี่ปุ่น อเมริกา เกาหลีใต้ และ เวียดนาม
หากพิจารณาตามสาขาธุรกิจที่มีการนำเข้าสินค้า/วัตถุดิบเพื่อนำมาประกอบกิจการ พบว่า กลุ่มสาขาผลิตภัณฑ์จากพลาสติกมีการนำเข้ามากถึงร้อยละ 78.9 รองลงมาคือกลุ่มธุรกิจการเกษตร การก่อสร้าง ผลิตภัณฑ์จากยาง วัสดุก่อสร้าง เสื้อผ้าและสิ่งทอ การผลิตเครื่องหอม/เครื่องสำอางและผลิตภัณฑ์ในห้องน้ำ ตามลำดับ
หากพิจารณาตามกลุ่มสินค้าที่ SME นำเข้ามา ส่วนใหญ่เป็นสินค้ากลุ่มเคมีภัณฑ์ เช่น ปุ๋ย ยาฆ่าศัตรูพืช น้ำยาทำความสะอาด สารตั้งต้น หัวเชื้อ รองลงมา คือ กลุ่มสินค้าวัตถุดิบที่ใช้ในการผลิตสำหรับผลิตภัณฑ์จากพลาสติก ผลิตภัณฑ์จากยาง ผลิตภัณฑ์จากโลหะ ผลไม้และเฟอร์นิเจอร์ ร้านอาหารหรือภัตตาคาร รวมถึงกลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภค
นอกจากการนำเข้าสินค้า/วัตถุดิบเพื่อประกอบกิจการแล้ว เอสเอ็มอีบางส่วนได้มีการนำเข้าสินค้า/วัตถุดิบเพื่อการบริโภคเช่นกัน โดยจะสั่งซื้อผ่านคนกลางและผ่านช่องทางออนไลน์บนแพลตฟอร์มที่ได้รับความนิยม สำหรับสินค้าที่ เอสเอ็มอีนำเข้ามาบริโภค ส่วนใหญ่เป็นของใช้ในบ้านทั่วไป รองลงมา คือ เสื้อผ้า ผลิตภัณฑ์เสริมความงามและเครื่องสุขภัณฑ์ ขนมขบเคี้ยว เครื่องใช้ไฟฟ้า เป็นต้น
อย่างไรก็ตาม ในเรื่องความล่าช้า และค่าขนส่ง นับเป็นปัญหาสำคัญที่ SME กำลังเผชิญจากการนำเข้าสินค้า/วัตถุดิบ ส่วนในมุมมองของการบริโภคปัญหาจะอยู่ที่เรื่องของคุณภาพสินค้าไม่ตรงปก ดังนั้นเอสเอ็มอีจึงต้องการให้ผู้ที่เกี่ยวข้อง ให้ความช่วยเหลือในการควบคุมอัตราการเก็บค่าขนส่งสินค้า การมีหน่วยงานที่ทำหน้าที่ตรวจสอบคุณภาพและการตีกลับสินค้า รวมถึงการส่งเสริมความรู้ในการนำเข้าส่งออกสินค้า เป็นต้น
นอกจากนี้ ผลสำรวจได้สะท้อนถึงมุมมองการนำเข้าสินค้า/วัตถุดิบจากต่างประเทศของ SME พบว่า ร้อยละ 30 เป็นกลุ่มที่นำเข้าสินค้า/ วัตถุดิบมาใช้ประกอบธุรกิจและจะยังคงนำเข้าต่อไปเพราะความต้องการของลูกค้าและคุณภาพของสินค้าที่เหมาะสมกับราคา ขณะที่ SME ร้อยละ 70 ที่ไม่มีการนำเข้า มองว่าการนำเข้าสินค้าไม่จำเป็นต่อธุรกิจ โดยเฉพาะกลุ่มธุรกิจที่มีการให้บริการที่มีเอกลักษณ์ความเป็นไทย อย่างไรก็ตาม SME รายย่อยมีสัดส่วนได้รับผลกระทบจากการนำเข้าผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์มากที่สุด โดยเฉพาะภาคการค้า
นอกจากนี้ ผลสำรวจยังกล่าวถึงความสามารถในการแข่งขันทางธุรกิจ กรณีที่ธุรกิจ SME มีการนำเข้าสินค้า/วัตถุดิบโดยตรง พบว่า ร้อยละ 62.1 ของกลุ่มนี้ประเมินว่าธุรกิจของตนยังสามารถแข่งขันได้เพราะมีความได้เปรียบด้านประสบการณ์และการเข้าถึงลูกค้า ในทางกลับกัน เอสเอ็มอีบางสาขาธุรกิจ มีความกังวลถึงความสามารถในการแข่งขัน เพราะพฤติกรรมของผู้บริโภคที่นิยมลองสินค้าใหม่ จากตัวเลือกที่มีเพิ่มมากขึ้น การขาดความรู้ในการสร้างกลยุทธ์เพื่อการแข่งขัน ซึ่งสาขาธุรกิจที่พบปัญหาเหล่านี้ ได้แก่ สาขาค้าส่งสินค้าอุปโภคและบริโภค สาขาบริการซ่อมบำรุง สาขาค้าปลีกอุปโภค/บริโภค (modern trade)
ดังนั้น การผลักดันการพัฒนาสินค้าในประเทศให้มีมาตรฐานรองรับ นโยบายสนับสนุนการซื้อสินค้าในประเทศ รวมถึงการประชาสัมพันธ์/โปรโมทสินค้าและวัตถุดิบของไทย เป็นแนวทางสำคัญที่ SME มองว่าจะช่วยให้ผู้ผลิตหันมาใช้สินค้า/วัตถุดิบในประเทศ ทดแทนการนำเข้าได้
ทั้งนี้ SME สามารถค้นหาบริการหรือความช่วยเหลือจากหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชนหรือสถาบันการเงินที่เหมาะสมกับความต้องการในการประกอบธุรกิจของท่านได้ที่ https://www.smeone.info/ หรือสอบถามข้อมูลผ่านศูนย์ให้บริการ SME ครบวงจร โทร. 1301
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
พิษน้ำท่วม SME ยังไม่คลายกังวล ฉุดดัชนีความเชื่อมั่นต่ำกว่าฐานต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 3
ผลกระทบน้ำท่วม สภาวะเศรษฐกิจทรงตัว การท่องเที่ยวชะลอตัวตามฤดูกาล ส่งผลดัชนีความเชื่อมั่นผู้ประกอบการ SMESI ก.ย. 67 ต่ำกว่าระดับค่าฐานต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 3 แม้เริ่มเห็นสัญญาณการกลับมาของกำลังซื้อในระยะสั้น แต่ค่าคาดการณ์ในอีก 3 เดือนข้างหน้า เพิ่มขึ้นจากฤดูกาลท่องเที่ยวช่วงปลายปีและเทศกาลเฉลิมฉลองต่าง ๆ จะสามารถดึงความเชื่อมั่นผู้ประกอบการ SME กลับมาได้
‘สสว.’ จับมือ ‘INET’ เปิดพื้นที่ขาย ผ่าน Nex Gen Commerce Platform ช่วย SME
สสว. และบริษัท อินเทอร์เน็ตประเทศไทย จำกัด (มหาชน) ลงนาม MOU ให้สิทธิประโยชน์ผู้ประกอบการที่ลงทะเบียน SMEs ผู้รับบริการภาครัฐ เปิดพื้นที่ขาย ผ่าน Nex Gen Commerce Platform “พร้อมฟรี E-Tax Invoice และ E-Factoring”
สสว. แถลงข่าว “SME Privilege Club” เดินหน้าผนึกพันธมิตร เสริมแกร่งผู้ประกอบการ
สสว. แถลงข่าวความสำเร็จงานพัฒนาสิทธิประโยชน์ “SME Privilege Club คลับพิเศษสำหรับ SME” โครงการที่เพิ่มความร่วมมือพันธมิตร 3 ด้าน ทั้งเพิ่มผลิตภาพ/ลดต้นทุน ขยายช่องทางการตลาด เชื่อมโยงแหล่งเงินทุน
สสว. ผนึก LINE ผลักดันสิทธิประโยชน์ เสริมแกร่ง UPSKILL SME
สสว. ลงนามความร่วมมือ เดินหน้าพัฒนาสิทธิประโยชน์เพิ่มผลิตภาพ/ลดต้นทุน ภายใต้ “SME Privilege Club คลับพิเศษสำหรับ SME” จัดสัมมนา UPSKILL SME “ยอดขายโตทั่วไทย ด้วยโซลูชันจาก LINE”
สสว. เดินหน้าจับมือ ช้อปปี้ ผลักดันสิทธิประโยชน์ SME เน้นเสริมตลาดออนไลน์ ติดอาวุธองค์ความรู้สู่ตลาดสากล
สสว. เดินหน้าประสานความร่วมกับช้อปปี้ เสริมแกร่ง SME ภายใต้แนวคิด “SME Privilege Club คลับพิเศษสำหรับ SME” มุ่งเน้น 3 ด้านสำคัญ การเพิ่มผลิตภาพ/ลดต้นทุน การขยายช่องทางการตลาด และการเชื่อมโยงแหล่งเงินทุน พร้อมสนับสนุนกิจกรรมเสริมประสบการณ์ตลาดออนไลน์แข่งขันในระ
สสว. หนุน SME ขยายตลาดส่งออก เดินหน้าสิทธิประโยชน์ “SME Privilege Club”
สสว. นำผู้ประกอบการร่วมงานแสดงสินค้าและเจรจาธุรกิจ HKTDC Food Expo 2024 เขตบริหารพิเศษฮ่องกง ผลักดันสิทธิประโยชน์ SME ภายใต้ “SME Privilege Club