ม.หอการค้าฯ เผยดัชนีเชื่อมั่นผู้บริโภคก.พ.67 อยู่ที่ 63.8 ฟื้นตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 7 ชี้ยังห่วงเศรษฐกิจโลกชะลอตัว และสงครามตะวันออกกลางยืดเยื้อ
7 มี.ค. 2567 – นายธนวรรธน์ พลวิชัย อธิการบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย และประธานที่ปรึกษาศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ เปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคในเดือน ก.พ. 67 อยู่ที่ระดับ 63.8 เพิ่มขึ้นต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 7 ซึ่งอยู่ในระดับสูงสุดในรอบ 48 เดือนนับตั้งแต่เดือนมี.ค. 63 ขณะที่ดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับเศรษฐกิจไทยโดยรวม อยู่ที่ 57.7 ดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับโอกาสในการหางานทำ อยู่ที่ 60.4 และดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับรายได้ในอนาคต อยู่ที่ 73.2 ซึ่งดัชนีทุกตัวปรับเพิ่มขึ้นต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 7 เช่นกัน
สำหรับปัจจัยที่ทำให้ดัชนีเชื่อมั่นผู้บริโภคปรับขึ้นต่อเนื่อง มาจากผู้บริโภคเริ่มกลับมามีความเชื่อมั่นหลังจากมีการจัดตั้งรัฐบาลและรัฐบาลจัดทำนโยบายลดค่าครองชีพโดยลดค่าไฟฟ้าและค่าน้ำมัน ตลอดจนมีนโยบายในการกระตุ้นเศรษฐกิจ ต่างๆ จากภาครัฐ เช่น Easy E-Receipt ทำให้เกิดการจับจ่ายใช้สอยเพิ่มขึ้นเพื่อนำมาหักลดหย่อนภาษี การปรับลดค่าฟ้าฟ้า ราคาน้ำมันดีเซล จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทย มีจำนวนมากขึ้นหลังจากการเปิดประเทศ ราคาพืชผลทางการเกษตรหลายรายการปรับตัวดีขึ้น หรือทรงตัวในระดับที่ดีเกือบทุกรายการสำคัญนอกจากนี้ผู้บริโภคเห็นว่าการเมืองไทยมีเสถียรภาพมากขึ้น ส่งผลให้ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคทุกรายการปรับตัวดีขึ้นทุกรายการ
ขณะเดียวกันผู้บริโภคยังคงมีความกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์เศรษฐกิจโลกชะลอตัว สงครามในตะวันออกกลางที่อาจยืดเยื้อบานปลาย อาจเป็นปัจจัยที่เพิ่มแรงกดดันของการฟื้นตัวของระบบเศรษฐกิจโลกเข้าสู่ภาวะเศรษฐกิจถดถอย ซึ่งส่งผลลบต่อการส่งออกของไทยและอาจมีผลกระทบในเชิงลบต่อกำลังซื้อของประชาชนในทุกภูมิภาคในอนาคต
ด้านดัชนีความเชื่อมั่นหอการค้าไทยประจำเดือน ก.พ. 2567 ซึ่งเป็นการสำรวจความคิดเห็นของภาคธุรกิจ และหอการค้าทั่วประเทศ จำนวน 369 ตัวอย่าง มีการปรับตัวดีขึ้นจากเดือนก่อนหน้า โดยปรับตัวดีขึ้นเล็กน้อย จากระดับ 54.8 เป็น ระดับ 55.0 โดยมีสาเหตุสำคัญมาจากเนื่องจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ Easy E -Receipt นักท่องเที่ยวต่างชาติ โดยเฉพาะชาวจีนเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศมากขึ้น ขณะที่การส่งออก ก.พ.ขยายตัว 10% และราคาน้ำมันดีเซลขายปลีกยังทรงตัวอยู่ที่ระดับ 29.94 บาทต่อลิตร โดยภาคเอกชนยังมีความกังวลกรณีที่ กนง.คงอัตราดอกเบี้ย และการปรับลดการขยายตัวทางเศรษฐกิจไทยปี 67
อย่างไรก็ดี คาดว่าเศรษฐกิจไทยไตรมาส 1ปีนี้จะโตประมาณ 2% ส่วนไตรมาส 2 มองว่าเศรษฐกิจไทยจะกลับมาฟื้นตัวชัดเจนขึ้น หรือขยายตัวได้ 2.5-3% เนื่องจากจะมีการเบิกจ่ายงบประมาณแผ่นดินเข้าสู่ระบบ รวมทั้งรัฐบาลจะมีการจัดงานเทศกาลมหาสงกรานต์รวม 21 วัน ซึ่งเฉพาะในส่วนช่วงเทศกาลสงกรานต์ปีนี้ คาดว่าจะมีเม็ดเงินสะพัดในระบบเศรษฐกิจเพิ่มขึ้นจากปีก่อน 5 หมื่นล้านบาท ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจไทยให้เติบโตเพิ่มขึ้นได้อีก 0.2-0.3%
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ดีเดย์17ตุลา ขายหวย3ตัว ใบละ20บาท
สำนักงานสลากฯ ดีเดย์ 17 ต.ค. ประเดิมขายหวย N3 ใบละ 20 บาท
ภาคเอกชนพบ 'นายกฯ อิ๊งค์' ชงแผนกระตุ้นเศรษฐกิจ ถาม 'ดิจิทัลวอลเล็ต'
หอการค้าไทยรุดพบ 'นายกฯอิ๊งค์' เสนอแผน-มาตรการกระตุ้น ศก. 3 ระยะ ชี้สิ่งสำคัญความชัดเจนแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต เชื่อมั่นเสถียรภาพรัฐบาล แนะกระทรวงเศรษฐกิจฟังเสียงภาคเอกชน
2ต.ค.ขาย‘หวย’ N3ราคา20บาท สำรวจตลาด6ด.
ได้ฤกษ์!! สำนักงานสลากฯ กางโรดแมปออกสลาก N3 ตั้งธงทดสอบขาย 2 ต.ค.ยาวไป 6 เดือน
'เศรษฐา' จ้อนักลงทุนสหรัฐ ลั่นไทยพร้อมเปิดรับการลงทุน
นายกฯ จ้อนักลงทุนสหรัฐ ลั่นไทยพร้อมเปิดรับการลงทุน ไม่มีเวลาไหนดีไปกว่านี้อีกแล้ว พร้อมโชว์วิสัยทัศน์ Ignite Thailand เชื่อมโยงความเป็นหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจสองประเทศไปอีกระดับ