เริ่มนับถอยหลังสู่การประชุมสามัญประจำปี สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) ในวันที่ 25 มี.ค.2567 ที่จะมีวาระการเลือกตั้งกรรมการสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศ เพื่อนำไปสู่การเลือกตั้งประธาน ส.อ.ท.คนใหม่ (คนที่ 17) เข้ามาแทนชุดของ เกรียงไกร เธียรนุกุล ประธาน ส.อ.ท.คนปัจจุบันที่จะครบวาระในปีนี้ โดยเบื้องต้นเริ่มเห็นการฟาดฟันของสมาชิกใน ส.อ.ท.ที่จะเข้ามาชิงตำแหน่งบ้างแล้ว คนแรกคงหนีไม่พ้นนายเกรียงไกร ประธานคนเดิมที่มีสิทธิ์จะลงต่ออีกหนึ่งวาระ และได้ยืนยันว่าจะสานต่องานที่ตัวเองดำเนินการไว้
อีกรายหนึ่งที่มาแรง ก็คือ สมโภชน์ อาหุนัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) หรือ EA ซึ่งปัจจุบันดำรงตำแหน่งรองประธาน ส.อ.ท.ในชุดนายเกรียงไกรนั่นเอง ที่ประกาศตัวอย่างเป็นทางการว่าพร้อมที่จะเข้ามาทำงานในส่วนนี้ โดยกล่าวว่าถือเป็นอุดมการณ์ที่ต้องการรับใช้ชาติในฐานะภาคเอกชน โดยจะนำความรู้ ความสามารถ และประสบการณ์การทำงานมาช่วยประเทศชาติในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยให้เติบโตอย่างยั่งยืน
ถือว่าเปิดตัวได้อย่างร้อนแรง สำหรับ “สมโภชน์ อาหุนัย” ประกาศลงสมัครท้าชิงเก้าอี้ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ส.อ.ท. คนที่ 17 ชูประเด็นอยากสร้างประโยชน์ให้สังคมและประเทศชาติ โดยเชื่อมั่นว่า ส.อ.ท.คือแกนหลักของประเทศ มีส่วนสำคัญต่อการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมและเศรษฐกิจให้เติบโตขึ้น กลายเป็นประเด็นที่น่าจับตามอง ถึงเบื้องลึก เบื้องหลังการลงสมัครครั้งนี้
สมโภชน์ กล่าวว่า ในการลงสมัครครั้งนี้จะนำความรู้ ความสามารถ และประสบการณ์การทำงานมาช่วยประเทศชาติในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยให้เติบโตอย่างยั่งยืน อนาคตจะเห็น ส.อ.ท.ทำงานเชิงรุกด้วยยุทธศาสตร์ 4 ประการ คือ 1.การขับเคลื่อนแผนยุทธศาสตร์ด้านเศรษฐกิจของประเทศให้สอดประสานระหว่างภาครัฐกับเอกชน 2.สร้างพลังและเพิ่มขีดความสามารถของสมาชิกสภาอุตสาหกรรมทั่วประเทศ 3.ประสานภาครัฐให้ช่วยส่งเสริมสนับสนุนเอสเอ็มอี ผู้ประกอบการรายย่อย-รายใหม่ในการผลิตสินค้าที่มีมูลค่า และ 4.นำเอาความรู้ ความสามารถ ประสบการณ์ที่มีมาบูรณาการในเชิงรุกและเชิงรับทุกมิติ
“ถึงเวลาที่จะเข้ามานำทัพภาคอุตสาหกรรมขับเคลื่อนระบบเศรษฐกิจของประเทศที่อยู่ในภาวะป่วย แม้ยังไม่ถึงขั้นวิกฤตเกินเยียวยา ให้กลับมาเติบโตอย่างยั่งยืน หลุดพ้นจากกับดักรายได้ปานกลาง โดยผมจะส่งต่อประสบการณ์ดีๆ ที่สั่งสมให้สมาชิกนำไปปรับใช้เพื่อพัฒนาองค์กรของตัวเองให้สามารถพ้นผ่านวิกฤตไปด้วยกัน ถึงแม้ครั้งนี้จะไม่ได้เป็นประธาน แต่ถ้ามีคนนำเอาไอเดียที่ผมเสนอไปทำก็ดีใจแล้ว”
โดยมองว่าสถานการณ์ปัจจุบันอุตสาหกรรมไม่ควรอยู่ในสภาพตั้งรับ ควรอยู่ในเชิงรุก เนื่องจากโลกทุกวันนี้เปลี่ยนแปลงเร็วมาก แต่ละอุตสาหกรรมได้รับผลกระทบแตกต่างกันออกไป มีทั้งที่ต้องการรับการส่งเสริมสนับสนุนหรือเข้าไปช่วยแก้ไขปัญหา รวมถึงทำหน้าที่เป็นตัวแทนเชื่อมกับภาครัฐอย่างเป็นรูปธรรมให้บรรลุผลสำเร็จและเกิดประสิทธิภาพสูงสุด ซึ่งจะก่อให้เกิดประโยชน์กับผู้ประกอบการ แล้วยังตอบสนองภาครัฐให้บรรลุตามแผนยุทธศาสตร์ที่ตั้งไว้
ขณะนี้ บางอุตสาหกรรมเดิมแข่งขันไม่ได้ มีบางอุตสาหกรรมที่เป็นดาวรุ่ง จึงจะเป็นสะพานเชื่อมหลายอุตสาหกรรมมารวมกัน ใครเดือดร้อนต้องช่วยกัน เพื่อให้เป็นรูปธรรม เพิ่มขีดความสามารถอุตสาหกรรมกับประเทศ สร้างมูลค่าเพิ่มในอุตสาหกรรม คนไหนเดือดร้อนก็ช่วย คนไหนแข็งแรงก็ทำให้ดีขึ้นเพื่อให้ฝนตกทั่วฟ้า จึงต้องการเดินไปข้างหน้าด้วยนโยบายและมียุทธศาสตร์ที่ชัดเจน พร้อมผสานความเป็นปึกแผ่นเพื่อมองไปข้างหน้าด้วยกันโดยไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง พร้อมรับใช้ทุกคนและไม่เป็นนายใคร ทุกคนใน ส.อ.ท.ล้วนเป็นผู้บริหาร เป็นเจ้าของกิจการมีตำแหน่งไม่น้อยกว่ากัน จึงต้องมาร่วมทำงาน ร่วมแก้ปัญหาโปร่งใสไม่มีฝักมีฝ่าย
“หากวันนี้ไม่เสนอตัวเป็นประธาน ก็จะไม่มีโอกาสเสนอไอเดียให้สาธารณชน สมาชิกทราบ ถือเป็นเวทีให้ผู้สมัครแสดงไอเดีย เป็นเวลาที่ดี อยากเห็น ส.อ.ท.ช่วยรัฐบาล ประเทศชาติ สร้างเศรษฐกิจเติบโตยั่งยืนพ้นกับดักรายได้ปานกลาง ซึ่งประเทศไทยยังมีปัญหาเชิงโครงสร้างที่ทำให้ไม่สามารถแข่งขันได้เต็มที่ในเวทีระดับโลก คู่แข่งไทยขณะนี้ ทุกคนเห็นอยู่แล้วระดับรัฐบาลที่เถียงว่าวิกฤตหรือไม่วิกฤต รากหญ้าหนี้เพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ เครื่องยนต์แต่ละคลัสเตอร์ไม่แข็งแรง ถ้าเราไม่ทำให้แข็งแรงจะแก้ไม่ได้ รัฐบาลมีนโยบาย เช่น ซอฟต์พาวเวอร์ และอุตสาหกรรมเป้าหมาย เราก็จะทำเป็นนโยบายผลักดันร่วมกันกับสมาชิกที่มีโรงงานกว่า 1 หมื่นโรงงาน ให้เครื่องจักรทันสมัย แข็งแรง”
การจะประสบความสำเร็จต้องทำงานเชิงลึกและหนักแน่น ต้องใช้คนที่มีประสบการณ์ เสียสละ เห็นแก่ประโยชน์ส่วนรวม ดังนั้นถือเป็นจังหวะ ถ้าไม่ทำตอนนี้ อีก 2 ปีมาทำก็ไม่ได้ ซึ่งต้องยอมรับว่าที่ผ่านมานโยบายเสนอไปอาจจะไม่มีการดำเนินการ เช่น การลดค่าไฟฟ้า ยอมรับว่าราคาพลังงานเป็นต้นทุนของอุตสาหกรรม ต้องแก้ปัญหาระยะสั้น กลาง และยาว ซึ่งบางบริษัทอาจได้ประโยชน์และบางบริษัทอาจเสียประโยชน์ จึงต้องสร้างความสมดุลเพื่อให้ประเทศเดินหน้าได้
“เป็นโอกาส หากไม่แข่งขันลงสมัคร ใครจะมาเป็นก็ขึ้นอยู่กับสมาชิก นโยบายที่ดี อาจมาจากผู้สมัครแล้วมารวมกันอาจจะกลายเป็นนโยบายหลักก็เป็นไปได้ ผมถือเป็นบริษัทหนึ่งที่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาล เป็นโอกาสว่า ที่ผมได้รับการสนับสนุนตอนเป็นเอสเอ็มอี สมาชิกก็ควรได้รับโอกาสที่ดีด้วย หากเห็นว่าดีก็ทำ ถ้าใครเหมาะสมกว่าผมก็ยินดีสนับสนุน วันนี้ควรคุยให้สร้างสรรค์ว่าประเทศจะโตอย่างไรเคลื่อนไปข้างหน้าอย่างเป็นรูปธรรม”
ส่วนประเด็นเรื่องที่อาจจะมีคนมองว่าจะเกิดความขัดแย้งของการลงสมัครเลือกตั้ง ยืนยันว่าไม่ได้มาสร้างความขัดแย้ง ขอใช้โอกาสนี้เสนอความคิดเห็นให้สร้างสรรค์ เพราะประเทศวันนี้รอไม่ได้ ทุกคนรู้อยู่แล้วว่าเศรษฐกิจไม่ดี รอไม่ได้ คนเป็นมะเร็งขั้นที่ 1 อาจแก้ได้ แต่ถ้าขั้น 4 อาจแก้ไม่ทัน ยืนยันไม่ทำให้ใครแตกแยก ทุกคนเป็นพี่น้องหมด ต้องซัพพอร์ตสมาชิกทุกคนทั้งที่เลือกและไม่เลือก ยังเคารพคุณเกรียงไกร เธียรนุกุล ประธาน ส.อ.ท.เหมือนเดิม ถ้ามีเจตนาให้ ส.อ.ท.เดินไปข้างหน้าต้องเปิดใจ
ที่ผ่านมา ส.อ.ท.เกิดจากการรวมตัวของอุตสาหกรรมต่างๆ แต่จะมีกลุ่มหลายอุตสาหกรรม ทุกคนจะดูแลในอุตสาหกรรมของตนเองเป็นหลัก เหมือนการเล่นดนตรีที่มีเครื่องเล่นหลายตัว แม้จะเล่นเป็นเพลงได้อาจจะไม่ไพเราะ หากมีคนคุมวงที่ดีก็จะไพเราะยิ่งขึ้น เพราะเป็นการลงมือทำจากอินเนอร์พร้อมจิตอาสาใจเป็นกลาง เห็นแก่ประโยชน์ส่วนรวม ถ้าทำได้ ส.อ.ท.จะเป็นหนึ่ง ดังนั้นหลังจากนี้ก่อนเลือกตั้ง 25 มี.ค.2567 นี้ จะลงพื้นที่เสนอไอเดียให้สมาชิก เพื่อให้รู้ว่าพร้อมที่จะทำงานเชิงรุก โปร่งใส โดยสิ่งแรกที่อยากทำคือคุยกับทุกคนและจัดลำดับความสำคัญของปัญหาว่าจะทำเรื่องไหนก่อนที่จะเดินไปคุยกับรัฐบาล ถ้าเปิดใจ โดยจะเซตซีโรเรื่องความสัมพันธ์สมาชิก และพร้อมให้สมาชิกตรวจสอบในทุกด้าน
โดยมองว่าการนำเสนอแผนยุทธศาสตร์ในอนาคตต่อภาครัฐ อุตสาหกรรมแต่ละประเภทจะต้องเตรียมแผนทรานส์ฟอร์มธุรกิจเพื่อรองรับการแข่งขันในเวทีโลกทุกมิติ อาทิ การปรับปรุงกฎหมายหรือกฎระเบียบเพื่อให้ทันกติการะดับสากล ความรู้ เทคโนโลยีและนวัตกรรม โดยเฉพาะอย่างยิ่งการพัฒนาอุตสาหกรรมอย่างยั่งยืน (BCG & ESG) และการมุ่งสู่เป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero) ซึ่งเป็นเทรนด์ของโลกในปัจจุบัน
“ตลอดระยะเวลา 8 ปีที่ผ่านมา ในฐานะสมาชิกและเป็นรองประธาน ส.อ.ท. ทำงานด้วยจิตอาสาโดยไม่ได้หวังผลตอบแทนหรือรับประโยชน์ใดๆ ครั้งนี้ถือเป็นโอกาสสำคัญที่ผมอยากจะเห็นการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้น จึงขอเสนอตัวเข้ารับการคัดเลือกเป็นประธาน ส.อ.ท. เพื่อช่วยผลักดันให้อุตสาหกรรมและเศรษฐกิจไทยเติบโต อีกทั้งสามารถยืนอยู่บนเวทีโลกได้อย่างแข็งแกร่ง”
ขณะเดียวกัน มองว่าคนอื่นๆ ที่มีวิสัยทัศน์และความสามารถก็สมัครตำแหน่งประธานสภาอุตสาหกรรมได้ เพื่อนำเสนอสิ่งดีๆ ให้แก่ภาพรวมของอุตสาหกรรม และผู้ที่ได้รับเลือกเป็นประธานควรที่จะนำข้อเสนอไปขับเคลื่อนต่อให้เป็นรูปธรรม ที่สำคัญต้องสร้างความโปร่งใสในการทำงาน เป็นเวทีกลางที่ทุกฝ่ายได้ประโยชน์ร่วมกัน และกระจายอำนาจให้แต่ละกลุ่มมาช่วยกันทำงาน…
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ส.อ.ท. โอดดัชนีเชื่อมั่นอุตฯ ร่วงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 3
ส.อ.ท. โอดดัชนีเชื่อมั่นอุตฯ ร่วงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 3 เผยความกังวลเพิ่มขึ้น ทั้ง เศรษฐกิจโลก อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ และเศรษฐกิจในประเทศ เสนอรัฐปรับดอกเบี้ยเงินกู้ เร่งรัดจัดตั้งธนาคารไร้สาขา
รัฐบาลวางแผนดันไทยเป็นฐานการผลิตรถยนต์สันดาปสุดท้ายของโลก
'เศรษฐา'ย้ำต้องบริหารจัดการน้ำรอบด้าน พร้อมตั้งเป้าให้ไทยเป็นฐานการผลิตรถยนต์สันดาปสุดท้ายของโลก ด้าน ส.อ.ท. เปิด 8 ข้อเสนอนายก เร่งสรุปแอคชั่นแพลนใน 1-2 สัปดาห์ ก่อนพัฒนาแผนทำงานร่วมกัน
ส.อ.ท.มึนความเชื่อมั่นเอกชนงวด พ.ค. ลด ติดกันเป็นเดือนที่ 2
ส.อ.ท.มึนความเชื่อมั่นเอกชนงวด พ.ค. ลด ติดกันเป็นเดือนที่ 2 เหตุปัจจัยสนับสนุนติดขัดทุกด้าน ทั้ง คาด 3 เดือนยังปรับลด จากผู้ประกอบการกังวลขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำของรัฐบาลใหม่ แนะภาครัฐออกมาตรการอุ้ม SME