สถานะกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงที่ใกล้จะติดลบ 100,000 ล้านบาทเข้ามาทุกที จากภาระที่ต้องเข้าไปอุดหนุนราคาพลังงานทั้งกลุ่มน้ำมันเบนซิน น้ำมันดีเซล และก๊าซหุงต้ม (LPG) ในปัจจุบัน
ขณะที่เงื่อนเวลาการสนับสนุนเชื้อเพลิงทั้ง 3 กลุ่มนี้ก็ทยอยสิ้นสุดระยะเวลาลง ในภาคนโยบายจะต้องเตรียมการเพื่อรองรับกับสถานการณ์ เพราะราคาน้ำมันเชื้อเพลิงในตลาดโลกยังคงมีความผันผวนอยู่ตลอดเวลาแม้ราคาจะไม่สูงก็ตาม แต่หากยังคงตรึงหรืออุ้มราคาพลังงานอยู่แบบนี้ กองทุนน้ำมันฯ ก็ต้องเผชิญกับสถานะที่ติดลบทะลุ 100,000 ล้านบาทอีกระลอกแน่นอน กองทุนน้ำมันฯ คงจะต้องตั้งเรื่องขอกู้ไว้กับสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) ล่วงหน้าสำหรับรอบปีงบประมาณ 2567 ซึ่งหากมีการกู้ยืมเงินได้จริง กองทุนน้ำมันฯ คงต้องทบทวนสภาพคล่องทางการเงิน และอาจจะกระทบต่อการชำระคืนเงินต้นจากหนี้ครั้งก่อนที่กู้สถาบันการเงินมา 105,333 ล้านบาท ซึ่งจะเริ่มในเดือน พ.ย.2567 อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
สำหรับ ดีเซล จากที่ตรึงไว้ 30 บาท/ลิตร จนถึง 31 มีนาคม 2567 โดยใช้เงินจากกองทุนน้ำมันฯ และการลดภาษีสรรพสามิต 1 บาท/ลิตร ตามมติ ครม.เมื่อ 16 มกราคม 2567 มีกรอบการลดภาษีสิ้นสุดในวันที่ 19 เมษายน 2567 ขณะนี้เริ่มมีกระแสโยนหินถามทางเพื่อปรับขึ้นราคาขายปลีกเป็น 32 บาท/ลิตร และกระแสก็จุดติดอย่างเร็ว ภาคเอกชนออกมาคัดค้านทันทีว่าน่าจะเป็นการแก้ปัญหาไม่ตรงจุด สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เสนอแนวทางแก้ไข โดยหามาตรการช่วยเหลือเฉพาะกลุ่มเปราะบางเป็นหลักเพื่อลดภาระการอุดหนุนลง และหาแนวทางลดการพึ่งพาการนำเข้าน้ำมันจากต่างประเทศ หันไปพึ่งพาพลังงานชีวภาพมากขึ้น โดยปรับโครงสร้างการผลิตไม่ต้องเสียภาษี เพื่อให้ต้นทุนเชื้อเพลิงชีวภาพลดต่ำลง รวมถึงส่งเสริมการติดโซลาร์เซลล์ ใช้ยานยนต์ที่เป็นพลังงานไฟฟ้าเพิ่มขึ้น
ส่วน กลุ่มเบนซิน ซึ่งหมดโปรลดราคาน้ำมันแก๊สโซฮอล์ 91 ต่ำกว่าราคาตลาด 2.50 บาท/ลิตร และแก๊สโซฮอล์ 95 ราคาต่ำกว่าราคาตลาด 1 บาท/ลิตร ไปตั้งแต่ 31 มกราคม 2567 แล้ว โดยที่กองทุนน้ำมันฯ เริ่มปรับอัตราการเรียกเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงของน้ำมันกลุ่มน้ำมันเบนซิน อย่างไรก็ตาม การเรียกเก็บเงินในแต่ละครั้งคงจะค่อยเป็นค่อยไปเพื่อให้กระทบต่อค่าครองชีพของประชาชนน้อยที่สุด ในขณะเดียวกันการเรียกเก็บเงินครั้งนี้จะส่งผลให้ราคาแก๊สโซฮอล์ E10-91 ใกล้เคียงกับแก๊สโซฮอล์ E10-95 มากขึ้น เพื่อสะท้อนต้นทุนที่แท้จริงและเป็นไปตามกลไกตลาด
ขณะที่ ก๊าซหุงต้ม (LPG) มาตรการตรึงราคา LPG ขนาดถัง 15 กก.จะสิ้นสุดลงเดือนมีนาคม 2567 นี้
สำหรับฐานะของกองทุนน้ำมันฯ สุทธิ ณ วันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2567 ติดลบ 91,887 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นน้ำมันติดลบ 45,222 ล้านบาท ก๊าซ LPG ติดลบ 46,665 ล้านบาท จะเห็นได้ว่า ปัญหาการขาดสภาพคล่องของกองทุนน้ำมันฯ กำลังกลับมา แนวทางแก้ไขของฝ่ายนโยบายยังคงวนเวียนอยู่กับการใช้กลไกกองทุนน้ำมันฯ และการลดภาษีสรรพสามิต ซึ่งควรจะเป็นแนวทางการแก้ปัญหาระยะสั้นมากกว่าที่จะต่อมาตรการอุดหนุนนี้ไปเรื่อยๆ ในขณะที่ทางออกในเรื่อง “การปรับโครงสร้างราคาพลังงาน” แม้จะถูกผลักดันมาตั้งแต่รัฐบาลก่อนหน้านี้ แต่ก็ยังไม่ประสบผล ในรัฐบาลชุดนี้ก็เช่นกันแม้จะดูขึงขังในระยะแรก แต่ก็ยังไม่มีความคืบหน้ามากนักในขณะนี้
บทสรุปในระยะสั้น เชื่อได้ว่าฝ่ายการเมืองที่กำหนดนโยบายคงยังไม่กล้าขยับราคาน้ำมันดีเซลขึ้นไปเพื่อสะท้อนต้นทุนที่แท้จริง และคงออกมาตรการอุดหนุนต่อไปเรื่อยๆ จากระยะสั้นกลายเป็นระยะยาวไป โดยใช้เหตุผลที่ต้องรอผลศึกษาเรื่องการปรับโครงสร้างพลังงานก่อน
การแก้ไขปัญหาที่ติดกับดักน้ำมันราคาถูก คงต้องมองภาพองค์รวมให้แตกฉาน ไม่แยกส่วนในการแก้ปัญหา และ คงต้องชั่งน้ำหนักใหม่ระหว่างผลประโยชน์ที่จะเกิดขึ้นระหว่างการอุดหนุน กับการไม่อุดหนุน หรืออุดหนุนแค่เฉพาะส่วน ว่า แนวทางไหนจะก่อประโยชน์สูงสุดได้ดีกว่า เพราะตราบใดที่ไทยเป็นประเทศที่ต้องนำเข้าพลังงานเป็นหลัก ปัจจัยความเสี่ยง ความผันผวนเป็นอุปสรรคสำคัญที่เราไม่สามารถคาดการณ์หรือกำหนดได้ การวางแผนรับมือกรณีเกิด Crisis ราคาน้ำมันในตลาดโลกผันผวน เราจะได้มีกันชนที่หนาพอไว้รับมือกับสถานการณ์เพื่อให้ประเทศและประชาชนบาดเจ็บน้อยที่สุด
หากฝ่ายนโยบายยังคงทำงานแบบกั๊กผลประโยชน์ทางการเมือง ประเทศก็คงต้องเผชิญปัญหาในระยะยาว ซึ่งถึงที่สุดก็ย่อมส่งผลสะเทือนต่อภาพรวมเศรษฐกิจที่กำลังเร่งพลิกฟื้นเศรษฐกิจกลับมาเป็นแน่ และเราอาจจะเห็นภาคส่วนต่างๆ ออกมาเรียกร้องกันมากขึ้น ดังเช่นล่าสุดที่ 3 ผู้เชี่ยวชาญด้านพลังงาน ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล อดีตรองนายกรัฐมนตรี ดร.ณรงค์ชัย อัครเศรณี อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน และ ดร.คุรุจิต นาครทรรพ อดีตปลัดกระทรวงพลังงาน ร่วมทำจดหมายเปิดผนึกถึงนายกรัฐมนตรีเกี่ยวกับความเสียหายที่รัฐบาลกำหนดนโยบายด้านพลังงานผิดพลาด ส่งผลเสียต่อประเทศ ทั้งการบริหารกองทุนน้ำมันฯ ราคาไฟฟ้า หนี้ กฟผ. ภาระโรงกลั่นที่มาจากนโยบาย Euro 5 และการปรับสูตร Pool Gas
ยังมีอีกสิ่งที่ยังไม่มีการพูดถึง เพื่อให้ประชาชนเข้าใจถึงปัญหาวิกฤตครั้งนี้ว่าจะไม่เหมือนทุกครั้งที่ผ่านมาที่เกิดจากราคาน้ำมันเชื้อเพลิงที่สูงขึ้น แต่เป็นวิกฤตสภาพคล่องของกองทุนน้ำมันฯ เอง ซึ่งคงต้องดูบทบาทของกองทุนน้ำมันฯ ในการแก้ไขสภาพคล่องในครั้งนี้ว่าจะสามารถแก้ไขได้หรือไม่ต่อไป.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'หมอวรงค์' จับโป๊ะ! ยิ่งฟังรัฐบาลแจง ยิ่งต้องรีบยกเลิก 'MOU 44'
นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ประธานพรรคไทยภักดี โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า ยิ่งฟังคำชี้แจงต้องยิ่งยกเลิก MOU 44
'จตุพร' บี้รัฐบาลเปิดสัญญาสัมปทานปิโตรเลียม อย่าทึกทักไทยได้ใช้น้ำมันถูกไม่เสียดินแดน
นายจตุพร พรหมพันธุ์ วิทยากรคณะหลอมรวมประชาชน เฟซบุ๊คไลฟ์ว่า กรณีเกาะกูดและพื้นที่ทับซ้อนทางทะเลระหว่างไทยกับกัมพูชา นายกฯ อุ๊งอิ๊ง-แพทองธาร ชินวัตร ควรอธิบายความจริงให้ประชาชนรับรู้อย่างครบถ้วน