นิด้าโพล เผยประชาชนไม่เห็นด้วย การใช้อำนาจพักโทษของกรมราชทัณฑ์

25 ก.พ. 2567 – ศูนย์สำรวจความคิดเห็น “นิด้าโพล” สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) เปิดเผยผลสำรวจของประชาชน เรื่อง “อำนาจราชทัณฑ์ กับการเมืองหลังพักโทษ” ทำการสำรวจระหว่าง วันที่ 20-22 กุมภาพันธ์ 2567 จากประชาชนที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป กระจายทุกภูมิภาค ระดับการศึกษา อาชีพ และรายได้ ทั่วประเทศ รวมทั้งสิ้น จำนวน 1,310 หน่วยตัวอย่าง เกี่ยวกับอำนาจของกรมราชทัณฑ์กับการเมืองหลังพักโทษ การสำรวจอาศัย การสุ่มตัวอย่างโดยใช้ความน่าจะเป็นจากบัญชีรายชื่อฐานข้อมูลตัวอย่างหลัก (Master Sample) ของ “นิด้าโพล” สุ่มตัวอย่างแบบหลายขั้นตอน (Multi-stage Sampling) เก็บข้อมูลด้วยวิธีการสัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ โดยกำหนดค่าความเชื่อมั่น ร้อยละ 97.0

จากการสำรวจเมื่อถามถึงความคิดเห็นของประชาชนต่ออำนาจของกรมราชทัณฑ์ในการพิจารณาลดโทษ หรือพักโทษให้กับนักโทษหลังจากศาลมีคำพิพากษา พบว่า ตัวอย่าง ร้อยละ 40.00 ระบุว่า ไม่เห็นด้วยเลย รองลงมา ร้อยละ 19.47 ระบุว่า เห็นด้วยมาก ร้อยละ 19.16 ระบุว่า ไม่ค่อยเห็นด้วย ร้อยละ 18.01 ระบุว่า ค่อนข้างเห็นด้วย และร้อยละ 3.36 ระบุว่า ไม่ทราบ/ไม่ตอบ/ไม่สนใจ

ด้านความคิดเห็นของประชาชนต่อการพิจารณาลดโทษ หรือพักโทษของกรมราชทัณฑ์ ควรมีผู้ทรงคุณวุฒิภายนอกร่วมเป็นกรรมการ พบว่า ตัวอย่าง ร้อยละ 41.69 ระบุว่า เห็นด้วยมาก รองลงมา ร้อยละ 24.58 ระบุว่า ค่อนข้างเห็นด้วย ร้อยละ 24.27 ระบุว่า ไม่เห็นด้วยเลย ร้อยละ 8.70 ระบุว่า ไม่ค่อยเห็นด้วย และร้อยละ 0.76 ระบุว่า ไม่ทราบ/ไม่ตอบ/ไม่สนใจ

ท้ายที่สุดเมื่อถามถึงความคิดเห็นของประชาชนเกี่ยวกับสถานการณ์ทางการเมืองหลัง “ทักษิณ ชินวัตร” ได้รับการพักโทษ พบว่า ตัวอย่าง ร้อยละ 50.38 ระบุว่า “ทักษิณ ชินวัตร” จะมีบทบาทในการให้คำปรึกษากับพรรคเพื่อไทย รองลงมา ร้อยละ 28.93 ระบุว่า การชุมนุมต่อต้าน “ทักษิณ ชินวัตร” จะไม่สามารถจุดติดเป็นการชุมนุมใหญ่ ร้อยละ 26.72 ระบุว่า คะแนนนิยมพรรคเพื่อไทยจะลดลง จากบทบาทที่มากขึ้นของ “ทักษิณ ชินวัตร” ร้อยละ 21.68 ระบุว่า การชุมนุมต่อต้าน “ทักษิณ ชินวัตร” จะสามารถจุดติดเป็นการชุมนุมใหญ่ ร้อยละ 19.69 ระบุว่า การต่อสู้ทางการเมืองระหว่างพรรคเพื่อไทยกับพรรคก้าวไกลจะเข้มข้นขึ้น ร้อยละ 19.24 ระบุว่า เร็ว ๆ นี้จะมีการปรับคณะรัฐมนตรี ร้อยละ 17.63 ระบุว่า “ทักษิณ ชินวัตร” จะไม่ยุ่งกับการเมืองอีกแล้ว ร้อยละ 17.02 ระบุว่า นายกรัฐมนตรี เศรษฐา ทวีสิน จะอยู่ในตำแหน่งจนครบวาระ ร้อยละ 14.43 ระบุว่า ประเทศไทยจะดูเหมือนมี “นายกรัฐมนตรี” สองคน ร้อยละ 12.21 ระบุว่า ศูนย์กลางอำนาจทางการเมืองยังคงอยู่ที่ “ทำเนียบรัฐบาล” ร้อยละ 11.15 ระบุว่า ศูนย์กลางอำนาจทางการเมืองจะย้ายไปอยู่ที่ “บ้านจันทร์ส่องหล้า” ร้อยละ 11.07 ระบุว่า จะมีการเปลี่ยนตัว “นายกรัฐมนตรี” จาก เศรษฐา ทวีสิน เป็น “อุ๊งอิ๊ง” แพทองธาร ชินวัตร ร้อยละ 9.54 ระบุว่า คะแนนนิยมพรรคเพื่อไทยจะสูงขึ้นจากบทบาทที่มากขึ้นของ “ทักษิณ ชินวัตร” ร้อยละ 6.11 ระบุว่า พรรคเพื่อไทยกับพรรคก้าวไกลจะเป็นมิตรกันมากขึ้น และร้อยละ 10.00 ระบุว่า ไม่ทราบ/ไม่ตอบ/ไม่สนใจ

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

โพลชี้ ปี 67 คนเหนื่อยหน่าย ‘รายได้ต่ำ-เศรษฐกิจตก’

ศูนย์สำรวจความคิดเห็น “นิด้าโพล” สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ หรือ นิด้า เปิดเผยผลการสำรวจ ของประชาชน เรื่อง “เหนื่อยหน่ายกับอะไรบ้าง ในปี 2567 ที่ผ่านมา”

คน กทม. เกินครึ่งไม่เห็นด้วยมาตรการเก็บค่าธรรมเนียมรถติด

นย์สำรวจความคิดเห็น “นิด้าโพล” สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) เปิดเผยผลการสำรวจ ของประชาชน เรื่อง “สองมาตรการใหม่ คน กทม. จะเอาไง” ทำการสำรวจระหว่างวันที่ 27-29 พฤศจิกายน 2567 จากประชาชนที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร กระจายระดับการศึกษา อาชีพ และรายได้ รวมจำนวนทั้งสิ้น 1,310 หน่วยตัวอย่าง เกี่ยวกับความคิดเห็นของคนกรุงเทพมหานคร หากมีการใช้มาตรการจัดเก็บค่าธรรมเนียมการเก็บขยะและค่าธรรมเนียมรถติด

ผลโพลสูสี คนอยากแก้ กับ ไม่อยากแก้ 'รธน.' มีใกล้เคียงกัน

ศูนย์สำรวจความคิดเห็น “นิด้าโพล” สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) เปิดเผยผลการสำรวจของประชาชน เรื่อง “ประชามติและการแก้ไขรัฐธรรมนูญ” ทำการสำรวจระหว่างวันที่ 2-3 ธันวาคม 2567 จากประชาชนที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป กระจายทุกภูมิภาค ระดับการศึกษา อาชีพ และรายได้ ทั่วประเทศ

‘เทพไท’ สะท้อนประสบการณ์ตรง ‘ยุบพรรค-ตัดสิทธิ์การเมือง’ ทำได้แค่ไหน

ในฐานะผู้มีประสบการณ์ตรง และถูกศาลอาญาพิพากษาตัดสิทธิ์ทางการเมือง 10 ปี จนถูกคณะกรรมการเลือกตั้ง(กกต.) ห้ามใช้สิทธิ์ลงคะแนนเลือกตั้งในทุกกรณี

'นิด้าโพล' ชี้ประชาชน กว่า 61% ไม่เห็นด้วยกับโทษยุบพรรค ในคดีล้มล้างการปกครอง

ศูนย์สำรวจความคิดเห็น “นิด้าโพล” สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) เปิดเผยผลการสำรวจของประชาชน เรื่อง “ยุบพรรค ตัดสิทธิทางการเมือง” ทำการสำรวจระหว่างวันที่ 25-26 พฤศจิกายน 2567 จากประชาชนที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป กระจายทุกภูมิภาค ระดับการศึกษา อาชีพ และรายได้ ทั่วประเทศ