“จุรินทร์”เป็นประธานประชุม กรอ.พาณิชย์ ประเมินส่งออกปี 64 ขยายตัวไม่ต่ำกว่า 16% ส่วนปี 65 คาดโต 3-4% มูลค่า 9 ล้านล้านบาท หลังเศรษฐกิจโลกฟื้นตัว คู่ค้ายังนำเข้าเพิ่ม เงินบาทเอื้อต่อการส่งออก ไม่มีปัญหาการขาดแคลนตู้คอนเทนเนอร์ นานาชาติคุมโควิด-19 ได้ดีขึ้น และ RCEP เริ่มบังคับใช้
28 ธ.ค. 2564 นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชนด้านการพาณิชย์ (กรอ.พาณิชย์) ครั้งที่ 3/2564 ว่า ได้มีการหารือถึงการสรุปตัวเลขการส่งออกปี 2564 โดยประเมินว่าจะเป็นบวกประมาณ 16% และทำรายได้เข้าประเทศ 8,585,600 ล้านบาท โดยสินค้าหมวดสำคัญ ๆ ที่ทำรายได้เข้าประเทศเป็นลำดับสูง ประกอบด้วยสินค้าการเกษตร สินค้าเกษตรอุตสาหกรรมและสินค้าอุตสาหกรรม ซึ่งตัวเลขจะเป็นไปตามนี้ทั้งหมดหรือไม่ ต้องรอตัวเลขจริงเดือนธ.ค.2564 อีกครั้ง
ทั้งนี้ ที่ประชุมยังได้หารือถึงตัวเลขการส่งออกปี 2565 ซึ่งได้มีการคาดการณ์กันโดยหลายหน่วยงานแล้ว ทั้งหน่วยงานภาครัฐ และภาคเอกชน แต่ในส่วนของกระทรวงพาณิชย์ได้มีการคาดการณ์ว่าการส่งออกปี 2565 จะยังคงมีการขยายตัว คือ เป็นบวกประมาณ 3–4% และคาดว่าจะมีตัวเลขการส่งออกประมาณ 9 ล้านล้านบาท หรือ 280,000 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งตัวเลขส่งออกในปี 2565 จะมากกว่าปี 2564 ประมาณ 4 แสนล้านบาท
สำหรับปัจจัยที่ทำให้การส่งออกในปี 2565 ขยายตัว 3-4% ได้พิจารณาจาก 8 ปัจจัย ได้แก่ 1.เศรษฐกิจคู่ค้าสำคัญย้อนหลังไป 5 ปี 2.อัตราแลกเปลี่ยน 3.ราคาน้ำมันดิบดูไบ 4.ราคาสินค้าเกษตร 5.ราคาวัตถุดิบโลก เฉลี่ย 6.สถานการณ์โควิด-19 7.ปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับด้านการขนส่งโลจิสติกส์ ซึ่งคาดว่าปี 2565 การผลิตตู้คอนเทนเนอร์ป้อนตลาดโลกจะเพิ่มขึ้น จะช่วยให้เป็นบวกกับการส่งออกได้คล่องตัวขึ้น 8.การประเมินโดยทูตพาณิชย์ของกระทรวงพาณิชย์ทั่วโลก
สำหรับสินค้าส่งออกสำคัญ 4 กลุ่มที่มีแนวโน้มดี ประกอบด้วย 1.สินค้าเกษตรและอาหาร เช่น ข้าว ผลไม้ น้ำตาล อาหารเลี้ยงสัตว์ 2.สินค้าที่เกี่ยวข้องกับทำงานที่บ้าน เช่น คอมพิวเตอร์ อุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้า 3.สินค้ากลุ่มเวชภัณฑ์ 4.วัตถุดิบที่ใช้เพื่อการผลิตสินค้า เช่น เหล็ก เม็ดพลาสติกเคมีภัณฑ์ ยางรถยนต์ที่จะนำไปใช้ในการผลิตรถยนต์
ส่วนปัจจัยที่สนับสนุนการส่งออก ได้แก่ 1.การขยายตัวของเศรษฐกิจโลกซึ่ง OECD คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจโลกจะขยายตัวบวก 4.5% 2.การนำเข้าของประเทศคู่ค้า ในปีหน้าคาดว่ายังขยายตัวดี ไม่ว่าจะเป็นสหรัฐฯ จีน ญี่ปุ่น หรือสภาพยุโรป ซึ่งจะช่วยเสริมการส่งออก นำเข้า ทำให้โอกาสการส่งออกของไทยจะมากขึ้นด้วย 3.ปัจจัยค่าเงินบาท ซึ่งคาดว่าปีหน้าก็ยังจะเอื้อต่อการส่งออก อยู่ที่ประมาณ 32-33 บาทต่อเหรียญสหรัฐ 4.การผลิตตู้คอนเทนเนอร์ป้อนตลาดโลกที่มากขึ้น 5.การเติบโตของเศรษฐกิจดิจิทัล จะช่วยเรื่องการส่งออกสินค้าด้าน IT ของไทย 6.แผนจัดการแก้ปัญหาโควิด-19 ที่จะมีประสิทธิภาพมากขึ้นในภาพรวมของโลก และ 7.ความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (RCEP) 15 ประเทศที่จะมีผลบังคับใช้วันที่ 1 ม.ค.2565
ทางด้านการค้าชายแดนและการค้าผ่านแดนในปี 2564 คาดว่าจะขยายตัว 32% สร้างรายได้จากการส่งออก ประมาณ 1 ล้านล้านบาท และปี 2565 คาดว่าจะเป็นบวก 5-7% หรือ 1.07-1.08 ล้านล้านบาท โดยมีมูลค่าการค้า ทั้งนำเข้าส่งออกทางชายแดนข้ามแดนประมาณ 1.78–1.82 ล้านล้านบาท
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
“พาณิชย์” รับลูก นายกฯ “ดูแลประชาชน” ลุยตรวจ ”ปั๊มน้ำมัน -ขนส่ง-สนามบิน“ ย้ำ ขอให้ประชาชนมั่นใจ เดินทางราบรื่นช่วงปีใหม่
กระทรวงพาณิชย์ โดยกรมการค้าภายใน ส่งเจ้าหน้าที่ออกตรวจสอบเข้มสร้างความมั่นใจให้ประชาชนในการเดินทางช่วงเทศกาลปีใหม่ ครอบคลุมทุกการเดินทางของประชาชน ทั้งการตรวจสอบมาตรวัดน้ำมันเชื้อเพลิง ให้ได้น้ำมันเต็มลิตร-เน้นย้ำผู้ประกอบการตามสถานีขนส่งปิดป้ายแสดงราคาให้ชัดเจน-
“สุชาติ” รมช. พาณิชย์ ยืนยันไม่ได้หายไปไหน เดินหน้าผลักดันส่งออก ชี้ ต้องการทำให้ FTA มีประโยชน์สูงสุด
นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ได้เปิดเผยต่อสื่อมวลชนว่า “ตนได้ทำงานในฐานะรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์อย่างเต็มที่ โดยที่ผ่านมาได้เดินหน้าทำงานต่อเนื่อง สร้างผลงานดันเจรจา FTA