“เน็กซ์” เปิดแผนธุรกิจปี 65 ทุ่ม 200 ล้านบาท เตรียมส่งรถโดยสารไฟฟ้า 470 คัน แตกไลน์ให้บริการรถโดยสารประจำทาง 10 เส้นทาง ประเดิมเชื่อมเส้นทาง อีอีซีนำร่องกรุงเทพฯ-ชลบุรี มี.ค.ปีหน้า จ่อเปิดบริการเพิ่มเส้นทางอีสาน-ตะวันตก-เหนือ ลั่นไม่หวั่นพิษโควิด มั่นใจบริการที่สะดวก ทันสมัย ปลอดภัย และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
27 ธ.ค. 2564 นายคณิสสร์ ศรีวชิระประภา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เน็กซ์ พอยท์ จำกัด (มหาชน) หรือ NEX เปิดเผยว่า ในปี 2565 บริษัทฯ ได้ใช้งบลงทุนประมาณ 200 ล้านบาท ระบบการจัดเก็บตั๋วโดยสาร และผลิตรถโดยสารให้ได้จำนวน 470 คัน เนื่องจากมีแผนจะเปิดเส้นทางเดินรถรถโดยสารประจำทางให้บริการเพิ่มขึ้น ซึ่งในขณะนี้การขอใบอนุญาตเส้นทางเดินรถเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยเบื้องต้นจะเปิดเพิ่ม 10 เส้นทาง แบ่งเป็น ภาคตะวันออกจำนวน 5 เส้นทาง ได้แก่ กรุงเทพฯ-พัทยา กรุงเทพฯ-สัตหีบ กรุงเทพฯ-ศรีราชา กรุงเทพฯ-ระยอง และกรุงเทพฯ-ฉะเชิงเทรา โดยได้จัดเตรียมรถโดยสารไฟฟ้าขนาดเล็ก (มินิบัส) ขนาด 7.6 เมตร จำนวน 20 ที่นั่ง จำนวน 150 คัน เส้นทางละ 30 คันให้บริการ ค่าโดยสารตามที่กรมการขนส่งทางบก (ขบ.) กำหนด ประมาณ 100-120 บาทต่อคนต่อเที่ยวตามระยะทาง
ทั้งนี้ คาดว่าจะได้รับความสนใจจากผู้โดยสารที่ใช้บริการอย่างต่อเนื่อง หรือประมาณ 80% หรือ 16 คนต่อคันต่อเที่ยว เนื่องจากเส้นทางที่ให้บริการในพื้นที่โครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก(อีอีซี) เป็นพื้นที่ที่มีศักยภาพ เป็นที่ตั้งโรงงานอุตสาหกรรมจำนวนมาก และมีแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียง ทำให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวให้ความสนใจเดินทางไปยังพื้นที่ดังกล่าว เช่นเดียวกับคาดการณ์ว่า จะได้รับความสนใจของผู้ประกอบการที่จะเข้ามาเดินรถในเส้นทางดังกล่าวข้างต้น ซึ่งล่าสุด พบว่า มีผู้สนใจหลายราย โดยหลังจากนี้บริษัทฯ จะพิจารณาคัดเลือกตามหลักเกณฑ์ที่กำหนด เช่น ความมั่นคงทางการเงิน เป็นต้น
นอกจากนี้ ในขณะนี้บริษัทฯ อยู่ระหว่างเตรียมความพร้อมเรื่องสถานที่จอดรถ และ จุดจอดรับส่งผู้โดยสาร คาดว่าจะให้บริการช่วงต้นทางกำหนดไว้ที่ไบเทคบางนา ซึ่งได้มีการหารือเป็นที่เรียบร้อยแล้ว จากเดิมที่รถโดยสารที่ให้บริการเส้นทางไปยังพื้นที่ อีอีซีจะต้องไปขึ้นรถโดยสารที่สถานีขนส่งผู้โดยสารเอกมัย และสถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพ (จตุจักร) หรือหมอชิต 2 เท่านั้น แต่ทั้งนี้เพื่ออำนวยความสะดวก และเป็นทางเลือกหนึ่งให้ผู้โดยสารที่สามารถใช้บริการรถไฟฟ้าบีทีเอสมาลงที่สถานีบางนา แล้วสามารถนั่งรถมินิบัสเดินทางไปยังพื้นที่ อีอีซีได้สะดวกและรวดเร็วมากขึ้น โดยที่ไม่ต้องเสียเวลาเดินทางไปยังสถานีขนส่งเอกมัยและสถานีขนส่งหมอชิต 2
อย่างไรก็ตาม คาดว่าเส้นทางกรุงเทพฯ-พัทยา กรุงเทพฯ-สัตหีบ กรุงเทพฯ-ศรีราชา จะสามารถเปิดให้บริการได้ช่วงเดือน มี.ค. 2565
นายคณิสสร์ กล่าวต่อว่า ขณะเดียวกัน ในปี 2565 บริษัทฯ เตรียมเปิดให้บริการเส้นทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (อีสาน) 3 เส้นทาง ได้แก่ กรุงเทพฯ-อุดรธานี กรุงเทพฯ-อุบลราชธานี และกรุงเทพฯ-บุรีรัมย์ จะใช้รถโดยสารไฟฟ้า ขนาด 12 เมตรชั้นเดียว จำนวน 32 ที่นั่งให้บริการ ขณะนี้ อยู่ระหว่างเตรียมความพร้อมเรื่องอู่จอดรถ จุดขึ้น-ลงผู้โดยสาร และสถานีชาร์จไฟฟ้า เนื่องจากเส้นทางเหล่านี้มีระยะทางไกล อีกทั้ง รถโดยสารไฟฟ้ายังมีข้อจำกัดเรื่องสถานีชาร์จแบตเตอรี่ เพราะในไทยยังมีรถโดยสารไฟฟ้าให้บริการไม่มากนัก
ดังนั้น ควรจะต้องมีสถานีชาร์จในระหว่างทาง ในระหว่างที่รถโดยสารเข้าจุดพักรถตามเงื่อนไขที่ ขบ. กำหนดว่า ถ้าระยะทางเกิน 400 กม. ควรหยุดพัก 30 นาที สอดคล้องกับระยะเวลาการเวลาชาร์จรถไฟฟ้าประมาณ 30 นาที ในระหว่างที่จอดพักรถนี้ให้ผู้โดยสารลงไปทำธุระส่วนตัวได้ ส่วนรถโดยสารจะได้ชาร์จแบตเตอรี่ด้วย รวมทั้งการกำหนดอัตราค่าโดยสารให้เป็นไปตามเงื่อนไขของ ขบ. กำหนด หากมีความพร้อมแล้วจะประชาสัมพันธ์ในการเปิดให้บริการต่อไป นอกจากนี้ บริษัทยังมีแผนจะเปิดเส้นทางภาคตะวันตก 1 เส้นทาง คือ กรุงเทพฯ-หัวหิน และภาคเหนือ 1 เส้นทาง คือ กรุงเทพฯ-นครสวรรค์ ซึ่งอยู่ระหว่างเตรียมความพร้อมในการให้บริการเช่นเดียวกัน
ทั้งนี้ในส่วนเส้นทางกรุงเทพฯ-นครราชสีมา ที่ให้เปิดให้บริการแล้วตั้งแต่เมื่อวันที่ 7 เม.ย. 2564 ที่ผ่านมา นายคณิสสร์ กล่าวอีกว่า ได้รับผลการตอบรับดีจากผู้ใช้บริการเป็นจำนวนมาก เฉลี่ยมีผู้โดยสารประมาณ 15-20 คนต่อคันต่อเที่ยว ส่งผลให้ผลการดำเนินงานของบริษัทฯ ก้าวขึ้นเป็นผู้ให้บริการอันดับ 1 จากผู้ประกอบการทั้งหมด 4 ราย เนื่องจากบริษัทฯ ถือเป็นรายเดียวที่ให้บริการด้วยรถไฟฟ้า ประกอบกับการพัฒนาคุณภาพ และสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ขณะที่ เทศกาลปีใหม่ 2565 ที่จะถึงนี้ พบว่า มีประชาชนจองตั๋วโดยสารเดินทางเต็มทุกที่นั่งแล้วด้วย
สำหรับการเปิดให้บริการเส้นทางรถโดยสารเพิ่มครั้งนี้ ทางบริษัทฯ ไม่ได้มองว่าจะมีความเสี่ยง เนื่องจากตอนนี้ผู้ประกอบการรถโดยสารหลายเส้นทางได้เลิกให้บริการไปหลายรายแล้ว เพราะผลกระทบจากโควิด-19 และยังมีคู่แข่งสายการบินต้นทุนต่ำ (โลว์คอสต์) แต่ที่ผ่านมาสายการบินโลว์คอสต์ได้รับผลกระทบเช่นเดียวกัน รวมถึงโครงการรถไฟความเร็วสูงในอนาคตด้วย อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ เชื่อว่า การให้บริการรถโดยสารนั้น จะเป็นอีกทางเลือกหนึ่งให้ผู้โดยสารที่ใช้บริการ อีกทั้งบริษัทฯ ได้ใช้รถโดยสารไฟฟ้า มีต้นทุนการดำเนินการที่ถูกกว่า รวมถึงเป็นพลังงานสะอาด เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ช่วยลดปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM 2.5) มีสภาพที่ใหม่ ทันสมัย และเข้มงวดตามมาตรการสาธารณสุขในการป้องกันโควิด-19 ทำให้ผู้โดยสารเกิดความมั่นใจในการใช้บริการ ควบคู่กับได้บริการที่สะดวก สบาย และปลอดภัย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
นางงามแฮปปี้ พัทยาต้อนรับยิ่งใหญ่สมฐานะ 'Miss Grand International 2024'
ตั้งแต่เดินทางมาเก็บตัวประเทศไทย ไม่มีวันไหนที่ไม่มีความสุข กินหรู อยู่สบาย สไตล์แกรนด์ ที่ บอสณวัฒน์ อิสรไกรศีล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท มิสแกรนด์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) เน้นย้ำให้นางงามผู้เข้าประกวด Miss Grand International 2024 ต้องสนุกและมีความสุขกับการเก็บตัวครั้งนี้มากที่สุด ทุกอย่างเต็มที่ แม้จะมีเวลาเตรียมงานน้อยแต่บอกเลย ผู้สนับสนุนเสกให้ไม่มีพร่อง
'เทนนิส'สักการะพระพุทธโสธร นำไข่ไก่1แสนฟองแก้บน 'เจ้าอาวาสฯร่วมยินดี
เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 26 กันยายน 2567 พระเทพภาวนาวชิรคุณ วิ. เจ้าอาวาสวัดโสธรวราราม วรวิหาร เจ้าคณะจังหวัดฉะเชิงเทรา และนายชลธี ยังตรง ผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทรา ร่วมด้วยนายเสริมฤทธิ์ หวายฤทธิ์ธนกุล ผอ.สนผ.การศึกษาขั้นพื้นฐาน สพฐ. ปฏิบัติหน้าที่ ผอ.สพป.ฉะเชิงเทรา เขต 1 นายสันติ นุนาบี ผู้อำนวยการสำนักงาน กกท. จังหวัดฉะเชิงเทรา คณะผู้บริหารจังหวัดฉะเชิงเทรา และผู้เกี่ยวข้อง ร่วมแสดงความยินดี และให้การต้อนรับ เรืออากาศโทหญิง พาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ (น้องเทนนิส) นักกีฬาเทควันโดทีมชาติไทย ฮีโร่เหรียญทองกีฬาโอลิมปิกสองสมัยซ้อน (โตเกียว 2020 และปารีส 2024)
GPSC ร่วมกับ กนอ. มาบตาพุด เก็บขยะชายหาดระยอง สร้างจิตสำนึกรักษาความสะอาดในวันอนุรักษ์ชายฝั่งสากล จ.ระยอง ปี 67
นายพีรพล อำไพวิทย์ ผู้จัดการฝ่ายอาวุโสกลยุทธ์องค์กรและความยั่งยืน บริษัท โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) หรือ GPSC แกนนำนวัตกรรมธุรกิจไฟฟ้ากลุ่ม
เตือนควันไฟไหม้ โรงงานพลาสติกและเคมีภัณฑ์ มาบตาพุด อันตรายสารก่อมะเร็ง
เกิด ไฟไหม้ บริเวณ Plant VCM1 ภายในโรงงานบริษัทไทยพลาสติกและเคมีภัณฑ์ จำกัด ในพื้นที่นิคมมาบตาพุด จ.ระยอง ทำให้เกิดกลุ่มควันสีขาวและสีดำปริมาณมาก
เกิดเพลิงไหม้โรงงานในนิคมฯมาบตาพุด จ.ระยอง ประกาศภาวะฉุกเฉินระดับ 2
เมื่อเวลา 12.25 น. บ.ไทยพลาสติกและเคมีภัณฑ์ จำกัด นิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด แจ้งเหตุไฟไหม้ บริเวณ Plant VCM1 ภายในบริษัทฯ