“ภูมิธรรม” โชว์ผลงานดูแลราคาสินค้าเกษตร ตั้งแต่เดือนก.ย.66 ถึงปัจจุบัน ราคาเพิ่มขึ้นทุกรายการ ทั้งข้าว มัน ปาล์ม ข้าวโพด ยางพารา รวมถึงหอมแดง มังคุด ทุเรียน ส้มเขียวหวาน หลังใช้มาตรการเชิงรุก เกาะติดทุกตัว มีแผนรับมือ ยันเดินหน้าผลักดันราคาต่อ ทั้งทำแผนระดับนโยบายเพื่อบริหารสมดุลทุกฝ่าย ทำคู่มือผลผลิต ระบบเตือนภัย หาตลาดล่วงหน้า พร้อมผนึกเอกชน หน่วยงานรัฐ แก้ปัญหาใบด่าง พัฒนาพันธุ์ข้าว เพิ่มเปอร์เซ็นต์ปาล์ม
9 ก.พ. 2567 – นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า นับตั้งแต่เดือนก.ย.2566 ที่รัฐบาลเศรษฐา ได้เข้ามาบริหารประเทศ และตนได้เข้ามากำกับดูแลกระทรวงพาณิชย์ ได้มีการกำหนดมาตรการในการดูแลราคาสินค้าเกษตรสำคัญทันที ซึ่งหลายมาตรการต่อเนื่องมาจากรัฐบาลที่แล้ว ก็ไม่ได้ทิ้ง แต่ได้ปรับปรุงให้เหมาะสมกับสถานการณ์ จนสามารถผลักดันให้ราคาสินค้าเกษตรปรับตัวสูงขึ้นได้อย่างต่อเนื่อง เช่น ข้าวหอมมะลิและข้าวเหนียว เพิ่ม 12% มันสำปะหลัง เพิ่ม 49% ปาล์มน้ำมัน เพิ่ม 9% ยางพารา ยางแผ่นดิบ เพิ่ม 22% ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ เพิ่ม 6% พืชหัว เช่น หอมแดง เพิ่ม 27% ผลไม้ เช่น มังคุด เกรดมันรวม ราคาสูงสุด 100 บาท/กิโลกรัม (กก.) ทุเรียน เกรด AB ราคาสูงสุด 205 บาท/กก. ส้มเขียวหวาน 22 บาท/กก เพิ่มขึ้น 57% เป็นต้น
“ราคาที่ปรับเพิ่มขึ้น เป็นผลมาจากการทำงานเชิงรุกด้วยความใส่ใจ และใช้ความสามารถในการบริหารจัดการ โดยมีการวางแผนล่วงหน้า จัดการผลผลิตในแต่ละช่วงเวลา ทำให้รู้ล่วงหน้า พยากรณ์ล่วงหน้าได้ แม้ว่าสินค้าเกษตรจะออกเป็นช่วงฤดูกาล แต่เมื่อมีแผนรับมือ และปรับเปลี่ยนได้ตามสถานการณ์ ทำให้เราดูแลราคาสินค้าเกษตรกรให้มีเสถียรภาพได้ และจากนี้ จะยังคงเดินหน้าดูแลราคาสินค้า เพื่อดูแลพี่น้องเกษตรต่อไป”
นายภูมิธรรมกล่าวว่า สำหรับแผนดูแลราคาสินค้าเกษตรจากนี้ไป จะมีการวางระบบติดตามสถานการณ์สินค้าเกษตรที่จะออกสู่ตลาดตามฤดูกาล เพื่อเตรียมการตอบสนองข้อเรียกร้อง และรับมือกับปัญหาล่วงหน้า โดยจะสื่อสารใกล้ชิดกับเกษตรกรและผู้ประกอบการสินค้าเกษตร บริหารจัดการสมดุลในห่วงโซ่สินค้าเกษตร ทั้งระหว่างเกษตรกร ผู้ประกอบ ผู้บริโภค และได้มอบหมายให้คณะกรรมการสินค้าเกษตรต่าง ๆ ที่ตนกำกับดูแล พิจารณามาตรการรับมือล่วงหน้า รวมไปถึงศึกษาโครงสร้างต้นทุน และราคาสินค้าเกษตร ให้ทุกฝ่ายได้ประโยชน์สมดุล เพื่อแก้ปัญหาทั้งระบบ ซึ่งต้องรับฟังทุกภาคส่วนให้มีความเข้าใจร่วมกัน
นอกจากนี้ ได้มอบหมายให้พาณิชย์จังหวัดในแต่ละจังหวัด ทำการสำรวจสถานการณ์ผลผลิต ปริมาณผลผลิต และแนวโน้มราคาเป็นการล่วงหน้า จัดทำระบบแจ้งเตือนกรณีมีสิ่งบ่งชี้ที่จะส่งผลให้มีปัญหาด้านราคา เพื่อให้ส่วนกลางทราบ จะได้เตรียมแก้ไขปัญหาได้ทัน ส่วนทูตพาณิชย์ ให้จัดทำคู่มือตลาดว่าตลาดที่ดูแลอยู่ มีความต้องการสินค้าเกษตรอะไรบ้าง ต้องการแบบไหน อย่างไร เพื่อให้เกษตรกรได้เรียนรู้ ให้ผู้ประกอบการได้รับทราบ จะได้เตรียมเพาะปลูก เตรียมผลิตเพื่อขายตามความต้องการของตลาด ซึ่งได้กำหนดเป็น KPI ในการวัดผลงานด้วย
ขณะเดียวกัน จะทำงานร่วมกับภาคเอกชน กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และหน่วยงานต่าง ๆ อย่างใกล้ชิด เช่น การแก้ไขปัญหาโรคใบด่าง ที่เกิดขึ้นในมันสำปะหลัง ได้หารือกับภาคเอกชน เพื่อพัฒนาพันธุ์ที่แข็งแรง ทนโรค และจะร่วมมือกับหน่วยงานอาสา ช่วยแจกจ่ายพันธุ์ หากหน่วยงานรัฐมีปัญหาเรื่องงบประมาณ การพัฒนาพันธุ์ข้าว ให้ตอบโจทย์ตลาดโลก ให้แข่งขันได้ในตลาดโลก เพราะทุกวันนี้ ผลผลิตต่อไร่ไทยยังแพ้เวียดนามอยู่มาก ส่งเสริมให้เกษตรกรทำการเกษตรที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ไม่ทำลายป่า ไม่สร้างมลภาวะ เพิ่มระดับราคาผลปาล์ม ด้วยการเพิ่มเปอร์เซ็นต์น้ำมันการสกัดโดยห้ามลานรับซื้อทำปาล์มร่วง และผลักดันให้เกษตรกรรวมกลุ่มใช้เทคโนโลยีเพื่อพัฒนาการผลิต เช่น การใช้โดรน ซึ่งรัฐพร้อมจะสนับสนุนทั้งทางด้านเทคนิคและเงินทุน ให้กับเกษตรกรที่พร้อมปรับเปลี่ยน
สำหรับการพัฒนาเกษตรกรและผลผลิต จะผลักดันเกษตรกรให้เป็นสมาร์ท ฟาร์มเมอร์ ปรับแนวคิดในการทำการเกษตร เป็นเกษตรสมัยใหม่ และให้ความสำคัญในด้านคุณภาพ มาตรฐาน ผลักดันให้สร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้าเกษตร ทั้งเกษตรเชิงอนุรักษ์ และส่งเสริมการสร้างอัตลักษณ์ด้วยสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (GI)
ส่วนด้านการตลาด ส่งเสริมการทำเกษตรพันธสัญญา เพื่อให้เกษตรกรมีตลาดรองรับผลผลิตที่แน่นอน ส่งเสริมตลาดสัญญาซื้อขายล่วงหน้า การเพิ่มช่องทางการจำหน่ายสินค้าเกษตรผ่านตลาดชุมชน การร่วมมือกับไปรษณีย์ไทย ในการระบายสินค้าเกษตร และผลักดันขายออนไลน์ ซึ่งเป็นตลาดแนวใหม่ มีการเติบโตสูง ไม่ใช่แค่การนำสินค้าไปขายในตลาด แต่ขายอยู่ในอากาศ ขายได้ทุกที่ทุกเวลา รวมทั้งจะผลักดันให้ใช้อินฟลูเอนเซอร์สินค้าเกษตร ที่จะเข้ามาช่วยขายสินค้าเกษตร เพราะทุกวันนี้ คนชอบแบบนี้ รวมไปถึงการใช้กลไกภาครัฐ ในการขายสินค้าเกษตร เช่น การทำจีทูจี เพื่อขายข้าว ซึ่งขณะนี้ กำลังอยู่ระหว่างการเจรจากับอินโดนีเซีย โดยมั่นใจว่าจะเจรจาได้จบ อย่างน้อยต้องก่อนที่ผลผลิตข้าวฤดูกาลใหม่จะออกมาในช่วงเดือน มี.ค.นี้
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
บิ๊กอ้วนตอกยํ้า แจก‘เงินดิจิทัล’ ‘อนุสรณ์’เตือน
“ภูมิธรรม” ยันรัฐบาลเร่งแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต หวังกระตุ้นเศรษฐกิจ
‘อ้วน’สั่งทบทวน หนทางดับไฟใต้ พูดคุยให้ถูกคน
ยังไร้แววเมียนมาปล่อย 4 คนไทย "ภูมิธรรม" ย้ำต้องรอจบกระบวนการ
ดักคอล้วงภาษีอุ้มค่าไฟ ‘ดีอี’เร่งกาสิโนขึ้นบนดิน
"ภูมิธรรม" ขำข่าวปรับ ครม.เขี่ย รทสช. บอกอย่าฟังคนปล่อยข่าว
‘อ้วน’ ยันปล่อย 4 คนไทยเร็วๆนี้
ครบรอบวันชาติเมียนมา 4 ลูกเรือประมงไทยรอเก้อ ยังไม่ได้รับการปล่อยตัว แต่อภัยโทษ 151 คนไทยถูกหลอกทำงานคอลเซ็นเตอร์
'ภูมิธรรม' อ้างเมียนมายังไม่ปล่อยตัว 4 ลูกเรือไทย อยู่ในกระบวนการ เชื่อได้กลับเร็วๆนี้
นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม เปิดเผยถึงความคืบหน้าการปล่อยตัว 4 ลูกเรือประมงไทย จากเดิมที่มีกำหนดจะปล่อยตัววันนี้ ว่า
'ภูมิธรรม' สั่ง ศปช. ถอดบทเรียนน้ำท่วมดินถล่มเชียงราย ทำแผนแม่บทเสนอนายกฯ
นางสาวศศิกานต์ วัฒนะจันทร์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมในฐานะ ผอ.ศปช. ได้ติดตามสถานการณ์น้ำ