ดีอี จับมือ สมาคมทองคำ เตือนนักลงทุนอย่าหลงเชื่อ!หลอกลงทุนทองออนไลน์ เงินหายหมดตัว

6 ก.พ. 2567 – นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม พร้อมด้วย นายเอกพงษ์ หริ่มเจริญ ผู้ตรวจราชการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม นายสุทธิเกียรติ วีระกิจพานิช ที่ปรึกษารัฐมนตรีฯ และนายวัลลภ รุจิรากร เลขานุการรัฐมนตรีฯ ร่วมหารือแนวทางการแก้ไขปัญหามิจฉาชีพปลอมแปลงเฟซบุ๊กของเพจผู้ประกอบการร้านทองหลอกหลวงผู้บริโภค ร่วมกับนาย จิตติ ตั้งสิทธิ์ภักดี นายกสมาคมค้าทองคำ และคณะผู้แทนจากสมาคมค้าทองคำ มูลค่าความเสียหายจำนวนมาก

นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เปิดเผยว่า ทางสมาคมค้าทองคำได้รับการร้องเรียนจากผู้ประกอบการและผู้บริโภคเป็นจำนวนมาก ว่าขณะนี้มีมิจฉาชีพปลอมแปลงเฟซบุ๊กเพจร้านค้าทองคำที่มีชื่อเสียงและเป็นสมาชิก สมาคมค้าทองคำทำการเผยแพร่โฆษณาชักชวนหลอกให้มีการลงทุน และอ้างว่ามีการ จ่ายเงินปันผลทุกวัน หรือให้ผลประโยชน์เกินจริงเพื่อจูงใจให้หลงเชื่อ ส่งผลให้เกิดความเสียหายกับประชาชนผู้บริโภคจำนวนมาก อีกทั้งยังกระทบต่อความเชื่อมั่นของผู้บริโภคที่มีต่อผู้ประกอบธุรกิจค้าทองคำ ซึ่งถือเป็นอาชญากรรมทางเศรษฐกิจของประเทศมิจฉาชีพใช้ช่องโหว่ ในการใช้ช่องทางโซเชียลมีเดียในการหลอกลวงให้นักลงทุน ลงทุนซื้อทองคำออนไลน์ผ่านแพลตฟอร์มปลอม ทำให้นักลงทุนได้รับความเสียหายเป็นจำนวนมาก

ด้าน นายจิตติ ตั้งสิทธิ์ภักดี นายกสมาคมค้าทองคำ กล่าวว่าปัจจุบันประชาชนเปลี่ยนจากการเก็บออม เป็นการลงทุนเพื่อการเก็งกำไรในทองคำเพิ่มสูงขึ้น ซึ่งมีวิธีการลงทุนที่หลากหลาย ทั้งการซื้อขายทองผ่านหน้าร้านทอง การลงทุนทองออนไลน์ รวมถึงการลงทุนทองคำในตลาดซื้อขายล่วงหน้า (TFEX) อาจเป็นช่องทางหนึ่งที่มิจฉาชีพ ต่างอาศัยชื่อเสียงและความเชื่อมั่น ของผู้บริโภคที่มีต่อร้านค้าทองคำ นำมาหลอกลวงประชาชนให้หลงเชื่อ และเกิดความเสียหาย โดยตัวอย่างของสมาชิกสมาคมที่ได้รับผลกระทบ อาทิ จินฮั้วเฮง , YLG , ออโรร่า ซึ่งได้สร้างความเสียหาย ต่อภาพลักษณ์และชื่อเสียงต่อองค์กรโดยรวม ส่งผลลทำให้ลูกค้าเกิดความสับสน ไม่แน่ใจ ขาดความน่าเชื่อถือและความเชื่อมั่นของบริษัทฯ ทางสมาคมฯ ขอเสนอแนะให้มีขั้นตอนการปิดเพจปลอม โดยส่งข้อมูลยืนยันว่าเป็น เพจปลอมจริง และแจ้งไปยังสมาคมค้าทองคำ เพื่อประสานงานในหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทำการปิดเพจปลอมนั้นต่อไป

โดยที่ผ่านมา ในปี 2566-2567 มิจฉาชีพมีการปรับเปลี่ยนรูปแบบเป็นการสร้าง Facebook และ TikTok ปลอมแทน โดยยกตัวอย่าง บจ.ฮั่วเซ่งเฮง มีการตรวจพบครั้งแรกในช่วง เดือนกันยายน 2566 ซึ่งจนถึงปัจจุบัน บริษัทฯ มีการเก็บข้อมูลการปลอมทั้ง 2 ช่องทางรวมกันทั้งสิ้น 40 บัญชี ดังนี้

1.Facebook : จำนวน 14 บัญชี

2.TikTok : จำนวน 26 บัญชี

โดยบริษัทฯ ได้รับการร้องเรียนจากผู้เสียหายผ่านช่องทางต่างๆ จำนวน 44 เคส ความเสียหายโดยรวมประมาณ 20.8 ล้านบาท และความเสียหายของ บจ.ออโรร่า มีผู้เสียหายรวมถึง ลูกค้าของบริษัทฯ เป็นจำนวนมาก โดยมีจำนวนผู้เสียหาย ที่ติดต่อเข้ามากับฝ่ายกฎหมายประมาณ 150 คน ค่าเสียหายโดยรวมประมาณ 60 ล้าน

“มิจฉาชีพจะใช้วิธีหลอกลวงผ่านรูปแบบตามกระแสนิยมในแต่ละช่วง เช่นในปี 2565 จะเป็นเรื่องของการลงทุนใน Forex และ Crypto currency ส่วนในปี 2566 จะเป็นเรื่องของการลงทุนหรือการออมแบบ Passive Income เป็นต้น ซึ่งเราสามารถสังเกตสัญญาณเพื่อเตรียมป้องกันได้จากกระแสความสนใจในเรื่องการลงทุนที่มี การเปลี่ยนไปของประชาชน ทางสมาคมขอความร่วมมือกับกระทรวงดีอี ในการป้องกันและปราบปรามปัญหาที่เกิดขึ้นเพื่อให้สามารถแก้ไขปัญหาได้อย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด”นายจิตติฯ กล่าว

นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (รมว.ดีอี) กล่าวเพิ่มเติมว่า กระทรวงดีอี โดย สำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (สพธอ.) หรือ ETDA และศูนย์แก้ปัญหาหลอกลวงทางออนไลน์ หรือ AOC1441 จะดำเนินการประสานเพื่อการปิดกั้นแพลตฟอร์มปลอม และรับการร้องเรียนผู้เสียหายที่ได้รับผลกระทบจากมิจฉาชีพนอกจากนี้ยังมีความร่วมมือกับสมาคมค้าทองคำในการแก้ไขปัญหาระยะยาวรวมถึงมีการเตรียมการพูดคุยถึงความรับผิดชอบในการแก้ไขปัญหาร่วมกันกับแฟลตฟอร์มออนไลน์ เพื่อการแก้ไขปัญหาอย่างเด็ดขาดด้วย
“ผมหวังว่าการหารือในวันนี้จะเป็นโอกาสสำหรับกระทรวงดีอี และ สมาคมค้าทองคำ ในการหารือแนวทางการแก้ไขปัญหามิจฉาชีพปลอมแปลงเฟซบุ๊กของเพจผู้ประกอบการร้านทอง” นายประเสริฐฯ กล่าวทั้งนี้นับตั้งแต่เดือนมกราคม 2566 ถึงเดือน 2567 กระทรวงดีอี ได้ดำเนินการปิดโฆษณาที่เกี่ยวข้องกับ Online Scams บนแพลตฟอร์มสังคมออนไลน์ไปแล้วกว่า 30,000 URLs และปิดกั้นเว็บไซต์โดยมีคำสั่งศาล กว่า 1,400 URLs” นายประเสริฐฯ กล่าว

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

จริงดิ! 'รมว.ดีอี' ยัน ระบบแจ้งเตือนภัยพิบัติผ่าน SMS เริ่มทำงานแล้ว

นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กล่าวถึงการพัฒนาระบบเตือน

'รมว.ดีอี' เผย สัญญาณเน็ต-โทรศัพท์ ในพื้นที่น้ำท่วมพร้อมใช้งานเกือบ 100%

ที่ทำเนียบรัฐบาล นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรีและรมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กล่าวถึงกรณีในพื้นที่น้ำท่

'ประเสริฐ' ยัน ดิจิทัลวอลเล็ตเฟส 2 ไม่ล้ม ขอรอความชัดเจนจากคณะทำงาน

ที่ทำเนียบรัฐบาล นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรีและรมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กล่าวถึงความคืบหน้า