“คลัง” โอดเศรษฐกิจไทยเดือน ธ.ค. 2566 ชะลอตัว หลังดัชนีอุตสาหกรรมดิ่ง จากกำลังซื้อประชาชนยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่ การบริโภค-ลงทุนเอกชนชะลอ ปลื้มส่งออกโต 4.7% ขยายตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 5
30 ม.ค. 2567 – นายพรชัย ฐีระเวช ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เปิดเผยภาวะเศรษฐกิจการคลังประจำเดือน ธ.ค. 2566 ว่า สถานการณ์เศรษฐกิจไทยมีสัญญาณชะลอตัวจากดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมลดลงมาอยู่ที่ระดับ 88.8 จากระดับ 90.9 ในเดือนก่อนหน้า เนื่องจากได้รับปัจจัยเสี่ยงจากภาคการผลิตที่ชะลอลงตามกำลังซื้อของประชาชนที่ยังฟื้นตัวไม่เต็มที และการบริโภคและการลงทุนภาคเอกชน สะท้อนจากปริมาณรถจักรยานยนต์จดทะเบียนใหม่ ลดลงจากช่วงเดียวกันปีก่อน ที่ -7% รายได้เกษตรกรที่แท้จริง ลดลงจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่ -1.2%
ขณะที่ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคปรับตัวเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 62.0 จากระดับ 60.9 ในเดือนก่อน ซึ่งเป็นการปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 5 และสูงสุดในรอบ 46 เดือน สะท้อนความเชื่อมั่นของผู้บริโภคต่อภาวะเศรษฐกิจที่ปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่อง รวมถึงเครื่องชี้เศรษฐกิจด้านการลงทุนภาคเอกชน มีสัญญาณปรับตัวชะลอลงจากเดือนก่อนหน้า
นอกจากนี้ มูลค่าการส่งออกสินค้าขยายตัวต่อเนื่องจากช่วงเดียวกันปีก่อน โดยมูลค่าการส่งออกสินค้ารวมในรูปเงินสกุลดอลลาร์สหรัฐ อยู่ที่ 22,791.6 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่ 4.7% ซึ่งเป็นการขยายตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 5 ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการขยายตัวของสินค้าในหมวดเหล็ก เหล็กกล้าและผลิตภัณฑ์ อัญมณีและเครื่องประดับ (ไม่รวมทองคำ) และรถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ สินค้าน้ำตาลทราย ข้าว ผักสด แช่เย็น แช่แข็งและแห้ง และสิ่งปรุงรสอาหาร
ส่วนการส่งออกผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง เครื่องปรับอากาศและส่วนประกอบ และเคมีภัณฑ์ ชะลอตัว และเมื่อพิจารณามูลค่าการส่งออกสินค้า โดยจำแนกเป็นรายตลาดคู่ค้าหลักของไทย พบว่า ปรับตัวดีขึ้นในตลาดอาเซียน-5 ทวีปออสเตรเลีย และจีน รวมทั้งกลุ่มตลาดอื่น ๆ ที่ขยายตัวได้ดี อาทิ กลุ่มประเทศเครือรัฐเอกราช(Commonwealth of Independent States: CIS) ที่ขยายตัว 50.4% และลาตินอเมริกา ที่ขยายตัว14.4% ส่วนตลาดยูโรโซน และญี่ปุ่น ลดลง
ทั้งนี้ ภาคบริการมีสัญญาณปรับตัวดีขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อน โดยในเดือน ธ.ค. 2566 มีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่เดินทางเข้าประเทศไทยรวม 3.26 ล้านคน คิดเป็นอัตราการขยายตัวต่อเนื่องจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่ 45.5% โดยส่วนใหญ่เป็นนักท่องเที่ยวจากมาเลเซีย จีน รัสเซีย เกาหลีใต้ และอินเดีย ขณะที่ภาคการเกษตร สะท้อนจากดัชนีผลผลิตสินค้าเกษตรกรรม ลดลงจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่ -2.4% จากการลดลงของผลผลิตในหมวดพืชผลสำคัญ อาทิ ข้าว มันสำปะหลัง และหมวดไม้ผล
อย่างไรก็ดีผลผลิตในหมวดปศุสัตว์ อาทิ สุกรและไก่ขยายตัว ส่วนเสถียรภาพเศรษฐกิจยังอยู่ในเกณฑ์ดี สะท้อนจากอัตราเงินเฟ้อทั่วไปในเดือน ธ.ค. 2566 อยู่ที่ -0.83% ขณะที่อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานอยู่ที่ 0.58% ส่วนสัดส่วนหนี้สาธารณะ ณ สิ้นเดือน พ.ย. 2566 อยู่ที่ 61.9% ต่อจีดีพี
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
‘อนุสรณ์’ วิเคราะห์ ‘ทรัมป์2.0’ ไทยต้องปรับยุทธศาสตร์ ศก. พึ่งพาตัวเองมากขึ้น
ทรัมป์ 2.0 ไทยต้องปรับยุทธศาสตร์เศรษฐกิจหันพึ่งพาตัวเองมากขึ้น สินค้านอกข้อตกลงเอฟทีเอกระทบรุนแรง สงครามการค้าระหว่างจีนกับสหรัฐฯรอบใหม่อาจนำไปสู่สงครามเย็นรอบใหม่ในไม่ช้า
เศรษฐกิจไทย ทำไมยังไม่ไปไหนเสียที
ก่อนหน้าที่ดิฉันจะเข้าทำงานที่องค์การสหประชาชาติเมื่อเกือบ 8 ปีก่อน ดิฉันเป็นคนหนึ่งที่ไม่ค่อยได้ชื่นชมประเทศไทยมากนัก เพราะรถติดมากแทบทุกวัน
ไทยพาณิชย์ปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้สูงสุด 0.25% เริ่ม 1 พ.ย.
ธนาคารไทยพาณิชย์ ประกาศปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้สูงสุด 0.25% ต่อปี เพื่อให้สอดคล้องกับทิศทางการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายของคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.)
เวิลด์แบงก์คาดจีดีพีไทยปี 67 โต 2.4%
ธนาคารโลก (World Bank) คงคาดการณ์อัตราการเติบโตของเศรษฐกิจ (GDP) ไทยในปี 2567 จะอยู่ที่ 2.4% เร่งตัวขึ้นจาก 1.9% ในปี 66