นายกฯ หนุน SMEs ไทย ขายสินค้าผ่านระบบ E-commerce

นายกฯ ส่งเสริมการยกระดับ SMEs ไทย และสินค้า OTOP ในรูปแบบ E-commerce เชื่อมั่นช่วยเพิ่มช่องทางการขาย ประชาสัมพันธ์สินค้าให้ไทยเป็นที่รู้จักมากขึ้น

28 ม.ค. 2567 – นายชัย วัชรงค์  โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า กระทรวงพาณิชย์ รับลูกตามนโยบายของ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ขับเคลื่อน Soft Power ด้วยสินค้าผลิตภัณฑ์ชุมชน (OTOP) เร่งขับเคลื่อนยุทธศาสตร์พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (E-commerce) ตั้งเป้าพัฒนาการดำเนินธุรกิจ SMEs และสินค้า OTOP ยกระดับการค้าบนแพลตฟอร์มออนไลน์ ใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีดิจิทัล และปัญญาประดิษฐ์ (AI) ช่วยเพิ่มช่องทางค้าขายและประชาสัมพันธ์บนแพลตฟอร์มออนไลน์ โปรโมตสินค้าให้เป็นที่รู้จักมากขึ้น ยกระดับธุรกิจรายย่อย และส่งเสริมศักยภาพผู้ประกอบการและสินค้าไทยสู่เวทีสากล

โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า กระทรวงพาณิชย์ได้นำเสนอ 4 แผนงาน เพื่อเป็นแนวทางในการพัฒนาธุรกิจ SMEs และสินค้า OTOP ได้แก่ 1.การพัฒนาผู้ประกอบการและช่องทางการค้าออนไลน์ในประเทศและข้ามพรมแดน อาทิ การฝึกอบรมการทำตลาดออนไลน์ การทำคลิปสั้น การไลฟ์สด และการเจรจาจับคู่ธุรกิจ ทั้งในและต่างประเทศ เป็นต้น ตั้งเป้าผู้ประกอบการสามารถขายสินค้าและบริการออนไลน์ได้มากกว่า 5,000 รายต่อปี รวมถึงมีการส่งเสริมด้านการค้าออนไลน์ระหว่างประเทศมากกว่า 25,000 รายต่อปี   

2.การสร้างและส่งเสริมผู้นำทางความคิด (influencer) เพื่อการค้าเชิงสร้างสรรค์ในตลาดต่างประเทศ เชื่อมโยงฐานข้อมูลพาณิชย์จังหวัดกับทูตพาณิชย์ กำหนดเป้าหมายต้องมีการรับรู้สินค้าและบริการไทยผ่านผู้นำทางความคิดเพื่อการค้าอย่างชัดเจน 3. การยกระดับความเชื่อมั่นต่อการทำธุรกรรมในอุตสาหกรรมพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ โดยการออกเครื่องหมายรับรองผู้ประกอบการพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (DBD Registered) ไม่ต่ำกว่าปีละ 13,000 ราย โดยผู้ประกอบการต้องจดทะเบียนกับกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เพื่อเก็บข้อมูล สร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้ประกอบการ 4. การเชื่อมโยงฐานข้อมูลพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์และพัฒนาจัดทำฐานข้อมูลขนาดใหญ่ของกระทรวงพาณิชย์เป็นแพลตฟอร์ม One Single Platform เพื่อให้เกิดความสะดวกมากขึ้น รวมทั้งพัฒนา Dashboard ด้าน E-Commerce โดยใช้เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ เพื่อนำเสนอข้อมูลสำคัญ

“นายกรัฐมนตรีมุ่งมั่นพัฒนาศักยภาพของการดำเนินธุรกิจในรูปแบบ E-commerce ในประเทศไทย ส่งเสริมการค้าบนแพลตฟอร์มออนไลน์ โดยนำเครื่องมือที่มีอยู่มาใช้ให้เกิดประโยชน์ เช่น การใช้ผู้นำทางความคิด การเชื่อมโยงฐานข้อมูลที่เป็นประโยชน์ และปัญญาประดิษฐ์ เพื่อนำมาช่วยประชาสัมพันธ์ เพิ่มช่องทางการค้า ธุรกิจ SMEs ซึ่งนายกรัฐมนตรีใช้ทุกช่องทางเพื่อส่งเสริมศักยภาพ รวมทั้ง จับคู่ธุรกิจสนับสนุนสินค้า OTOP ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ด้วยคุณภาพ ศักยภาพ และมนต์เสน่ห์ของสินค้าไทย รัฐบาลเชื่อมั่นว่า นโยบายการส่งเสริมการค้าด้าน E-commerce นี้ จะเป็นการประชาสัมพันธ์ สินค้า และธุรกิจจากประเทศไทย ให้เป็นที่รู้จัก มีชื่อเสียงในระดับนานาชาติมากยิ่งขึ้น” นายชัย กล่าว

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ครม. เตรียมตั้ง 'ชัย วัชรงค์' อดีตโฆษกรัฐบาล นั่งผู้แทนการค้าไทย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับการประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.)นัดแรก วันที่ 17 ก.ย. นอกเหนือจากวาระการแบ่งงานรองนายกรัฐมนตรีแล้ว

'เศรษฐา' เตรียมต้อนรับ 'นายกฯลาว' เยือนไทยเป็นทางการ 15 ส.ค.นี้

นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ในวันพฤหัสบดีที่ 15 สิงหาคม 2567 นายสอนไซ สีพันดอน นายกรัฐมนตรีสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป. ลาว) มีกำหนดเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการ ตามคำเชิญของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี

โฆษกรัฐบาล เผยครึ่งปีแรก 67 จำนวนโรงงานเปิดใหม่ มีมากกว่าปิดกิจการ

นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวยืนยันตัวเลขจากกรมโรงงานอุตสาหกรรม ปี 2567 รวมทั้งสิ้น 7 เดือน ตั้งแต่ 1 มกราคมถึง 31 กรกฎาคม 2567 ทั้งจำนวนโรงงาน ตัวเลขเงินลงทุน และ ตัวเลขการจ้างงาน มีตัวเลขเป็นบวกทั้งสิ้น

นายกฯ ห่วงคนไทยในญี่ปุ่น ขอให้ติดตามประกาศแจ้งเตือนแผ่นดินไหวอย่างต่อเนื่อง

นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เตือนชาวไทยที่อยู่ในพื้นที่ประเทศญี่ปุ่นให้ติดตามสถานการณ์ต่อกรณีที่เกิดแผ่นดินไหวขนาด 5.3 ริกเตอร์ ที่กรุงโตเกียวและพื้นที่โดยรอบ