การรถไฟฯ เพิ่มจุดให้บริการรับ-ส่ง พัสดุขนาดเล็ก น้ำหนักไม่เกิน 2 กิโลกรัม ที่สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ คิดอัตราค่าบริการแบบเหมาจ่ายชิ้นละ 30 บาท เริ่มตั้งแต่บัดนี้ถึง 31 มี.ค.67เล็งผุดบริการส่งสินค้าถึงหน้าบ้าน
24 ม.ค. 2567 – นายเอกรัช ศรีอาระยันพงษ์ หัวหน้าสำนักงานผู้ว่าการ การรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) เปิดเผยว่า ตามที่การรถไฟฯ ได้สนับสนุนนโยบายรัฐบาล และกระทรวงคมนาคมในการช่วยลดค่าครองชีพของประชาชนและภาคธุรกิจ โดยการปรับลดค่าบริการขนส่งพิเศษสำหรับพัสดุประเภทหีบห่อวัตถุที่มีน้ำหนักไม่เกิน 2 กิโลกรัมเหลือเพียงชิ้นละ 30 บาททุกเส้นทาง เพื่อช่วยลดต้นทุนและรายจ่ายแก่ประชาชน ผู้ประกอบการ ร้านค้าขนาดเล็ก ร้านค้าออนไลน์ รวมถึงเอสเอ็มอี ให้มีต้นทุนการขนส่งที่ถูกลงกว่าปกตินั้น
อย่างไรก็ตาม จากการเปิดให้บริการที่ผ่านมา พบว่าผลตอบรับจากผู้ประกอบการและประชาชนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพื่อความสะดวก รวดเร็วในการให้บริการ การรถไฟฯ จึงมีการเพิ่มจุดให้บริการรับ-ส่ง พัสดุขนาดเล็กหนักไม่เกิน 2 กิโลกรัมบริเวณประตู 13 สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ อีกหนึ่งจุด ซึ่งอยู่ใกล้กับห้องจำหน่ายตั๋วโดยสารรถไฟทางไกล (ฝั่งทางลงสถานีรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน) เพิ่มเติมจากจุดให้บริการที่สถานีกรุงเทพ (หัวลำโพง) ย่านรับ-ส่งสินค้าบางซื่อ และสถานีชุมทางบางซื่อ
ทั้งนี้ระยะเวลาในการจัดส่งผู้ใช้บริการจะได้รับสินค้าภายใน 24 ชั่วโมง ส่วนการรับพัสดุเมื่อพัสดุมาถึงกรุงเทพฯ ผู้ใช้บริการสามารถมารับได้ที่สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ โดยไม่ต้องเดินทางไปที่จุดอื่น หลังจากขบวนรถไฟเข้าเทียบชานชาลาภายใน 1 ชั่วโมง เปิดให้บริการตั้งแต่เวลา 06.00 – 20.00 น. ไม่เว้นวันหยุดราชการ เริ่มให้บริการตั้งแต่บัดนี้ถึง 31 มีนาคม 2567 สนใจสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สถานีรถไฟทุกแห่ง หรือศูนย์บริการลูกค้าสัมพันธ์ หมายเลขโทรศัพท์ 1690 ตลอด 24 ชั่วโมง
สำหรับสินค้าใช้บริการขนส่งดังกล่าว จะต้องบรรจุในกล่องหรือซองที่ปิดมิดชิด แข็งแรง เป็นสินค้าที่ไม่เน่าเสียง่าย และมีน้ำหนักต่อชิ้นไม่เกิน 2 กิโลกรัม เช่น อะไหล่ เสื้อผ้า อาหารแห้ง โดยคิดอัตราค่าบริการแบบเหมาจ่ายชิ้นละ 30 บาท ตลอดระยะทางที่มีการขนส่งสินค้าของขบวนรถสินค้าและขบวนรถโดยสาร นอกจากนี้ ผู้ใช้บริการสามารถรวมส่งสินค้าในครั้งเดียวกันได้ถึง 10 ชิ้น ซึ่งจะคิดค่าบริการเป็นรายชิ้นโดยไม่คิดค่าบริการยกขึ้นลง ตลอดจนมีการรับประกันความเสียหายของสินค้า
นอกจากจะเป็นการช่วยลดค่าครองชีพในการขนส่งสินค้าให้แก่ประชาชน และผู้ประกอบการแล้ว ยังจะเป็นการช่วยเพิ่มรายได้ให้กับการรถไฟฯ อีกทางหนึ่งด้วย และในอนาคตเตรียมแผนการบริการขนส่งสินค้าในรูบแบบใหม่เพิ่มเติม จากการบริการขนส่งสถานีถึงสถานี เป็นการให้บริการขนส่งสถานีถึงหน้าบ้านผู้รับพัสดุได้ในคราเดียวกันเลย เพื่อให้ผู้ใช้บริการได้รับความสะดวก รวดเร็ว ประหยัดค่าใช้จ่ายเพิ่มมากขึ้น
ทั้งนี้จะสอดคล้องกับยุทธศาสตร์ของการรถไฟฯ ที่มุ่งส่งเสริมการปรับโหมดการขนส่งจากถนนสู่ระบบราง และเชื่อมโยงการขนส่งทางรางเข้ากับฐานการผลิตอุตสาหกรรมและเกษตรกรรม เพราะการขนส่งทางราง ถือเป็นระบบโลจิสติกส์ที่มีประสิทธิภาพ ต้นทุนต่ำ ประหยัดพลังงาน และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมจากการขนส่งตามระเบียบ ของการรถไฟฯ ถือเป็นการส่งสินค้าที่มีประหยัด และปลอดภัยอีกด้วย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
รฟท. เล็งชงครม.เคาะกู้เงิน 1.8 หมื่นล้านบาทเสริมสภาพคล่อง
การรถไฟฯ เตรียมชง ครม.อนุมัติกู้เงินเสริมสภาพคล่อง 1.8 หมื่นล้านบาท หนุนดำเนินกิจการปีงบประมาณ 2567 หลังประมาณการณ์รายรับรายจ่ายจ่อติดลบ เหตุยังมีภาระชำระดอกเบี้ยและค่าใช้จ่ายเงินกู้ครบกำหนด
เลขาฯป.ป.ช. แจง ปม 'เขากระโดง' กรมที่ดิน-รฟท.ไม่คุยกัน แต่กลับเลือกฟ้องศาลปกครองแทน
เลขาฯป.ป.ช. แจง ปม 'เขากระโดง' กรมที่ดิน-รฟท.ไม่คุยกัน แต่กลับเลือกฟ้องศาลปกครองแทน - ตั้งงบจัดซื้อเครื่องวิเคราะห์ภาพถ่ายทางอากาศ ระบบ GIS ทันสมัยที่สุด แก้ปัญหาแล้ว
รฟท.เปิดศูนย์กระจายสินค้าเกษตรทางรางจ.สุพรรณบุรี
การรถไฟฯ ร่วมมือกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดศูนย์รวมและกระจายการขนส่งสินค้าเกษตรทางรางศรีสำราญ จ.สุพรรณบุรี พร้อมเปิดเดินขบวนรถขนส่งสินค้าเกษตร ช่วยลดต้นทุนค่าขนส่งแก่เกษตรกร
‘บินไทย’ลุยเพิ่ม 33 เส้นทางให้บริการขนส่งสินค้าทั่วโลก
“การบินไทย” เดินหน้าเพิ่มเส้นทางให้บริการขนส่งสินค้าอีก 33 เส้นทางทั่วโลกถึง 26 มี.ค.65 เปิดตัวเลขคาร์โก้การบินไทย ก.ค.-ก.ย.64 ให้บริการแล้ว 1.6 ไฟล์ท ทำรายได้กว่า 2.5 พันล้าน