
โครงการสินเชื่อลดโลกร้อนฯ ประสบความสำเร็จเกินเป้า มีวงเงินอนุมัติเพิ่มขึ้น 36% ชี้ให้เห็นผู้ประกอบการใส่ใจสิ่งแวดล้อมเพิ่มขึ้น ล่าสุดมีผู้ได้รับอนุมัติสินเชื่อ 678 ราย วงเงินอนุมัติกว่า 1,400 ล้านบาท และในปีงบประมาณ 2567 ได้ออกสินเชื่อโครงการสินเชื่อลดโลกร้อน มีผู้ยื่นคำขอรออนุมัติแล้วกว่า 158 ราย วงเงิน 1,900 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะมีวงเงินอนุมัติเพิ่มขึ้น 36% แสดงให้เห็นว่าผู้ประกอบการเอสเอ็มอีมีความสนใจ ในการปรับปรุงการดำเนินงานด้านสิ่งแวดล้อมมากขึ้น
11 ม.ค. 2566 – นางสาวณิรดา วิสุทธิชาติธาดา ผู้ช่วยปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม ในฐานะผู้อำนวยการสำนักงานกองทุนพัฒนาเอสเอ็มอีตามแนวประชารัฐ กล่าวว่า กองทุนพัฒนาเอสเอ็มอีตามแนวประชารัฐ กระทรวงอุตสาหกรรม เป็นกองทุนที่มีความสำคัญต่อภาคอุตสาหกรรมของประเทศ มีวัตถุประสงค์หลักเพื่อส่งเสริม สนับสนุน และให้ความช่วยเหลือด้านเงินทุนและเพิ่มช่องทางการเข้าถึงแหล่งเงินทุนให้กับผู้ประกอบการที่มีศักยภาพ และพัฒนาผู้ประกอบการให้มีศักยภาพและขีดความสามารถสูงขึ้น โดยผลการดำเนินงานนับตั้งแต่ปี พ.ศ.2560 – 2566 ได้อนุมัติสินเชื่อแล้วกว่า 25,260 ล้านบาท จำนวนกว่า 13,650 ราย ก่อให้เกิดการลงทุน การจ้างงาน การพัฒนาธุรกิจ ตลอดจนสร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจได้มากกว่า 80,000 ล้านบาท
ในส่วนของการดำเนินงานขับเคลื่อนกองทุนสามารถตอบสนองนโยบายของรัฐบาล ในด้านการสนับสนุนอุตสาหกรรมเป้าหมายของประเทศทั้ง S-Curve และ New S-Curve เพื่อเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันต่อยอดสู่อุตสาหกรรม 4.0 ซึ่งการดำเนินการต้องใช้กลไกประชารัฐผ่านกระบวนการของหน่วยงานร่วมกัน ดำเนินการทั้งภาครัฐและเอกชนในแต่ละพื้นที่ แต่ละจังหวัดในรูปแบบของคณะอนุกรรมการบริหารกองทุนพัฒนาเอสเอ็มอีตามแนวประชารัฐประจำจังหวัด เพื่อส่งเสริมสนับสนุนผู้ประกอบการเอสเอ็มอีที่มีศักยภาพให้สามารถเข้าถึงแหล่งทุนได้เพิ่มขึ้น โดยที่ผ่านมากองทุนพัฒนาเอสเอ็มอีตามแนวประชารัฐ ได้ดำเนินโครงการสินเชื่อต่างๆ คือ ในปี 2560 ได้จัดทำโครงการสินเชื่อกองทุนพัฒนาเอสเอ็มอีตามแนวประชารัฐ ปี 2561-2562 จัดทำโครงการฟื้นฟูและเสริมศักยภาพวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม สำหรับ SMEs – คนตัวเล็ก ปี 2563 จัดทำโครงการสินเชื่อ SME โตไว ไทยยั่งยืน ปี 2564 จัดทำโครงการสินเชื่อเสริมพลัง สร้างอนาคต SME ไทย และในปี 2565-2566 จัดทำ 3 โครงการ ประกอบด้วย โครงการสินเชื่อเพื่อฟื้นฟู SME โครงการสินเชื่อสร้างโอกาส เสริมสภาพคล่อง SME และโครงการสินเชื่อเพิ่มศักยภาพ SME
ทั้งนี้ ผลการดำเนินงานในปีงบประมาณ 2566 มีวงเงินสินเชื่อที่ได้รับอนุมัติ รวมทั้งสิ้น 1,401.22 ล้านบาท จำนวน 678 ราย จากโครงการ ดังนี้ 1) สินเชื่อปี 2560 โครงการสินเชื่อกองทุนพัฒนาเอสเอ็มอีตามแนวประชารัฐ 2) สินเชื่อปี 2564 โครงการสินเชื่อเสริมพลัง สร้างอนาคต SME ไทย 3) สินเชื่อปี 2565 ถึง 2566 โครงการสินเชื่อสร้างโอกาส เสริมสภาพคล่อง SME และโครงการสินเชื่อเพิ่มศักยภาพ SME เพื่อเป็นการช่วยเหลือ ผ่อนปรน ให้ผู้ประกอบการ SME เข้าถึงแหล่งเงินทุนมากขึ้น ในสถานการณ์ทางเศรษฐกิจ ในปัจจุบันที่เปลี่ยนแปลงไปจากอดีตและสอดรับกับนโยบายของรัฐบาลเพื่อเตรียมความพร้อมเปิดประเทศ รวมทั้งช่วยเหลือผู้ประกอบการ SME ในกลุ่มที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 (COVID-19)
สำหรับในปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 กองทุนพัฒนาเอสเอ็มอีตามแนวประชารัฐ มีกรอบวงเงินสินเชื่อรวม 3,500 ล้านบาท โดยได้ดำเนินโครงการสินเชื่อลดโลกร้อน (Decarbonize Loan) ภายใต้กรอบวงเงินสินเชื่อ 1,500 ล้านบาท เพื่อเป็นเงินทุนสนับสนุนผู้ประกอบการเอสเอ็มอีที่ต้องการปรับปรุง หรือลงทุนในกิจการสำหรับการปรับเปลี่ยนเครื่องจักร กระบวนการดำเนินงานในการดูแลสิ่งแวดล้อม และลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์สู่ชั้นบรรยากาศ ปัจจุบันมีผู้ประกอบการยื่นคำขอสินเชื่อแล้วกว่า 1,900 ล้านบาท จำนวน 158 ราย ซึ่งอาจจะขยายกรอบวงเงินเพิ่มเติมหากมีความต้องการสูงขึ้น โดยใช้กรอบวงเงินที่เหลือจำนวน 2,000 ล้านบาท หรือนำมาเปิดโครงการสินเชื่อใหม่ที่สอดคล้องกับนโยบายรัฐบาลเพื่อสนับสนุนให้ความช่วยเหลือเงินทุน เพิ่มช่องทางการเข้าถึงแหล่งเงินทุนให้กับผู้ประกอบการที่มีศักยภาพในการต่อยอดพัฒนาธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน
“กองทุนพัฒนาเอสเอ็มอีตามแนวประชารัฐ กระทรวงอุตสาหกรรม มุ่งมั่นสนับสนุนให้ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีไทย สามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้อย่างสะดวก รวดเร็ว และมีประสิทธิภาพ โดยคำนึงถึงศักยภาพและขีดความสามารถของผู้ประกอบการเป็นหลัก เพื่อให้ผู้ประกอบการสามารถพัฒนาธุรกิจได้อย่างยั่งยืนและเติบโตได้อย่างมั่นคงและเป็นฟันเฟืองสำคัญที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยต่อไป” นางสาวณิรดา กล่าว
ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีที่สนใจสามารถสมัครสินเชื่อได้ผ่านเว็บไซต์ของกองทุนพัฒนาเอสเอ็มอีตามแนวประชารัฐ www.thaismefund.com หรือ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่กองทุนพัฒนาเอสเอ็มอีตามแนวประชารัฐ กระทรวงอุตสาหกรรม โทร. 0-2354-3310 และสำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดทั่วประเทศ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'ธนกร' สั่งปรับแผนช่วยผู้ประกอบการประสบอุทกภัยภาคใต้ 9 จังหวัด เน้นความเหมาะสมกับสถานการณ์ปัจจุบัน อัดมาตรการ 3 ระยะครบวงจร เพื่อให้กลับมายืนได้อย่างเข้มแข็ง
นายธนกร วังบุญคงชนะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า กระทรวงอุตสาหกรรมได้ทบทวนมาตรการช่วยเหลือ เยียวยา และฟื้นฟูผู้ประกอบการภาคอุตสาหกรรม กรณีประสบอุทกภัยเพื่อให้เหมาะสมกับสถานการณ์ปัจจุบัน ผู้ประกอบการที่ประสบอุทกภัยสามารถติดต่อไปยังกระทรวงอุตสาหกรรม สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัด หรือธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทยได้ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป
นายกฯ ขอบคุณ 4 กระทรวงผนึกกำลังแก้ฝุ่นพิษ
นายกฯ ขอบคุณ 4 กระทรวงผนึกกำลังแก้ฝุ่น ชูสโลแกนอากาศดีปีใหม่พลัส หนุน ขอบคุณชาวไร่อ้อยไม่เผา หวังนำอากาศดีมาให้คนไทย
“ดื้อคือปิด! ธนกรสั่งชัด-โรงงานไหนไม่แก้ไข หยุดกิจการทันที สั่งเต็มเหนี่ยว บุกตรวจโรงงานกระดาษ นำร่องโชว์มาตรการสู้ฤดูฝุ่น PM2.5
นายธนกร วังบุญคงชนะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม สั่งการชุดปฏิบัติการ “เต็มเหนี่ยว” กระทรวงอุตสาหกรรม นำโดย นายฐาปกรณ์ กุลเจริญ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม นางสาวพลอยลภัสร์ สิงห์โตทอง
อุตฯส่งรถโมบายตรวจวัดคุณภาพอากาศเหตุเพลิงไหม้บ่อขยะปราจีนบุรี
อุตฯ สั่งชุดเต็มเหนี่ยวส่งรถโมบายตรวจวัดคุณภาพอากาศเฝ้าระวังผลกระทบเหตุเพลิงไหม้บ่อขยะปราจีนบุรี – ยืนยันคุณภาพอากาศยังไม่เกินมาตรฐาน #โปรโมชั่นพิเศษสำหรับสมาชิกใหม่! รับโบนัส 100%, #เมื่อสมัครสมาชิกใหม่และทำการฝากเงินครั้งแรก พร้อมโปรโมชั่นสุดพิเศษสำหรับแฟนบอลที่ชอบ ฟุตบอล และ สล็อตเว็บตรง! โปรโมชั่นฟรีสปินและโบนัสพิเศษรอคุณอยู่!

