
9 ม.ค. 2567 – นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.การคลัง กล่าวว่า เตรียมจะเรียกสมาคมสถาบันการเงินของรัฐ (แบงก์รัฐ) มาหารือ โดยยอมรับว่ากระทรวงการคลังมองเห็นถึงปัญหาอัตราดอกเบี้ยที่อยู่ในระดับสูงซึ่งเป็นภาระของประชาชน และที่ผ่านมาแบงก์รัฐก็ได้มีการตรึงอัตราดอกเบี้ยมามากพอสมควร และกระทรวงการคลังเองก็ได้มีการสั่งการไปยังแบงก์รัฐทั้งหมดให้มีการตรึงอัตราดอกเบี้ยให้นานและมากที่สุด เพราะรู้ว่าประชาชน เกษตรกร ผู้กู้รายย่อยเดือดร้อน
ทั้งนี้ ต้องยอมรับว่าแบงก์รัฐยังมีภารกิจทางสังคม และภารกิจที่ได้รับมอบหมายจากรัฐบาล เช่น การพักหนี้ การแก้ไขปัญหาหนี้สิน ซึ่งทั้งธนาคารออมสิน และธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ก็มีภาระที่จะต้องเข้าไปช่วยเหลือตามกลไกของรัฐ ซึ่งส่วนนี้ทำให้แบงก์รัฐไม่สามารถดำเนินการในรูปแบบธุรกิจได้เป็นปกติ 100% และมาตรการแก้หนี้นั้น ส่วนหนึ่งก็อาจจะไหลเข้ามาอยู่กับแบงก์รัฐที่จะต้องเข้าไปรอบรับลูกหนี้กลุ่มนี้ พร้อมทั้งให้ความช่วยเหลือในเรื่องของอัตราดอกเบี้ยที่เหมาะสม และหนี้เหล่านี้ก็ถือว่าเป็นกลุ่มเสี่ยง แต่แบงก์รัฐก็มีภาระหน้าที่ที่จะต้องดำเนินการตามพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) จัดตั้ง
“ส่วนที่ว่าแบงก์รัฐบางแห่งจะมีกำไรเยอะ ก็คือสถานการณ์เดียวกัน แต่ตั้งแต่ปลายปีที่ผ่านมาแบงก์รัฐพยายามตรึงอัตราดอกเบี้ยมาโดยตลอด และถามว่าแบงก์รัฐจะอยู่ยังไงในตลาดแบบนี้ โดยในช่วงต้นปี ธนาคารออมสินก็ปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยไปเพียง 0.25 สตางค์ ขณะที่ ธ.ก.ส. ปรับขึ้นดอกเบี้ย MLR เท่านั้น แต่ดอกเบี้ยส่วนอื่นก็พยายามตรึงอยู่และตรึงให้ถึงที่สุด ส่วนกำไรที่สูงนั้น ท้ายที่สุดแล้วก็ต้องโยนเม็ดเงินกำไรส่วนหนึ่งกับมาที่รัฐเป็นเงินหลวง เพื่อใช้ทำภารกิจตามนโยบายรัฐบาลต่อไป” นายจุลพันธ์ กล่าว
นายจุลพันธ์ กล่าวอีกว่า ในส่วนที่มีการชี้แจงว่าที่ผ่านมาธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ไม่ได้มีการขึ้นดอกเบี้ยเร็วและแรงเกินไปนั้น ส่วนหนึ่งอยากให้ย้อนกับไปดูกำไรของธนาคารพาณิชย์ด้วย ขณะที่ชาวบ้านเดือนร้อน ตรงนี้ความเห็นของรัฐบาลกรณีที่ ธปท. บอกว่ามีการปรับอัตราดอกเบี้ยขึ้นไปรอนั้น มองว่า “คำนี้ไม่สมเหตุสมผล”
อย่างไรก็ดี เมื่อวันที่ 9 ม.ค. 2567 ธนาคารออมสินได้ประกาศลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลูกค้ารายย่อย (MRR) หลังจากตรึงอัตราดอกเบี้ยมาตรฐานไว้ในระดับต่ำจนถึงสิ้นปีที่ผ่านมา โดยประกาศดอกเบี้ย MRR จากเดิม 6.995% ลดลงเหลือ 6.845% มีผลตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป เพื่อช่วยเหลือบรรเทาภาระทางการเงินของประชาชนในช่วงระยะนี้ไปจนกว่าจะมีการเปลี่ยนแปลง นับเป็นอัตราดอกเบี้ย MRR ที่ต่ำสุดในระบบธนาคาร ณ เวลานี้
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'จุลพันธ์' โวมีแต่เพื่อไทยพาประเทศไปข้างหน้า 'ยศชนัน' กล้าพูดทุจริตไม่จบไม่เลิก
'จุลพันธ์' กร้าวมีแต่ พท.ที่จะพาประเทศไปข้างหน้า 'สุริยะ' ลั่นเลือกตั้งครั้งนี้พร้อมมากที่สุด 'ยศชนัน' ลั่นยาเสพติด-ทุจริต ไม่จบไม่เลิก อ้อนเลือก พท.ทั้งคนทั้งพรรค
เอกฉันท์!‘กนง.’ลดดอกเบี้ย0.25% คงจีดีพีปี68ที่2.2%ครึ่งปีหลังชะลอ
เอกฉันท์! ‘กนง.’ มีมติลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง 0.25% ต่อปี จาก 1.50% ต่อปี เป็น 1.25% ต่อปี โดยให้มีผลทันที พร้อมคงจีดีพีปี 68 ไว้ที่ 2.2% แต่ปรับลดคาดการณ์เศรษฐกิจปี 69 เหลือ 1.5% ส่วนปี 70 ที่ 2.3%

