เมื่อเวลา 14.00 น. ที่กระทรวงการคลัง นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.การคลัง เปิดเผยว่า กรณีธนาคารพาณิชย์มีกำไรสูงกว่า 2.2 แสนล้านบาทนั้น ในส่วนของกระทรวงการคลัง ในฐานะกำกับดูแลธนาคารเฉพาะกิจของรัฐ มีนโยบายตรึงอัตราดอกเบี้ยไว้ให้นานที่สุด โดยในช่วง 3 เดือนสุดท้ายของปี 2566 ทุกแห่งก็มีการตรึงอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ และในช่วงต้นปี 2567 ก็มีการปรับขึ้นเล็กน้อย เช่น ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.)ปรับขึ้นดอกเบี้ย MLR แค่ 25 สตางค์เท่านั้น ก็พยายามตรึงกันอย่างเต็มที่ เพื่อไม่ให้ลูกค้า โดยเฉพาะกลุ่มที่มีรายได้น้อยได้รับผลกระทบ
อย่างไรก็ดี ในส่วนของธนาคารพาณิชย์ เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยนโยบายมีการปรับขึ้นมาจากในภาพรวม และตลาดเป็นการแข่งขันสมบูรณ์ มันก็มีความจำเป็นที่ธนาคารต่าง ๆ จะต้องอยู่ภายใต้การแข่งขันเดียวกัน ไม่มีใครได้เปรียบเสียเปรียบ ต่างจากธนาคารเฉพาะกิจของรัฐ ด้วยความที่เป็นธนาคารเพื่อประชาชน มีวัตถุประสงค์เพื่อความช่วยเหลือเป็นหลัก ก็พยายามตรึงให้ได้มากที่สุดและยาวนานที่สุด
“เราเคยมีความเห็นว่าการขึ้นดอกเบี้ยนโยบายของคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ธนาคารแห่งประทศไทย (ธปท.)ที่ผ่านมาเร็วและแรงเกินไปนิดหนึ่ง กระทบต่อสถานการณ์เศรษฐกิจในปัจจุบัน ตัวอย่างง่าย ๆ เลยอย่างตอนนี้อัตราเงินเฟ้อติดลบมา 2-3 เดือน ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน เป็นสถานการณ์ที่กระทรวงการคลังจับตาดูใกล้ชิด” นายจุลพันธ์ กล่าว
ผู้สื่อข่าวสอบถามว่า คาดหวังว่าจะให้ กนง.มีการพิจารณาปรับลดดอกเบี้ยนโยบายลงหรือไม่ นายจุลพันธ์ กล่าวว่า ตอบไม่ได้ เพราะไม่ได้อยู่ในอำนาจหน้าที่ของกระทรวงการคลัง ส่วนโอกาสในการหารือกับ ธปท. ในประเด็นนี้หรือไม่ เป็นภารกิจของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและ รมว.การคลัง ที่จะมีการพูดคุย เท่าที่ทราบมีการพูดคุยกันเป็นระยะในประเด็นเหล่านี้จะขึ้นอยู่กับนายกฯ จะมีโอกาสพบผู้ว่าธปท.หรือไม่อย่างไร ผมคงไม่ได้อยู่ในจุดนั้น
รมช.การคลัง กล่าวอีกว่า ยอมรับว่าเป็นห่วงสถานการณ์เศรษฐกิจปัจจุบัน คลังก็มีหน้าที่ทำในกรอบหน้าที่ภารกิจที่มีตามกฎหมาย แน่นอนว่าภาวการณ์ทางเศรษฐกิจที่เงินเฟ้อติดลบส่อไปในทางที่เศรษฐกิจจะชะลอตัวได้ แต่กลไกของรัฐก็มีหน้าที่ที่จะกระตุ้นให้เกิดการหมุนเวียนทางเศรษฐกิจให้ประชาชนสามารถอยู่ได้ มีเศรษฐกิจอยู่ในระดับที่เพียงพอ เป็นกลไกที่เรามีหลาย ๆ ตัว ทั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีที่ที่ต้องเร่งผลักดันให้ได้เร็วที่สุด กลไกในการใช้งบประมาณไปพลางก่อน ก็เป็นอีกหนึ่งกลไกที่จะต้องดำเนินการ เพราะนี่เป็นเครื่องมือทางการคลังที่เราใช้ได้
ส่วนอัตราเงินเฟ้อจะส่งผลกระทบจนเกิดภาวะเงินฝืดหรือไม่นั้น ก็อยู่ในการจับตาดูของกระทรวงการคลังเหมือนกัน ว่ามีความเสี่ยงในระดับนั้นหรือไม่ ณ ขณะนี้ยังไม่อาจชี้ชัดได้ ส่วนหนึ่งที่อัตราเงินเฟ้อติดลบ 2เดือน มาจากกลไกเรื่องการช่วยเหลือราคาพลังงาน แต่ถ้าดึงราคาพลังงานออกจากเงินเฟ้อเดือนล่าสุด ก็ยังติดลบอยู่ แต่ไม่ได้อยู่ในจุดที่เป็นความเสี่ยงขนาดนั้น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการสอบถาม ธปท.กรณีผลกำไรธนาคารพาณิชย์ จากการขึ้นอัตราดอกเบี้ย ในประเด็นนี้ ธปท.ไม่ได้มีการชี้แจงใด ๆ เพิ่มเติม
สำหรับแนวทางการตั้งกองทุนพยุงหุ้นกู้ที่มีปัญหานั้น ยืนยันว่า หากจะดำเนินการก็สามารถทำได้ แต่ปัจจุบันยังไม่มีความชัดเจนว่าจำเป็นต้องทำหรือไม่ หรือหากจะทำจะทำในช่วงเวลาใด ส่วนสถานการณ์หุ้นกู้ที่หลายภาคส่วนแสดงความกังวลใจนั้น ยืนยันว่า ปัจจุบันกระทรวงการคลัง ธปท.และสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.)ติดตามดูแลอย่างใกล้ชิด
ส่วนกรณีที่ บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) หรือ ITD ขอเลื่อนจ่ายเงินต้นหุ้นกู้ 2 ปีนั้น มองว่า เป็นกลไกที่สามารถดำเนินการได้ และอยู่ในกรอบวิสัยที่ทำได้เช่นกัน และการดำเนินการดังกล่าวเป็นการเลื่อนการชำระเท่านั้น ไม่ได้เป็นการผิดนัดชำระแต่อย่างใด
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ธ.ค.เปิดชื่อแจกหมื่นเฟส2 หั่นเงินส่งFIDFแลกแก้หนี้
“คลัง” ปักธงแจกหมื่นเฟส 2 เป็นเงินสด ให้กลุ่มอายุ 60 ปีขึ้นไป 4 ล้านราย
‘คลัง’ชงแพ็กเกจใหญ่!กระตุ้นศก.
“คลัง” ฟุ้งเตรียมขนแพ็กเกจใหญ่กระตุ้นเศรษฐกิจ