'เลขานายกฯ' ยันเงินหมื่น ยังเป็นไปตามแผน เชื่อไม่แหกกฎหมาย ไม่ตอบรับผิดชอบถึงไหน ยุบสภา-ลาออก บอกอย่าพึ่งสมมุติเรื่องยังไม่เกิด พร้อมเสนอ กม.กู้ 5 แสนล้านบาทหลัง พ.ร.บ.งบประมาณ 2567
27 ธ.ค. 2566 - นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์นโยบายโครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่านดิจิทัลวอลเล็ต ยังอยู่ในจุดที่มั่นใจที่ว่าจะสำเร็จในปีหน้าหรือไม่ว่า ปีหน้าโครงการดิจิทัลวอลเล็ตยังเป็นไปตามแผน เรื่องที่มีข้อสงสัยหรือถกเถียงกัน เราก็ทำให้ยุติชัดเจนไปแล้ว ขณะนี้นำไปสู่ขั้นตอนนำไปปฏิบัติให้เป็นจริง ซึ่งเราได้ถามไปยังคณะกรรมกฤษฎีกา ซึ่งเร็วๆ นี้จะได้คำตอบกลับมา แล้วเราก็จะปรับและเสนอกฎหมายที่จะต้องกู้เงินเข้าไปในสภา คงจะตามหลังร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2567 และเงินต่างๆ ก็คงเป็นตามแผน
เมื่อถามว่า แสดงว่าไม่ว่ากฤษฎีกาตอบมาอย่างไรก็จะส่งเข้าไปสภาใช่หรือไม่ นพ.พรหมินทร์ กล่าวว่า เราเชื่อว่าสิ่งที่เราถูกกฎหมาย และกฤษฎีกาคงมีข้อแนะบางประการ อย่างไรก็แล้วแต่ ก่อนจะออกโครงการนี้เราศึกษาข้อกฎหมายต่างๆ เมื่อทางไม่ได้ราบเรียบตลอด ยกตัวอย่าง เมื่อสมัยกองทุนหมู่บ้าน เราพูดถึงว่าเดี๋ยวจะหางบตรงนั้นตรงนี้ เราก็ไม่มีเงินเหมือนกัน แต่เราก็ใช้วิธีการกู้เงินนี่คือในอดีต ฉะนั้นเรามีความมุ่งหมายชัดเจน มีปัญหาก็หาวิธีแก้และยึดมั่นในประโยชน์ประชาชน
เมื่อถามว่า ถ้ากฎหมายกู้เงินไม่ผ่านจะต้องรับผิดชอบทางการเมืองหรือไม่ นพ.พรหมินทร์ กล่าวว่า เรารับผิดชอบตามสิ่งที่เราทำให้ประชาชน ส่วนความรับผิดชอบสำคัญคือความรับผิดชอบประชาชน และเราไม่ได้พยายามทำแหกกฎหมาย เราศึกษากฎหมายจนชัดเจนแล้วเราเดินตาม ไม่น่าจะเกิดปัญหาสะดุดอะไร
เมื่อถามว่า ความรับผิดชอบถึงขั้นไหน นายกฯ ยุบสภาหรือลาออก นพ.พรหมินทร์ กล่าวว่า อย่าพึ่งสมมุติเรื่องที่ยังไม่เกิดขึ้น เราจะทำไม่ให้มันเกิดขึ้นเลย
เมื่อถามว่า 3 เดือนที่ผ่านมามีอะไรที่ยังไม่เข้าเป้าหรือยังไม่ทันใจบ้าง นพ.พรหมินทร์ กล่าวว่า สิ่งที่อยากทำมีเยอะกว่านี้มาก แต่ทำแล้วอาจติดขัดข้อกฎหมาย ติดหน่วยราชการ ความเข้าใจระหว่างคนและปัญหาที่เกิดขึ้นทับถม อย่างเรื่องน้ำท่วมที่เราไม่ได้คาดคิด เรื่องสงครามอิสราเอลที่เป็นตัวอย่างชัดเจนว่า เราเข้ามาแก้ปัญหาเมื่อเกิดปัญหาก็แก้ไขอย่างเร่งด่วน
นพ.พรหมินทร์ กล่าวว่า สิ่งสำคัญที่สุดในรอบ 3 เดือนนี้ คือการกอบกู้เกียรติภูมิประเทศไทยในเวทีโลก ทำให้เราเปิดตลาด และสิ่งที่อ่อนด้อยในช่วงที่ผ่านมา เราสามารถฟื้นความเชื่อมั่นในสายตาต่างประเทศ น่าจะทำให้เศรษฐกิจของเราเติบโตได้ นอกจากเรื่องการกอบกู้วิกฤติต่างๆ เราก็ทำได้เร็ว เพราะเราเป็นรัฐบาลของประชาชนมีความตั้งใจ ท่านอาจจะเห็นว่าเราเป็นพรรคร่วม แต่ที่แท้เราเป็นรัฐบาลของประชาชน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'นิพนธ์' ซัดรัฐบาลแจกเงินหมื่น เฟส 2 หวังผลการเมือง ไม่ใช่กระตุ้นเศรษฐกิจ
นายนิพนธ์ บุญญามณี อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย-อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และอดีตนายก อบจ. พรรคประชาธิปัตย์ ได้ออกมาแสดงความเห็นเกี่ยวกับนโยบายการกระตุ้นเศรษฐกิจ เฟส 2 ของรัฐบาล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี โดยมีการแจกเงินสด 10,000 บาท ให้แก่ผู้สูงอายุที่มีอายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไป ที่ลงทะเบียนในระบบและยืนยันตัวตนแล้ว รวมกว่า 4 ล้านคน
ป้า 67 ป่วยหลายโรค หาบเร่ขายของเลี้ยงชีพ หวังได้เงินหมื่น เฟส 2 หวั่นตกหล่น บัตรคนจนก็ไม่มี
บุรีรัมย์ ป้า 67 ป่วยความดัน มีก้อนเนื้อที่คอ แต่ต้องหาบเร่ขายของเลี้ยงชีพและลูกพิการ หวังได้เงินหมื่น เฟสสอง มาแบ่งเบา
รัฐบาลเคาะแจกเงินหมื่น เฟส 2 ให้คนอายุ 60 ปีขึ้นไป ก่อนวันตรุษจีนปี 68
น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการนโยบายโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งที่ 1/2567 โดยมี นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรมว.การคลัง
คกก.นโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ นัดประชุมครั้งแรก 19 พ.ย. ถกแจกเงินดิจิทัลรอบใหม่
นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง เปิดเผยภายหลังหารือกับ นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง และหน่วยงานเศรษฐกิจว่า ในวงหารือได้เคาะวันประชุมคณะกรรมการนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ