'เศรษฐา' ชี้ขึ้นค่าแรงอย่าแค่เอากฎหมายมาจับบอกปีหนึ่งควรปรับหลายๆ รอบ!

'เศรษฐา' บอกไม่มีความสุข ปมค่าแรงขั้นต่ำ วอนเห็นใจชีวิตความเป็นอยู่ ปชช.ไม่ยึดแค่กฎหมายเพียงอย่างเดียว ลั่นเป็นหน้าที่ต้องทำให้ได้ เมื่อมานั่งตำแหน่งนายกฯ พร้อมหวัง ศก.ปี 67 ดีขึ้น

27 ธ.ค.2566 - นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ให้สัมภาษณ์ถึงปัญหาการขึ้นค่าแรงงานขั้นต่ำที่ยังไม่ตรงความต้องการ ว่า ยังครับ เมื่อวันที่ 26 ธ.ค. อย่างที่นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.แรงงาน ได้แจ้งไปก็มีการตั้งคณะอนุกรรมการและดูเป็นรายอำเภอ รายอาชีพไป

“แน่นอนผมไม่มีความสุขอย่างแน่นอน ผมเชื่อว่า รมว.แรงงานก็ไม่มีความสุข ท่านเองก็อึดอัด เพราะมีกลไกกำหนดค่าแรงอยู่เหมือนกัน ของพวกนี้เหมือนอย่างที่ผมบอกมันเป็นเรื่องจิตใต้สำนึก มันเป็นเรื่องของความเหมาะสม ซึ่งหลายๆ ประเทศเมื่อคืนผมได้เจอกับนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ก็บอกว่าถ้าเราไม่สามารถยกค่าแรงขั้นต่ำขึ้นมาได้ ความเจริญเติบโตของประเทศก็จะต่ำมาก”นายกฯกล่าว

นายกฯกล่าวว่า เมื่อคืนได้คุยกันเป็นการส่วนตัวเยอะ เรื่องเหล่านี้อย่างที่บอกค่าแรงขั้นต่ำเมื่อ 9 ปีที่แล้ว 300 บาทวันนี้ 337 บาทขึ้นไป 12% ในช่วง 9 ปีที่ผ่านมา แต่ในทางกลับกันหากลูกๆ เจ้าของกิจการทั้งหลายกลับมาจากเมืองนอก เงินเดือน 30,000 บาทเมื่อ 9 ปีที่แล้ว วันนี้ 33,700 บาทขึ้นมากว่า 10 เปอร์เซ็นต์ ท่านแฮปปี้ไหม มันเป็นเรื่องใจเขาใจเรา เรื่องของไตรภาคีเป็นเรื่องหนึ่ง เรื่องกฎหมายเป็นเรื่องหนึ่ง เรื่องของข้อบังคับก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง หลายๆ เรื่องคนไทยเราอยู่ด้วยกัน เราอยู่ด้วยกันด้วยอะไร ด้วยความอยากให้ทุกคนมีความสุขอยากให้ทุกคนมีกินมีใช้ตามความเหมาะสมใช่หรือไม่ อย่างกรณี 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ขึ้นค่าแรงแค่ 2 บาท

“คุณจะพูดอย่างไรก็ตามที ว่านายกฯ ไม่มีอำนาจ เป็นเรื่องของไตรภาคี เป็นเรื่องของอะไร ผมเข้าใจหมดทุกอย่าง และผมว่าทุกคนเข้าใจเรื่องกฎหมาย แต่เรื่องของชีวิตความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชน บางทีไม่ต้องเอากฎหมายมาจับ แต่ต้องเอาความเข้าใจความเห็นใจซึ่งกันและกันมาพูดบ้างได้ไหม ในภาวะที่เศรษฐกิจเราเดือดร้อน ก็ฝากไว้ด้วยแล้วกัน”นายกฯกล่าว

เมื่อถามว่าเงื่อนไขที่บอกว่านายกฯ ไม่มีอำนาจเข้าไปแทรกแซงไตรภาคี ตรงนี้จะหาจุดสมดุลมานั่งคุยกันแบบผู้ใหญ่คุยกันอย่างที่นายกฯ ตั้งใจได้หรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า ก็ต้องพยายามต่อไป ก็เป็นหน้าที่เมื่อมาอยู่ตำแหน่งนี้แล้วก็พยายามที่จะต้องแก้ไขปัญหา ปัญหามีก็ต้องแก้ ต้องพูดจาให้มันชัดเจน ขอร้อง อ้อนวอน วิงวอน เหตุผลมาพูดจากัน อย่าเอาเรื่องที่มันไม่เป็นความจริงมาพูดดีกว่าว่าเขาย้ายฐานผลิต มันไม่ใช่หรอกครับจริงๆ แล้ว

เมื่อถามว่า แสดงว่าแต่ละปีสามารถปรับขึ้นได้ นายกฯ กล่าวว่า ปรับได้หลายๆ อย่าง หลายๆ รอบ ตามความเหมาะสม เราเคยพูดเป็นรายจังหวัดอาจจะต้องพูดเป็นรายอำเภอ เพราะบางอำเภอ อาจจะมีความต้องการแรงงานแตกต่างกันไป เราเองก็ต้องฟังฝ่ายนายจ้างด้วยเหมือนกัน ไม่ใช่เราจะไม่ฟัง ตามอาชีพ ตามความต้องการและตามความชำนาญงาน ซึ่งมีหลายมิติที่จะต้องพูดคุยกัน ตนไม่อยากใช้พื้นที่ของพี่น้องสื่อมวลชนมากดดันทุกๆฝ่าย ซึ่งตนคิดว่าเราควรจะพูดจากันด้วยจิตใจที่โอภาปราศรัยและเห็นใจซึ่งกันและกัน ในแง่ของเพื่อนมนุษย์มากกว่า

เมื่อถามว่า นายกฯ คาดหวังกับเศรษฐกิจในปีหน้าอย่างไร นายเศรษฐากล่าวว่า ก็หวังว่าจะดีขึ้น เป็นธรรมดาของคนที่มาทำงาน และมาอยู่ตรงนี้ เรามาเพื่ออะไร ก็เพื่อยกระดับชีวิตความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชนให้ดีขึ้น ก็ต้องพยายามทำในหลายๆมิติ ไม่ได้มาทำแค่ค่าแรงขั้นต่ำอย่างเดียว แต่ยังดูเรื่องของการลงทุน การเจรจาสนธิสัญญาทางการค้า ดูเรื่องสิทธิพื้นฐาน เรื่องของการเลือกเพศสภาพ การประกอบอาชีพ หรือแม้แต่เรื่องเล็กๆ ของสิทธิเสรีภาพที่ควรจะได้อากาศสะอาดเราก็ต้องทำกัน และหลังปีใหม่ตนจะไปภาคเหนืออีก ไปช่วยกำกับว่าตรงนี้จะต้องดีขึ้น ซึ่งมีหลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง มีหลายมิติและคิดว่าปีใหม่นี้ถือเป็นนิมิตหมายใหม่ ในเรื่องของวิธีการทำงาน เราต้องช่วยกันทำงานดูแลพี่น้องประชาชนทุกคน

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

"พิพัฒน์” ลุยเพื่อแรงงาน ถกประกันสังคมเอสโตเนีย ยกระดับบริการให้สิทธิประโยชน์ผู้ประกันตน

เมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน 2567 นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน พร้อมด้วย นายบุญสงค์ ทัพชัยยุทธ์ ปลัดกระทรวงแรงงาน นางมารศรี ใจรังษี

"พิพัฒน์“ รุก! เพื่อแรงงาน เพิ่มรายได้กองทุนฯ พบบริษัทจัดการสินทรัพย์สวีเดน กางแผนผลตอบแทนระยะยาวเฉลี่ย 8 -10% ต่อปี เพื่อกองทุนยืน

เมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายน 2567 นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน พร้อมด้วย นายบุญสงค์ ทัพชัยยุทธ์ ปลัดกระทรวงแรงงาน นางมารศรี ใจรังษี

‘พิพัฒน์’ห่วงแรงงานไทย นำคณะ ถก ! ระบบบำนาญสวีเดน สร้างมาตรฐาน พัฒนาบริการผู้ประกันตน รองรับสังคมสูงอายุ

มื่อวันที่ 18 พฤศจิกายน 2567 นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน พร้อมด้วย นายบุญสงค์ ทัพชัยยุทธ์ ปลัดกระทรวงแรงงาน นางมารศรี ใจรังษี ผู้ตรวจราชการกระทรวงแรงงาน รักษาราชการแทน เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม คณะกรรมการประกันสังคม และที่ปรึกษา (ชุดที่ 14) รวมถึงผู้บริหาร

'พิพัฒน์' ย้ำสิทธิประโยชน์อาชีพอิสระ มอบทุนซื้อบ้าน เงินทดแทนเจ็บป่วย เงินทุพพลภาพตลอดชีวิต บำเหน็จชราภาพ ด้วยประกันสังคมมาตรา 40

นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน กล่าวว่า จังหวัดนครศรีธรรมราชเป็นรุ่นแรก เป็นจังหวัดซึ่งมีประชากรจำนวนมากที่สุดในภาคใต้ ประกอบอาชีพอิสระกว่า 500,000 คน

'ภูมิธรรม' มั่นใจ 'ทักษิณ' ลงอุดรฯ ปลุกกำลังใจสมาชิกพรรค เชื่อชาวอีสานยังรักพท.

'ภูมิธรรม' มั่นใจ 'ทักษิณ' ลงอุดรธานี ปลุกกำลังใจสมาชิกพรรค เชื่อชาวอีสานยังรักพรรคเพื่อไทย โบ้ยถาม 'นายกฯ' ขึ้นค่าแรง 400 บาททันเป็นของขวัญปีใหม่ หลังประชุม คกก.ไตรภาคี ล่มซ้ำซาก

“พิพัฒน์” กำชับเจ้าหน้าที่ความปลอดภัย ร่วมสร้างเกราะป้องกันในสถานประกอบการ ดูแลคนทำงาน ลดการสูญเสีย มุ่งเป้าลดอันตรายร้ายแรง 1:1,000 คน

วันที่ 12 พฤศจิกายน 2567 นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เป็นประธานในพิธีเปิดงาน “12 พฤศจิกายน วันเจ้าหน้าที่ความปลอดภัยในการทำงาน ประจำปี พ.ศ.2567” ณ ห้องประชุมกระทรวงแรงงาน ชั้น 5 .