‘กรุงไทย’ คาดเศรษฐกิจไทยปีหน้าขยายตัว 3%  

ศูนย์วิจัย Krungthai COMPASS ประเมินเศรษฐกิจไทยในปี 2566 เติบโตเพียง 2.4% ต่ำกว่าคาดการณ์เดิมที่ระดับ 3% หลังรายได้นักท่องเที่ยวโตน้อยกว่าคาดการผลิตภาคอุตสาหกรรมหดตัวต่อเนื่องคาดการณ์ปี 2567เศรษฐกิจทยอยฟื้นตัวจากปีนี้ที่ระดับ 3%  แนะภาคธุรกิจปรับตัวนำนวัตกรรมยกระดับการผลิตรับมือความท้าทายและเทรนด์โลกที่เปลี่ยนแปลง 

21 ธ.ค. 2566 – ดร.พชรพจน์ นันทรามาศผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่และ Chief Economist ธนาคารกรุงไทยเปิดเผยว่าศูนย์วิจัย Krungthai COMPASS คาดว่าเศรษฐกิจไทยในปี 2566 จะขยายตัวได้ 2.4% ต่ำกว่าประมาณการเดิมที่ 3% ปัจจัยหลักจากจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่คาดว่าจะเข้ามาเพียง  27.5 ล้านคนจากคาดการณ์ราว 30 ล้านคนส่งผลให้รายได้จากนักท่องเที่ยวต่างชาติหายไปประมาณกว่า 1 แสนล้านบาทขณะเดียวกันการผลิตภาคอุตสาหกรรมยังคงหดตัวแม้ว่าอุปสงค์ภาคเอกชนในประเทศจะขยายตัวโดยเฉพาะการบริโภคภาคเอกชนที่เติบโต 7-8% แต่ผู้ผลิตไม่เติมสินค้าคงคลังหรือเติมไม่มากเท่าจำนวนที่ขายออกไปส่งผลให้สินคงคลังปรับลดลงสะท้อนว่าผู้ผลิตไม่มั่นใจว่ายอดขายจะดีต่อเนื่องหรือไม่ขณะที่มูลค่าการส่งออกทั้งปีจะติดลบที่ 1.6% จากภาวะการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกโดยเฉพาะประเทศเศรษฐกิจหลักฝั่งตะวันตกที่อ่อนแอลงจากการเร่งขึ้นดอกเบี้ยเพื่อต่อสู้กับเงินเฟ้อและการฟื้นตัวต่ำกว่าคาดของเศรษฐกิจจีน  

สำหรับปี 2567 ประเมินว่าเศรษฐกิจไทยจะขยายตัวประมาณ 3% ปรับลงจากที่เคยคาดการณ์ไว้ที่ระดับ 3.6% แต่หากนโยบาย Digital Wallet ดำเนินการได้เต็มวงเงิน 5 แสนล้านบาทจะช่วยให้เศรษฐกิจเติบโตได้ถึง 4%  ทั้งนี้เศรษฐกิจไทยในปีหน้ายังเผชิญความท้าทาย 3 ปัจจัยคือ 1. การส่งออกฟื้นตัวได้จำกัดจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกโดยเฉพาะสหรัฐฯและยุโรปที่ได้รับผลกระทบจากภาวะดอกเบี้ยที่อยู่ในระดับสูงยาวนานซึ่งเกิดผลกระทบต่อเศรษฐกิจชัดเจนขึ้นในปีหน้าขณะที่เศรษฐกิจจีนจะเติบโตช้าลงและอาจขยายตัวไม่ถึง 5% จากปัญหาในภาคอสังหาริมทรัพย์ 2.นักท่องเที่ยวจีนฟื้นตัวช้ากว่าคาดส่วนหนึ่งมาจากเศรษฐกิจจีนยังมีความเปราะบางและจีนมีมาตรการส่งเสริมการท่องเที่ยวภายในประเทศเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจอีกทั้งมีความกังวลเรื่องความปลอดภัยจากการท่องเที่ยวในไทย  ทำให้จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาประมาณ 32.9 ล้านคน 3.นโยบายการเงินของไทยที่ตึงตัวภายหลังจากการปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ตลอดปี 2566 ส่งผลต่อต้นทุนการกู้ยืมของภาคธุรกิจและครัวเรือนนอกจากนี้ยังต้องติดตามมาตรการปล่อยสินเชื่ออย่างมีความรับผิดชอบ (Responsible lending) ของธปท.ที่เน้นเรื่องวินัยการไม่สร้างหนี้เกินกำลังโดยจะบังคับใช้ในเดือนมกราคม 2567 ซึ่งอาจกระทบต่อการเข้าถึงสินเชื่อในระบบของครัวเรือ

ภาคธุรกิจยังต้องจับตาและเตรียมรับมือกับกระแสโลกที่กำลังเปลี่ยนไปทั้งความขัดแย้งด้านภูมิรัฐศาสตร์ที่อาจรุนแรงขึ้นและกระแสแยกขั้ว (Decoupling) ระหว่างสหรัฐฯและจีนที่เข้มข้นและกระจายออกไปในหลายมิติความไม่แน่นอนทางการเมืองหลังการเลือกตั้งสำคัญในหลายภูมิภาคทั้งการเลือกตั้งประธานาธิบดีไต้หวันเดือนมกราคมการเลือกตั้งประธานาธิบดีรัสเซียเดือนกันยายนและการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯเดือนพฤศจิกายนการปรับทิศทางนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จากการคงอัตราดอกเบี้ยในระดับสูงไปสู่การเริ่มลดอัตราดอกเบี้ยซึ่งจะสร้างความผันผวนทางการเงินในช่วงการเปลี่ยนผ่านโดยเฉพาะกลุ่มประเทศตลาดเกิดใหม่รวมถึงไทย 

นอกจากนี้หลายประเทศยังมีมาตรการเพื่อปรับเปลี่ยนไปสู่สังคมคาร์บอนต่ำที่เด่นชัดมากขึ้นเช่นการปรับราคาคาร์บอนก่อนข้ามพรมแดน (CBAM) ของสหภาพยุโรปการจัดทำมาตรฐานการจัดกลุ่มกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อม (Taxonomy) ของไทยและกระแส digital transformation ของภาคธุรกิจจากการนำปัญญาประดิษฐ์ (AI) มาใช้อย่างแพร่หลายซึ่งผู้ประกอบการควรปรับกลยุทธ์เพื่อรองรับความท้าทายและโอกาสจากเทรนด์โลกใหม่ๆด้วยการวางแผนบริหารความเสี่ยงใช้เครื่องมือทางการเงินในการปกป้องหรือลดผลกระทบจากความผันผวนขณะเดียวกันต้องเร่งปรับตัวให้การดำเนินธุรกิจมีความยืดหยุ่นสอดรับไปกับบริบทใหม่ของโลกรวมถึงการนำนวัตกรรมสมัยใหม่และเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้ในการผลิตจำหน่ายและเข้าถึงกลุ่มลูกค้าเป้าหมายช่วยลดต้นทุนและยกระดับประสิทธิภาพการดำเนินงานและสร้างโอกาสใหม่ในการขยายตลาดไปยังผู้บริโภคกลุ่มใหม่ที่มีศักยภาพในอนาคตนำไปสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

‘อนุสรณ์’ วิเคราะห์ ‘ทรัมป์2.0’ ไทยต้องปรับยุทธศาสตร์ ศก. พึ่งพาตัวเองมากขึ้น

ทรัมป์ 2.0 ไทยต้องปรับยุทธศาสตร์เศรษฐกิจหันพึ่งพาตัวเองมากขึ้น สินค้านอกข้อตกลงเอฟทีเอกระทบรุนแรง สงครามการค้าระหว่างจีนกับสหรัฐฯรอบใหม่อาจนำไปสู่สงครามเย็นรอบใหม่ในไม่ช้า

เศรษฐกิจไทย ทำไมยังไม่ไปไหนเสียที

ก่อนหน้าที่ดิฉันจะเข้าทำงานที่องค์การสหประชาชาติเมื่อเกือบ 8 ปีก่อน ดิฉันเป็นคนหนึ่งที่ไม่ค่อยได้ชื่นชมประเทศไทยมากนัก เพราะรถติดมากแทบทุกวัน

ไทยพาณิชย์ปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้สูงสุด 0.25% เริ่ม 1 พ.ย.

ธนาคารไทยพาณิชย์ ประกาศปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้สูงสุด 0.25% ต่อปี เพื่อให้สอดคล้องกับทิศทางการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายของคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.)

ค้าชายแดนไทย ยังโตต่อเนื่อง 8 เดือนแรก ทะลุ 1.2 ล้านล้าน ขยายตัว 7.1%

การค้าชายแดนและผ่านแดน ส.ค. 67 ขยายตัวต่อเนื่อง +16.2% รวม 8 เดือนแรก ขยายตัว 7.1% ส่งออกสินค้าพลังงาน ทุเรียนสด ยางพาราและผลิตภัณฑ์ยาง ยังโตต่อเนื่อง