19 ธ.ค. 2566 – นายศุภพงษ์ เพชรสุทธิ์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท จระเข้ คอร์ปอเรชั่น จำกัด ภายใต้แบรนด์จระเข้ ผู้นำในการผลิตสินค้าเพื่องานก่อสร้าง ซ่อมแซม และตกแต่ง ครบวงจรตั้งแต่ฐานรากจนถึงหลังคามากว่า 30 ปี เปิดเผยว่า“หลังจากที่ผลิตภัณฑ์จระเข้ แบรนด์วัสดุก่อสร้างของคนไทย ได้ออกไปทำตลาดผลิตภัณฑ์วัสดุก่อสร้างในกลุ่มประเทศ CLMV ได้แก่ สปป.ลาว กัมพูชา และเมียนมากว่า 10 ปี ปีนี้จึงถือเป็นโอกาสที่ดีสำหรับการขยายตลาดในประเทศเวียดนาม โดยได้รับความร่วมมือกับ Prime Group ผู้นำธุรกิจผลิตและจำหน่ายกระเบื้องเซรามิกในประเทศเวียดนาม สู่การเป็นพันธมิตรคู่ค้าธุรกิจผ่านโซลูชั่นทางการค้าครบวงจร เพื่อให้ลูกค้าได้รับสินค้าด้านงานก่อสร้างที่ครบวงจรมากขึ้นในภาคเหนือ ของประเทศเวียดนาม ตลอดจนต้องการให้คนทั่วภูมิภาคของประเทศเวียดนามได้ใช้ผลิตภัณฑ์จระเข้ที่เป็นของแท้และถูกลิขสิทธิ์
สำหรับเวียดนามถือว่าเป็นประเทศที่มีการเติบโตทางเศรษฐกิจสูง เมื่อเปรียบเทียบกับประเทศต่างๆ ในอาเซียน จากปัจจัยที่เวียดนามเป็นฐานการผลิตและส่งออกสินค้าไปยังประเทศต่าง ๆ ขณะเดียวกันยังมีประชากรกว่า 100 ล้านคน ที่มีความต้องการด้านที่อยู่อาศัยจำนวนมาก และรัฐบาลยังสนับสนุนและกระตุ้นให้อุตสาหกรรมก่อสร้างมีการเติบโตอย่างมาก โดยที่ผ่านมาได้เข้าไปจัดตั้งสำนักงานที่ทางภาคใต้ นครโฮจิมินท์ ภายใต้ชื่อ บริษัท จระเข้ เวียดนาม จำกัด ซึ่งนับเป็น Next Move ครั้งสำคัญ เพื่อยกระดับแบรนด์ให้เป็นที่นิยมให้คนในประเทศได้เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ของจระเข้ และการร่วมมือกับ Prime Group ครั้งนี้ จะเป็นขยายการทำตลาดในพื้นที่ภาคเหนือของเวียดนามเพิ่มมากขึ้น
นายศุภพงษ์ กล่าวว่า ความร่วมมือกันระหว่าง Jorakay Vietnam กับ Prime Group ในครั้งนี้ จะเป็นการผสานจุดแข็งระหว่างทั้ง 2 บริษัท เพื่อขยายตลาดทางภาคเหนือของประเทศเวียดนาม ซึ่งจะใช้ศักยภาพและความแข็งแกร่งของสินค้าจระเข้ที่มีคุณภาพสูง อาทิ กาวซีเมนต์ กาวยาแนว และอุปกรณ์ตกแต่งกระเบื้อง โดยมีผลิตภัณฑ์ที่โดดเด่นด้านนวัตกรรม ครอบคลุมงานซ่อมแซม งานสร้างบ้าน ไปจนถึงงานตกแต่งแบบครบวงจร ขณะที่ Prime Group ถือว่าเป็นผู้นำในการดำเนินธุรกิจผลิตและจำหน่ายกระเบื้องปูพื้นและบุผนังในประเทศเวียดนาม ด้วยส่วนแบ่งทางการตลาดที่สูง และปัจจุบันยังมีตัวแทนจำหน่ายกระเบื้องมากกว่า 120 ราย ครอบคลุมพื้นที่ช่องทางการจัดจำหน่ายทั่วประเทศของภาคเหนือ โดยจระเข้มองว่าการร่วมมือกับ Prime Group จะเพิ่มความแข็งแกร่งในภาคเหนือ และขยายช่องทางจำหน่ายสินค้าเพื่อครอบคลุมและสร้างการเติบโตมากขึ้น
นายจักรกฤษณ์ สุวรรณศิลป์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท Prime Group จำกัด กล่าวว่า ความร่วมมือกันในครั้งนี้ มีความสอดคล้องกับยุทธศาสตร์การเติบโตของทั้ง 2 บริษัท เป็นการขยายตัวของธุรกิจที่สร้างพันธมิตรทางธุรกิจ โดยผลิตภัณฑ์จระเข้เน้นเรื่องของการสร้างสรรค์นวัตกรรมสินค้าสำหรับงานก่อสร้างและบริการตามมาตรฐานสากล โดยเรามั่นใจว่าผลิตภัณฑ์จระเข้จะสามารถตอบโจทย์ทุกความต้องการของตลาดเวียดนาม พร้อมยังสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้าได้ ซึ่งจากจุดแข็งของทั้ง 2 บริษัทเมื่อมาผสมผสานกัน ยิ่งทำให้ความร่วมมือเป็น JORAKAY and PRIME Partner To Grow ในครั้งนี้ จะช่วยเสริมศักยภาพและความแข็งแกร่งระหว่างกันมากยิ่งขึ้น
เนื่องจากทาง Prime Group ให้ความสำคัญในเรื่องการขยายตลาดผ่านการพัฒนาช่องทางการขาย โดยเน้นไปลูกค้า Distributor ที่มีกว่า 120 ราย เพื่อเป็นช่องทางในการขยายสินค้าจระเข้ เพื่อให้ครอบคลุมในส่วนของทางการจัดจำหน่ายในภาคเหนือ ประกอบกับจระเข้มีโซลูชั่นที่มีคุณภาพ พร้อมตอบโจทย์ความต้องการของกลุ่มลูกค้า
นายพงษ์พันธุ์ ประทีปมโนวงศ์ General Director บริษัท จระเข้ เวียดนาม จำกัด กล่าวว่า แผนการตลาดของจระเข้ เวียดนาม ในปี 2567 ยังคงเดินหน้าอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในประเทศเวียดนามด้วยการใช้กลยุทธ์การตลาดแบบรวมทุกช่องทางที่ลูกค้าติดต่อเข้ามาไว้ในที่เดียว คือ ผสานช่องทางการขายผลิตภัณฑ์ทั้งในรูปแบบ Offline เช่น การติดตั้งป้าย Banner และสื่อหน้าร้านกว่า 10,000 ร้านค้า พร้อมโบรชัวร์ แผ่นพับ และคู่มือการใช้สินค้าให้กับคู่ค้าและลูกค้า ขณะที่รูปแบบOnline เรามีช่องทาง TikTok, Facebook รวมถึงจัดกิจกรรมกระตุ้นยอดขายผ่าน Viral on ground activity เป็นช่องทางให้ลูกค้าได้รับทราบข้อมูลต่างๆ ของตัวผลิตภัณฑ์จระเข้ที่ชัดเจนและคลอบคลุม ว่าผลิตภัณฑ์จระเข้ดีอย่างไร และการใช้ของถูกลิขสิทธิ์ดีกว่าของปลอมอย่างไร นอกจากนี้ยังเสริมให้มีการอบรมความรู้สินค้า โดยทีมงานผู้เชี่ยวชาญ Jorakay Academy ให้กับลูกค้ากลุ่มต่างๆ ทั้งกลุ่มสินค้านวัตกรรมการปูกระเบื้อง และกลุ่มสินค้าเคมีก่อสร้าง
นายพงษ์พันธุ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ผลิตภัณฑ์จระเข้มีข้อได้เปรียบในตลาดวัสดุก่อสร้าง ทั้งด้านนวัตกรรม และคุณภาพที่ได้รับการรับรองมาตรฐานจากสหรัฐอเมริกา รวมถึงผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมในทุกกลุ่มผลิตภัณฑ์ กาวซีเมนต์ กาวยาแนว ผลิตภัณฑ์กันซึม ซีเมนต์แต่งผิว ผลิตภัณฑ์ปรับพื้น และการันตีรางวัลที่ยืนยันถึงประสิทธิภาพและความเชื่อถือได้ เป็นข้อได้เปรียบเมื่อลูกค้าเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ของจระเข้
“จระเข้ เวียดนาม เป็นก้าวสำคัญของแบรนด์ก่อสร้างคนไทย ที่ต้องการให้คนในประเทศเวียดนามได้มีโอกาสใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพที่ดี ตามวิสัยทัศน์ของบริษัทฯ คือ นวัตกรรมก่อสร้างความสุขเพื่อคุณและครอบครัว และเหตุผลที่อยากให้คนในประเทศเวียดนามเลือกใช้ผลิตภัณฑ์จระเข้ที่ถูกลิขสิทธิ์ คือ ลูกค้าจะได้รับผลิตภัณฑ์ก่อสร้างที่ดีมีคุณภาพตอบโจทย์การใช้งาน ด้วยขั้นตอนการผลิตที่มีคุณภาพ ระบบการตรวจสอบคุณภาพมีมาตรฐาน มีฐานการผลิตที่ชัดเจน ทำให้เราวางใจได้ว่าผลิตภัณฑ์ปูนกาวซีเมนต์ ยาแนว ที่เราใช้งานอยู่นั้น จะส่งผลให้งานก่อสร้างคงทน และมีคุณภาพอย่างแน่นอน” นายพงษ์พันธุ์ กล่าว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
อุตุฯ อัปเดตเส้นทางพายุโซนร้อน 2 ลูก 'จ่ามี-กองเร็ย'
กรมอุตุนิยมวิทยา อัปเดตสถานการณ์พายุเวลา 04.00 น. (28/10/67) : พายุโซนร้อน "จ่ามี (TRAMI)" มีศูนย์กลางใกล้ชายฝั่งทางด้านตอนกลางของประเทศเวียดนาม
กรมอุตุฯ เปิดศูนย์ฯติดตามพายุ ’จ่ามี’ คาดขึ้นเวียดนามไม่เข้าไทย แค่มีฝนตกเพิ่มขึ้น
พายุโซนร้อนกำลังแรง 'จ่ามี' จะเคลื่อนขึ้นฝั่งประเทศเวียดนามตอนกลางในวันนี้ โดยพายุนี้จะไม่เคลื่อนเข้าสู่ประเทศไทย แต่จะทำให้มีลมฝ่ายตะวันตกและลมตะวันตกเฉียงใต้
นักเตะไทยอยู่สายA ร่วมเวียดนาม-มาเลย์-ติมอร์-บรูไน ฟุตซอลแชมป์อาเซียน2024
เมื่อวันที่ 27 กันยายน 2567 เวลา 15.00 น. ณ โรงแรมสีมาธานี จังหวัดนครราชสีมา สหพันธ์ฟุตบอล อาเซียน หรือเอเอฟเอฟ จัดพิธีจับสลากแบ่งสายการแข่งขัน ASEAN Futsal Championship 2024 หรือ ฟุตซอลชิงแชมป์อาเซียน ประจำปี 2024
กอล์ฟสมัครเล่นหญิงภูมิภาค 'วีเมนส์ อเมเจอร์ เอเชีย-แปซิฟิก' ดวลที่เวียดนามปีหน้า
อาร์แอนด์เอ หรือองค์กรกำกับดูแลกอล์ฟระหว่างประเทศ ร่วมกับสมาพันธ์กอล์ฟเอเชีย-แปซิฟิก (เอพีจีซี) ประกาศเลือกสนามฮอยอันนา ชอร์ กอล์ฟ คลับ ในเมืองฮอยอัน ประเทศเวียดนาม เป็นสนามแข่งขันกอล์ฟสมัครเล่นหญิงรายการใหญ่ของภูมิภาคศึก “วีเมนส์ อเมเจอร์ เอเชีย-แปซิฟิก” หรือดับเบิ้ลยูเอเอพี ครั้งที่ 7 ระหว่างวันที่ 6-9 มีนาคมศกหน้า
ส.อ.ท. ภาคตะวันออกค้านขึ้นค่าแรงขึ้นต่ำ 400 บาท
ชี้แรงงานต่างด้าวได้ประโยชน์ แต่ไทยเกิน 400 บาทแล้ว ขณะผลลบทำให้ไทยสู้ต่างชาติอย่างเวียตนามไม่ได้ เหตุค่าแรงต่ำกว่า,เอฟทีเอมากกว่า วัยทำงานมากกว่า