‘ภูมิธรรม’ เคาะตั้งคณะอนุกรรมการ 4 ชุดแก้ปัญหาค้าชายแดน  

“ภูมิธรรม” ประชุมคณะกรรมการส่งเสริมการค้าและการลงทุนชายแดนและผ่านแดน นัดแรก เคาะตั้งคณะอนุกรรมการ 4 ชุด เดินหน้าส่งเสริมการค้าและการลงทุนชายแดน มีเป้าหมายดันมูลค่าการค้า 2 ล้านล้านบาทในปี 70 พร้อมเดินหน้ายกระดับจุดผ่อนปรนเป็นจุดผ่านแดนถาวระอีก 3 แห่ง แก้ความล่าช้าส่งออกด่านพรมแดนแม่สอด นำระบบดิจิทัลมาใช้ออกใบ C/O เผย NEDA เตรียมชง ครม. อนุมัติงบซ่อมถนนสาย R12 อำนวยสะดวกขนส่งสินค้าไทย คาด Quick Win ศูนย์บริการเบ็ดเสร็จ 8 จังหวัด เปิดได้ 25 ธ.ค.นี้

15 ธ.ค. 2566- นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการส่งเสริมการค้าและการลงทุนชายแดนและผ่านแดน ครั้งที่ 1/2566 ว่า ที่ประชุมได้มีมติตั้งคณะอนุกรรมการ 4 ชุด เพื่อเป็นกลไกขับเคลื่อนการทำงานด้านต่าง ๆ ในการส่งเสริมและอำนวยความสะดวกการค้าชายแดนและผ่านแดนของไทย ตลอดจนแก้ไขปัญหาอุปสรรคด้านการค้าและการลงทุน ได้แก่ 1.คณะอนุกรรมการพัฒนาขีดความสามารถในการแข่งขันของไทยเพื่อเพิ่มมูลค่าการค้า 2.คณะอนุกรรมการยกระดับศักยภาพและการอำนวยความสะดวกของชายแดน และระบบขนส่ง โลจิสติกส์ 3.คณะอนุกรรมการส่งเสริมและใช้ประโยชน์จากกรอบความตกลงและกรอบความร่วมมือต่าง ๆ และ 4.คณะอนุกรรมการส่งเสริมการลงทุนในพื้นที่ชายแดนและประเทศเพื่อนบ้าน มีเป้าหมายเพื่อเพิ่มมูลค่าการค้าชายแดนและผ่านแดนเป็น 2 ล้านล้านบาท ในปี 2570

ทั้งนี้ เป้าหมายการค้าเพิ่มเป็น 2 ล้านล้านบาทนั้น ตัวเลขมูลค่าการค้าในแต่ละปี จะเพิ่มขึ้นในอัตราเท่าใด จะมีการประเมินข้อเท็จจริงต่อไป ส่วนตัวเลขเป้าหมายการค้าชายแดนในปี 2567 จะต้องรอตัวเลขภาพรวมของปี 2566 ที่จะได้ประมาณเดือน ม.ค.2567 ออกมาก่อน จากนั้น จะประกาศตัวเลขเป้าหมายที่ชัดเจนอีกครั้ง

นายภูมิธรรม กล่าวว่า สำหรับการแก้ไขปัญหาการค้าชายแดนและอำนวยความสะดวกการค้าชายแดน ได้มีการยกระดับจุดผ่อนปรนเป็นจุดผ่านแดนถาวร 3 แห่ง ได้แก่ 1.จุดผ่อนปรนพิเศษด่านสิงขร จ.ประจวบคีรีขันธ์ 2.จุดผ่อนปรนการค้าบ้านห้วยต้นนุ่น จ.แม่ฮ่องสอน ซึ่งจะเร่งเจรจากับฝ่ายเมียนมารับรองผลการสำรวจเขตแดนร่วม (Joint Detail Survey : JDS) ของด่านสิงขร และเร่งจัดทำ JDS ของด่านบ้านห้วยต้นนุ่น และ 3.จุดผ่อนปรนการค้าบ้านซับตารี จ.จันทบุรี ซึ่งล่าสุดได้แต่งตั้งคณะกรรมการขับเคลื่อนการยกระดับ เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป เพื่อแก้ไขข้อจำกัดต่าง ๆให้เดินหน้าได้

นอกจากนี้ ยังได้แก้ไขปัญหาความล่าช้าในการนำเข้าและส่งออกสินค้า โดยเฉพาะด่านพรมแดนแม่สอด แห่งที่ 2 จ.ตาก ซึ่งอยู่ระหว่างการก่อสร้างจุดเอกซเรย์ด้านนอก และแขวงทางหลวงตากที่ 2 (แม่สอด) ได้กำหนดจุดจอดตรวจสอบเอกสาร และตอนนี้ทางด่านได้เริ่มต้นดำเนินการตั้งแต่ 6 โมงเช้าเป็นต้นไป เพื่อบรรเทาความแออัด ส่วนเรื่องการออกหนังสือรับรองถิ่นกำเนิดสินค้า (C/O) ของประเทศเพื่อนบ้าน ได้มีการเอาระบบดิจิทัลมาช่วย แต่ยังมีบางประเทศที่ยังติดขัด โดยได้รับการแก้ไขแล้ว 5 ประเทศได้แก่ กัมพูชา เวียดนาม อินโดนีเซีย สปป.ลาว และเมียนมา ที่เหลืออยู่ คือ ฟิลิปปินส์ ซึ่งอยู่ระหว่างการดำเนินการแก้ไข

ส่วนการขอสนับสนุนงบประมาณปรับปรุงเส้นทาง R12 (นครพนม-คำม่วน-นำเพ้า) ใน สปป.ลาว ซึ่งสำนักงานความร่วมมือพัฒนาเศรษฐกิจกับประเทศเพื่อนบ้าน (องค์การมหาชน) หรือ สพพ. หรือ NEDA อยู่ระหว่างเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณา อนุมัติงบประมาณในการปรับปรุงเส้นทาง ซึ่งไทยจะได้ประโยชน์ในการส่งออกไปยังเวียดนามและจีน โดยเฉพาะสินค้าเกษตรและผลไม้

นายภูมิธรรมกล่าวว่า กระทรวงพาณิชย์ยังได้ร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งกระทรวงการคลัง กระทรวงมหาดไทย กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงสาธารณสุข สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง และกระทรวงพาณิชย์ ทำการจัดตั้งศูนย์บริการค้าชายแดนเบ็ดเสร็จจุดเดียว (One Stop Service : OSS) ใน 8 จังหวัด ได้แก่ เชียงราย ตาก ตราด สงขลา หนองคาย นครพนม มุกดาหาร และอุดรธานี คาดว่าจะแถลงความสำเร็จการดำเนินการได้ประมาณวันที่ 25 ธ.ค.2566 นี้

นายชัยชาญ เจริญสุข ประธานสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย กล่าวว่า เรื่อง One Stop Service ภาคเอกชนดีใจและขอบคุณทางภาครัฐบาล โดยเฉพาะอย่างยิ่งนายภูมิธรรม และกรมการค้าต่างประเทศที่ทำให้ Quick Win เกิดขึ้นแล้วจริง ๆ เพราะจะช่วยลดทั้งเรื่องเวลา ค่าใช้จ่าย ลดการรอคอย และสินค้าเกษตรจะได้อานิสงส์อย่างมาก ในเรื่องความสดและการส่งมอบถึงมือลูกค้าเร็วขึ้น และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะมีการขยายอย่างต่อเนื่องต่อไป

ข้อมูลจากกรมการค้าต่างประเทศ แจ้งว่า ตัวเลขการค้าชายแดนและการค้าผ่านแดน ในช่วง 10 เดือน ปี 2566 (ม.ค.-ต.ค.) มีมูลค่า 1,451,068 ล้านบาท แบ่งเป็นการส่งออกมูลค่า 825,248 ล้านบาท และการนำเข้ามูลค่า 625,820 ล้านบาท โดยไทยได้ดุลการค้า 199,427 ล้านบาท  

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

“รองนายกฯ ภูมิธรรม” ห่วงอุทกภัยอีสาน สั่ง สทนช.บูรณาการเร่งติดตามพื้นที่ได้รับผลกระทบ

“รองนายกฯ ภูมิธรรม” ห่วงพื้นที่ประสบอุทกภัยภาคอีสาน สั่งการให้ สทนช. บูรณาการหน่วยงานติดตามพื้นที่ได้รับผลกระทบ เร่งช่วยเหลือประชาชน

ภูมิธรรม สุดปลื้มโพสต์ปิดตำนานจำนำข้าว สมัยยิ่งลักษณ์สำเร็จ คุยโกยเงินเข้ารัฐ

นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว แสดงความยินดี

'ภูมิธรรม' ยันยังไม่เลิก 'ไร่ละพัน' แจง 'ปุ๋ยคนละครึ่ง' หวังช่วยชาวนาอีกทาง

'ภูมิธรรม' แจงไม่ได้ยกเลิกไร่ละพัน พร้อมดึงกลับมาใช้ถ้าราคาข้าวตก ย้ำคนละส่วนกับปุ๋ยคนละครึ่ง ชี้ สส. รุมค้าน เหตุไม่เข้าใจถ่องแท้ไปฟังเกษตรกรมา

แจกเงินดิจิทัล1หมื่นบาท ปิดปาก 'ปุ๋ย คนละครึ่ง'?

รัฐบาลเพื่อไทยนำโดย เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และ ภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และ รมว.พาณิชย์ ผนึกกำลัง ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมว.เกษตรและสหกรณ์ ในฐานะเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ