กสทช. จับมือตำรวจกวาดล้างคลังอุปกรณ์วิทยุคมนาคมเถื่อนตัดตอนแก๊งคอลเซ็นเตอร์  

กสทช. และตำรวจขานรับนโยบายนายกฯ  กวาดล้างคลังอุปกรณ์วิทยุคมนาคมเถื่อน มุ่งตัดวงจรแก๊งคอลเซ็นเตอร์  

11 ธ.ค. 66 เวลา 10.00 น. ศ.นพ.สรณ บุญใบชัยพฤกษ์ ประธาน กสทช. มอบหมายให้ พล.ต.อ.ดร.ณัฐธร เพราะสุนทร กสทช. ด้านกฎหมาย และประธานอนุกรรมการบูรณาการบังคับใช้กฎหมายความผิดทางเทคโนโลยีฯ, พล.ต.ท.ดร. ธัชชัย ปิตะนีละบุตร ผู้ช่วย ผบ.ตร. ดูแลงานด้านอาชญากรรมเทคโนโลยี, นายไตรรัตน์ วิริยะศิริกุล รักษาการเลขาธิการ กสทช., พล.ต.ต.นิเวศน์ อาภาวศิน รอง ผบช.สอท., นายจาตุรนต์ โชคสวัสดิ์ ผอ.สำนักกำกับดูแลกิจการโทรคมนาคม และ 

ชุดปฏิบัติการ กสทช. พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี, แถลงผลการกวาดล้างคลังอุปกรณ์วิทยุคมนาคมเถื่อน กวนสัญญาณมือถือ มุ่งตัดวงจรแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในพื้นที่กรุงเทพและปริมณฑล 

พล.ต.อ. ณัฐธรฯ กล่าวว่า สืบเนื่องจากการที่ กสทช. และตำรวจ ได้ร่วมกันทำการจับกุมและตรวจยึดอุปกรณ์วิทยุคมนาคมเถื่อน และอุปกรณ์เทคโนโลยีอื่นๆ ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญ ที่แก๊งคอลเซ็นเตอร์ใช้ในการก่ออาชญากรรม เช่น กล่องบรรจุซิมอิเล็กทรอนิกส์ (Sim box), เสาสัญญาณปลอม (False base station) เป็นต้น ได้หลายครั้งในช่วงที่ผ่านมา ทำให้เชื่อได้ว่า มีการลักลอบนำอุปกรณ์ดังกล่าวเข้ามาในราชอาณาจักร โดยการแยกชิ้นส่วน หรือ ซุกซ่อนมากับอุปกรณ์ประเภทอื่น โดยผิดกฎหมาย

 จากการสืบสวนทราบว่า มีแหล่งจำหน่ายและคลังเก็บสินค้าอุปกรณ์วิทยุคมนาคมเถื่อนและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อื่นผิดกฎหมาย กระจายอยู่ในหลายพื้นที่ ประกอบกับมีการแจ้งเบาะแสว่ามีอุปกรณ์ส่งสัญญาณกวนมือถือ ทำให้คุณภาพของสัญญาณโทรศัพท์ลดลง เอื้อกลุ่มแก๊งอาชญากรออนไลน์ เจ้าหน้าที่ กสทช. จึงได้ขอหมายค้นต่อศาล เพื่อเข้าทำการตรวจค้นคลังสินค้าต้องสงสัยในพื้นที่จังหวัดปทุมธานี ผลการตรวจค้น แม้ไม่พบอุปกรณ์ดังกล่าวโดยกายภาพ แต่พบเครื่องวิทยุคมนาคมเถื่อน ลักษณะคล้ายกล้องวงจรปิดใส่ซิมการ์ด และอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องเป็นจำนวนมาก จึงได้ทำการยึดอายัดส่งตรวจพิสูจน์ถึงวัตถุประสงค์การใช้ และจับกุมผู้ที่เกี่ยวข้องมาดำเนินคดีในความผิดตาม พ.ร.บ.วิทยุคมนาคม พ.ศ.2498 มาตรา 6 ที่กำหนด “ห้ามมิให้ผู้ใด ทำ มี ใช้ นำเข้า นำออก หรือค้าซึ่งเครื่องวิทยุคมนาคม เว้นแต่จะได้รับใบอนุญาตจากเจ้าพนักงานผู้ออกใบอนุญาต” ระวางโทษปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือจำคุกไม่เกินห้าปี หรือทั้งจำทั้งปรับ 

พล.ต.ท.ธัชชัยฯ กล่าวเพิ่มเติมว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้ทำงานอย่างใกล้ชิดกับ กสทช. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งในการตรวจค้นจับกุมครั้งนี้ สามารถยึดของกลางได้จำนวน 58,400 รายการ มูลค่ากว่าสองร้อยล้านบาท ส่งตรวจพิสูจน์ถึงวัตถุประสงค์การใช้ และนำตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรลำลูกกา ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป ทั้งนี้ ตำรวจ และ กสทช. จะบูรณาการเดินหน้ากวาดล้างต่อเนื่องแหล่งจำหน่ายอุปกรณ์วิทยุคมนาคมเถื่อน และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อื่นๆ เพื่อตัดต้นตอแก๊งคอลเซ็นเตอร์ และองค์กรอาชญากรรมออนไลน์ ไม่ให้เข้าถึงอุปกรณ์สื่อสารโทรคมนาคมเถื่อนที่ใช้ในการกระทำความผิดได้โดยง่าย ป้องกันคนไทยไม่ให้ถูกหลอกลวง 

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

จับแล้ว! 2 แม่ลูก แก๊งคอลเซ็นเตอร์ ลูบคม 'ปธ.กมธ.ตำรวจ'

พล.ต.ต.ภูมิพัฒน์ ภัทรศรีวงษ์ชัย ผู้บังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 5 (ผบก.สอท.5) พ.ต.อ.อุกฤช ศรีนิติวรวงศ์ ผกก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ

แก๊งคอลฯ ลูบคม ปธ.กมธ.ตำรวจ ลูกสาวถูกหลอกรีดเงิน 6 แสน จี้ ผบ.ตร-นายกฯ แก้ปัญหาด่วน

แก๊งคอลเซ็นเตอร์ ลูบคม 'ชัยชนะ' ปธ.กมธ.ตำรวจ โวยลูกสาวถูกหลอกรีดเงิน 6 แสน ประนามพฤติกรรมเลวทราม จี้ ผบ.ตร-นายกฯ แก้ปัญหา คอลเซ็นเตอร์ด่วน

เตือนระวังข่าวปลอม ลงทะเบียนคุ้มครองสิทธิแก๊งคอลเซ็นเตอร์

ดีอี เตือน อย่าเชื่อ-แชร์ ข่าวปลอม “เปิดลงทะเบียนคุ้มครองสิทธิผู้เสียหายจากแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ผ่านเพจ หน่วยงานคุ้มครองสิทธิ์อาชญากรรมทางออนไลน์” หวั่นปชช.สูญเงิน-ข้อมูลส่วนบุคคล

บุกจับ 3 นายหน้าจัดหาซิมผีบัญชีม้า ขายแก๊งคอลเซ็นเตอร์

พ.ต.อ.อนุชา ศรีสำโรง ผู้กำกับกองกำกับการ 2 กองบังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 4 (ผกก.2 บก.สอท.4) นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.2 บก.สอท.4 จับกุมนายธนกร

รัฐบาลเตือนอย่าหลงเชื่อมิจฉาชีพออนไลน์ อ้างเป็นจนท.ช่วยลงทะเบียนรับเงินหมื่น

นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า สืบเนื่องจากการดำเนินโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล ที่มีการแจกเงินหมื่นให้กับกลุ่มเปราะบาง และผู้พิการ

AIS และ กสทช. ร่วมส่งกำลังใจ พร้อมดูแลเครือข่ายและเน็ตบ้านในพื้นที่เสี่ยงอุทกภัย หนองคายและภาคอีสานเต็มที่ในทุกมิติ เพื่อให้สามารถติดต่อสื่อสารได้อย่างต่อเนื่อง

จากสถานการณ์ฝนตกหนักต่อเนื่อง และปริมาณแม่น้ำโขงหนุนสูง ล้นตลิ่ง ทำให้เกิดน้ำท่วม ประชาชนได้รับความเดือดร้อนเป็นจำนวนมาก ในหลายอำเภอของจังหวัดหนองคาย