![](https://storage-wp.thaipost.net/2021/11/แพตริเซีย-มงคลวนิช.jpg)
คลังปลื้ม “ฟิทช์ เรตติ้งส์” คงเครดิตประเทศไทยที่ระดับ BBB+ การันตีภาคการคลังเข้มแข็ง เคาะจีดีพีปี 2565 โตพรวด 4.5% จับตาสถานการณ์หนี้ครัวเรือน-การเมืองไม่นิ่ง หวั่นกระทบเศรษฐกิจระยะปานกลาง
21 ธ.ค. 2564 นางแพตริเซีย มงคลวนิช ผู้อำนวยการสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 20 ธ.ค. 2564 บริษัท ฟิทช์ เรทติ้งส์ (ฟิทช์) ได้คงอันดับความน่าเชื่อถือของประเทศไทยที่ BBB+ และคงมุมมองความน่าเชื่อถือของประเทศไทยอยู่ในระดับมีเสถียรภาพ โดยระบุว่า ภาคการคลังสาธารณะ มีความเข้มแข็งเป็นผลจากการบริหารจัดการทางการคลังอย่างรอบคอบและเป็นไปตามพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) วินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. 2561 แม้ว่าหนี้สาธารณะจะเพิ่มขึ้นจากการกู้เงินเพื่อช่วยเหลือประชาชนและผู้ประกอบการ และฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคมที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโควิด-19 โดยฟิทช์ ยังเชื่อมั่นว่า รัฐบาลไทยสามารถบริหารจัดการความเสี่ยงหนี้สาธารณะที่เพิ่มขึ้นได้เป็นอย่างดี
นอกจากนี้ ฟิทช์ คาดว่า ปี 2565ไทยยังคงจัดทำงบประมาณแบบขาดดุลเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการบรรเทาผลกระทบจากโควิด-19 และคาดว่า สัดส่วนหนี้ภาครัฐบาลต่อจีดีพีของไทยปี 2565 จะเพิ่มขึ้นอยู่ที่ 55.3% ต่อจีดีพี ซึ่งอยู่ในระดับค่ากลางเดียวกับกลุ่มประเทศที่มีอันดับความน่าเชื่อถือในระดับเดียวกัน และจะอยู่ในระดับคงที่ในปี 2566 เนื่องจากเศรษฐกิจฟื้นตัวและการขาดดุลงบประมาณลดลง
สำหรับเศรษฐกิจของประเทศไทยปี 2565 นั้น ฟิทช์ คาดว่า จะขยายตัวที่ 4.5% เนื่องจากมีมาตรการสนับสนุนด้านการเงินการคลังประกอบกับการส่งออกมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และการฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยว นอกจากนี้ การเพิ่มเพดานสัดส่วนหนี้สาธารณะต่อจีดีพีจาก 60% เป็น 70% จะช่วยเพิ่มพื้นที่ทางการคลังเพื่อการลงทุนและการฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคม ขณะที่ภาคการเงินต่างประเทศยังคงมีความแข็งแกร่ง โดยมีดุลบัญชีเดินสะพัดเกินดุลและทุนสำรองระหว่างประเทศอยู่ในระดับสูงที่เพียงพอสำหรับใช้จ่ายถึง 9.3 เดือน
ทั้งนี้ ฟิทช์คาดว่า ดุลบัญชีเดินสะพัดของไทยจะกลับมาเกินดุลที่ 0.8% ต่อจีดีพี ในปี 2565และ 3.5% ต่อจีดีพี ในปี 2566 หลังจากขาดดุลที่ 2% ในปี 2564
“ประเด็นที่ฟิทช์ ให้ความสนใจและจะติดตาม คือ สัดส่วนหนี้ภาคครัวเรือนต่อจีดีพีและความไม่แน่นอนทางการเมือง ซึ่งอาจมีผลต่อประสิทธิภาพการดำเนินงานของภาครัฐและการเติบโตทางเศรษฐกิจและสังคมในระยะปานกลาง” นางแพตริเซีย กล่าว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'เอี่ยม' ตะเพิด 250 สว.ชุดเก่า 'ลาโรง' ได้แล้ว
นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวถึงกรณี มีการหารือถึงการนัดประชุมวุฒิสภา
'ธนกร' ยัน 36 สส.รทสช. พร้อมลุยงานสภาฯเต็มสูบ
นายธนกร วังบุญคงชนะ สส.บัญชีรายชื่อและรองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ(รทสช.) กล่าวว่า ทันทีที่เปิดประชุมสภาสมัยสามัญ ประจำปี
จี้ 'เศรษฐา-วันนอร์' รับผิดชอบ 'บัตรเบ่ง' ปลิวว่อนทำเนียบ-สภาฯ
เรื่องการวิ่งเต้นหาตำแหน่งทางการเมือง เพื่อนำไปพิมพ์นามบัตร และใช้บัตรประจำตำแหน่ง ที่สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร
เตือน 'ทักษิณ' มีบทบาทการเมืองมากเกิน จะกระทบภาวะผู้นำของ 'เศรษฐา'
นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกล กล่าวถึงกรณีที่ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ยอมรับว่า สาเหตุที่ไปถอนฟ้องนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ตามความผิด ม.157 กรณีเสนอชื่อ พล.ต.อ.ต่อศั
เพื่อไทยอัด 'ปิยบุตร' เกินไปแล้ว ย้อนถามถ้า 'ชาญ' แพ้จะมีใครมาไล่บี้หรือไม่
นายสรวงศ์ เทียนทอง สส.สระแก้วและเลขาธิการพรรคเพื่อไทย (พท.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่เมื่อว