"การศึกษา"กุญแจไขสู่...Future and Beyond แสวงหา-เชื่อมโยง-สร้างอนาคตมั่นคง-ยั่งยืน

“Powering life with future energy and beyond” หรือการขับเคลื่อนทุกชีวิตด้วยพลังแห่งอนาคตและเติบโตในธุรกิจใหม่ที่ไกลกว่าพลังงาน ..คือวิสัยทัศน์ใหม่ของปตท. ที่มุ่งตอบโจทย์การเติบโตสู่ธุรกิจพลังงานอนาคตและธุรกิจใหม่ที่ไปไกลกว่าพลังงาน

ทำให้ผู้บริหารทุกภาคส่วนและบริษัทลูกในเครือ ปตท. ต้องขับเคลื่อนการบริหารจัดการองค์กรให้สอดรับนโยบายและตอบโจทย์ในการปูเส้นทางสู่อนาคตบนความมั่นคง และไปสู่ความยั่งยืน ซึ่งการศึกษาดูงานในภาคสนาม แสวงหาข้อมูลในห้องวิจัย รวมถึงการขอความรู้ การชี้แนะ ซักถามกลยุทธ์ความสำเร็จจากนานาประเทศที่เป็นต้นแบบหรือโมเดล ซึ่งประกาศความเป็นผู้นำด้านพลังงานแห่งอนาคต ตลอดจนพลังงานสะอาด ก็เป็นทางเลือกหนึ่งที่ไม่สามารถมองข้ามอีกต่อไป นอกจากนั้นยังอาจจะเป็นทางลัดเดินสู่เป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพอีกด้วย

เมื่อเร็วๆ นี้ ผู้บริหารบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) และบริษัทในเครือ นำโดย นายนพดล ปิ่นสุภา ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการกลุ่มธุรกิจปิโตรเลียมขั้นปลาย, นายวุฒิกร สติฐิต ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการกลุ่มธุรกิจปิโตรเลียมขั้นต้นและก๊าซธรรมชาติ, น.ส.พรรณนลิน มหาวงศ์ธิกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารการเงิน, นายบัณฑิต ธรรมประจำจิต ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ และนายกฤษณ์ อิ่มแสง ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไออาร์พีซี จำกัด (มหาชน) พร้อมด้วยสื่อมวลชนได้เดินทางศึกษาดูงานที่ University of Porto ในเมือง Porto ประเทศโปรตุเกส โดยได้ข้อสรุปที่น่าสนใจว่า...

"การสร้างนวัตกรรมใหม่ๆเพื่อพัฒนาสู่โลกแห่งอนาคตไม่ว่าจะเป็นเศรษฐกิจสังคมและการเมืองนั้นความร่วมมือของสถาบันการศึกษาและองค์กรใหญ่ๆในภาคธุรกิจถือเป็นกุญแจไขสู่ความสำเร็จเพราะนี่คือการสร้างรากฐานการศึกษาที่แข็งแรงให้กับเยาวชนเพื่อบ่มเพาะนักคิดนักวิจัยรุ่นใหม่กล้าคิดกล้าลงมือทำสร้างโลกใบใหม่ให้มั่นคงและยั่งยืน"

ปอร์โต เป็นเมืองที่มีมหาวิทยาลัยและสถาบันอุดมศึกษากว่า 45 สถาบัน เป็นศูนย์รวม Startup ที่ใหญ่ที่สุดในโปรตุเกส สำหรับ University of Porto เป็นมหาวิทยาลัยของรัฐที่มีขนาดใหญ่เป็นลำดับที่ 2 ของประเทศ เปิดทำการเรียนการสอนใน 14 คณะทั้งในระดับปริญญาตรีและบัณฑิตศึกษา มีจำนวนนักศึกษาทั้งสิ้นกว่า 34,000 คน โดยมีความเป็นเลิศทางด้านวิชาการและงานวิจัยของ University of Porto โดยเฉพาะอย่างยิ่งทางด้านวิทยาศาสตร์ที่อาจกล่าวได้ว่าจัดอยู่ในลำดับต้นๆ ของสหภาพยุโรป

ที่นี่มีส่วนที่เรียกว่า UPTEC-Science and Technology Park of University of Porto หรืออุทยานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของมหาวิทยาลัยปอร์โต แบ่งออกเป็น 3 เขตใหญ่ๆ 1.เขตนวัตกรรม Porto เป็นเขตที่เต็มไปด้วยความรู้ความสามารถด้านนวัตกรรมในยุโรป มีนักศึกษาและอาจารย์ผู้เชี่ยวชาญในสาขาวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และสิ่งแวดล้อม และมีศูนย์ R&D พร้อมทั้ง Lab การพัฒนาผลิตภัณฑ์ 2.เขตวัฒนธรรมศิลปะมีทั้ง Historic Center รวมทั้งพิพิธภัณฑ์ และ art galleries 3.ศาสตร์ทางทะเลและสิ่งแวดล้อม มีงานวิจัยกว่า 450 ชิ้น

หน้าที่หลักของ UPTEC สนับสนุนนวัตกรรม สนับสนุนการเติบโตของ Startup และการพัฒนาเครือข่ายนวัตกรรม พร้อมสร้างการทำงานร่วมกันกับสถาบัน R&D ให้คำปรึกษาเพื่อเพิ่มโอกาสด้านไอเดียทางธุรกิจ และเชื่อมโยงสู่เครือข่ายทั่วโลกสำหรับการเติบโตและการก้าวไปสู่ความเป็นสากล กลยุทธ์การเชื่อมโยงพาร์ตเนอร์: เน้นการสร้างระบบนิเวศ รวมพันธมิตรระดับโลกไว้มากมายทั้งในอุตสาหกรรม และการลงทุนร่วมกับบริษัทและสถาบันต่างๆ เช่น IBM, Amazon, Google Cloud ด้าน IP และการให้บริการด้านกฎหมาย ด้านการร่วมมือสร้างพันธมิตรกับหลายๆ บริษัทและสถาบันใน EU อนาคต: UPTEC มีเป้าหมายเป็น Science and Technology Park ในระดับโลก เพื่อช่วยให้เกิดการพัฒนาด้านเศรษฐกิจ ควบคู่ไปกับความโปร่งใส มีจริยธรรม และความยั่งยืน

โอกาสดูงานครั้งนี้ ผู้บริหาร ปตท.และบริษัทในเครือได้รับฟังการนำเสนอผลงาน ทั้งที่ลงมือปฏิบัติได้จริง สามารถบริการลูกค้าได้แล้ว และอยู่ในขั้นตอนของการศึกษาวิจัยของกลุ่ม Startup ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นโลกทัศน์และวิสัยทัศน์เพื่องานด้านพลังงานอนาคตที่น่าสนใจ และน่าติดตาม อาทิ

Bandora

บริษัท Startup ที่พัฒนาระบบอัตโนมัติภายในอาคาร หรือ Building Automation Systems (BAS) ซึ่งถูกคิดค้นขึ้นมาเพื่อทำให้การบริหารตึกและอาคาร ที่พัก สำนักงานและอาคารพาณิชย์ ให้เกิดประโยชน์มากที่สุดแก่เจ้าของตึก ด้วยความก้าวหน้าของนวัตกรรม ทำให้ Bandora สามารถประยุกต์และดัดแปลงความต้องการในการบริหารจัดการและบำรุงรักษาอาคารให้สัมพันธ์กับระบบอัตโนมัติภายในอาคาร ทำให้ “มองเห็น” “วิเคราะห์” และ “ควบคุมได้” ว่าอาคารจะต้องตอบโจทย์ความต้องการอะไรบ้าง มีผลให้สามารถบริหารงานอาคารได้สะดวกมากยิ่งขึ้น หัวใจสำคัญของระบบอัตโนมัติในอาคารคือ ความสามารถในการออกแบบการจัดเก็บและการประมวลผลข้อมูลที่เกิดขึ้นในทุกๆ มิติของระบบอาคาร ระบบ Bandora จะเข้าไปฝังตัวเพื่อเก็บข้อมูลในระบบของอาคาร เก็บไว้บน cloud และแสดงผลให้เข้าใจง่ายบน app มือถือและแผง dashboard ให้ผู้ใช้งานเข้าใจว่าข้อดีหรือจุดบกพร่องของอาคารมีอะไรบ้าง เพื่อการบริหารงานอาคารที่ง่ายและยั่งยืน ภายใต้คอนเซปต์ที่ว่า When smart is not enough นั่นคือ แค่สมาร์ทบิลดิง หรืออาคารอัจฉริยะแบบดั้งเดิมนั้นไม่เพียงพอแล้ว แต่ต้องตอบโจทย์ถึงขั้นเครื่องปรับอากาศจะเย็นมากหรือน้อยตามจำนวนคนในแต่ละห้องหรือแต่ละพื้นที่ เป็นต้น

Astrolabium

บริษัทที่เชี่ยวชาญในการพัฒนาและสร้าง software เพื่อการ “พยากรณ์เชิงปริมาณ” หรือการใช้ข้อมูลและสถิติมาต่อยอดเพื่อช่วยให้องค์กรหรือบริษัทสามารถใช้บริหารจัดการพลังงาน ตัวเลขทางบัญชี ระบบการขนส่ง และส่วนอื่นๆ ขององค์กร เพื่อลดความเสี่ยงหรือความไม่แน่นอนในการดำเนินธุรกิจ software ของ Astrolabium สามารถช่วยองค์กรในการตั้งราคา การประมาณตัวเลข การประเมินทรัพย์สิน ทรัพยากร ผลผลิตและยอดขาย เป็นต้น 

NET4CO2

เป็นห้องปฏิบัติการที่เกิดจากความร่วมมือหลายๆ องค์กรของโปรตุเกส ซึ่งเป็นองค์กรวิจัยและพัฒนาที่ไม่แสวงหาผลกำไร มุ่งเน้นการสร้างโซลูชันทางอุตสาหกรรมที่ยั่งยืนเพื่อตอบสนองต่อเป้าหมาย Green Deal ของยุโรปในเรื่องความเป็นกลางของสภาพภูมิอากาศในปี 2050 โดยเน้นการพัฒนานวัตกรรมการลดคาร์บอน เริ่มตั้งแต่คิดค้นการวิจัยไปจนถึงการตอบโจทย์ความต้องการของตลาด และเร่งนำโซลูชันที่แข่งขันได้สำหรับการจับ การใช้ และการจัดเก็บ CO2 ไปสู่โลกที่ยั่งยืน

หลังฟังการบรรยายโดยทีมงาน Startup ของ UPTEC นายกฤษณ์ อิ่มแสง ซีอีโอแห่งไออาร์พีซี แสดงความสนใจกับ Bandora เพราะตอบโจทย์การประหยัดพลังงานได้อย่างดี และมีผลลัพธ์ที่พิสูจน์ทราบแล้ว เห็นได้จาก Burger King ที่เป็นลูกค้ารายใหญ่ของ Bandora ในขณะที่ นายวุฒิกร สติฐิต ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการกลุ่มธุรกิจปิโตรเลียมขั้นต้นและก๊าซธรรมชาติของ ปตท. ให้ความสนใจ NET4CO2 เพราะเป็นทิศทางอนาคตที่ทั่วโลกต่างต้องเดินไปให้ถึง

อย่างไรก็ตาม การทำงานของ UPTEC สะท้อนว่า ทั้งมหาวิทยาลัยและองค์กรใหญ่ๆ ให้ความร่วมมือสนับสนุนการสร้างนวัตกรรมใหม่ๆ และสิ่งหนึ่งที่ขาดไม่ได้นั่นก็คือ การสร้างรากฐานการศึกษาที่แข็งแรงให้กับเยาวชน เพื่อบ่มเพาะนักคิดนักวิจัยรุ่นใหม่ และเป็นเรื่องที่น่ายินดีเป็นอย่างยิ่ง เพราะในเมืองไทยก็มีสถาบันการศึกษาชั้นนำที่สนับสนุนทางด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

โดย กลุ่ม ปตท.ได้เล็งเห็นถึงความสำคัญในเรื่องนี้ จึงได้มอบการพัฒนาด้านการศึกษาให้กับคนไทย บุกเบิกพื้นที่ให้เป็นศูนย์กลางด้านวิทยาศาสตร์และการวิจัย หรือที่รู้จักกันในชื่อ ‘วังจันทร์วัลเลย์’ ภายใต้โครงการนวัตกรรมระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (EECi)

หนึ่งในความพิเศษของพื้นที่นี้คือ สถาบันการศึกษาที่มุ่งเน้นด้านวิทยาศาสตร์และงานวิจัยโดยเฉพาะ โดยมีทั้งโรงเรียนมัธยมปลาย ‘กำเนิดวิทย์’ (KVIS) และมหาวิทยาลัยสำหรับปริญญาโทและเอกที่ชื่อ ‘สถาบันวิทยสิริเมธี’ (VISTEC)

โรงเรียนกำเนิดวิทย์ (KVIS) จัดการศึกษาให้กับผู้มีความสามารถพิเศษทางด้าน STEM (Science Technology Engineering Math) โดยมีเป้าหมายหลักคือ การก้าวสู่การเป็นโรงเรียนวิทยาศาสตร์คุณภาพชั้นนำเทียบเท่าระดับนานาชาติ มุ่งปลูกฝังและพัฒนานักเรียนสู่การเป็นนักวิทยาศาสตร์คุณภาพของประเทศ

ทางด้านสถาบันวิทยสิริเมธี ก็มุ่งเน้นงานวิจัยระดับแนวหน้า หรือที่เรียกว่า Frontier Research แบ่งเป็น 4 สำนักวิชา คือ สำนักวิชาวิทยาการพลังงาน, สำนักวิชาวิทยาการโมเลกุล, สำนักวิชาวิทยาศาสตร์และวิศวกรรมชีวโมเลกุล และสำนักวิชาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีสารสนเทศ โดยมีศูนย์วิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีชั้นแนวหน้า (Frontier Research Center; FRC) เพื่อช่วยสนับสนุนการดำเนินงานวิจัยต่างๆ

Future and Beyond ..ไม่ใช่เรื่องง่ายแต่ก็ไม่ใช่เรื่องยากโดยเฉพาะเมื่อองค์กรหลักหล่อเลี้ยงเศรษฐกิจของประเทศอย่างปตท.ได้คิดได้ลงมือทำและกำลังขับเคลื่อนต่อไปอย่างไม่หยุดยั้งปูพื้นฐานสร้างรากแก้วบนเส้นทางการศึกษาสู่อนาคตที่มั่นคงและยั่งยืน.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ไทยออยล์ได้รับการรับรองเป็นสมาชิก Dow Jones Sustainability Indices (DJSI) ประจำปี 2565ต่อเนื่องเป็นปีที่ 10 สะท้อนผลการดำเนินงานด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืนในระดับสากล

เมื่อเร็วๆ นี้ ไทยออยล์ได้รับการรับรองเป็นสมาชิก Dow Jones Sustainability Indices (DJSI) ประจำปี 2565 ต่อเนื่องเป็นปีที่ 10 จากการประเมินดัชนีความยั่งยืนของ S&P Global ผู้ให้บริการจัดอันดับความยั่งยืนระดับโลก

ปตท. ผนึก WHAUP - Sertis และ PEA ปลดล็อคซื้อขายไฟฟ้าเสรีสำหรับภาคอุตสาหกรรมครั้งแรก ในประเทศไทย ผ่าน Platform การซื้อขายไฟฟ้า “RENEX” จ่อประเดิมลูกค้า 23 ราย หนุนพอร์ตพลังงาน

บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ร่วมกับ บมจ. ดับบลิวเอชเอ ยูทิลิตี้ส์ แอนด์ พาวเวอร์ บริษัท เซอร์ทิส จำกัด และ การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค

ปตท. ส่งออน-ไอออนลุยตั้งปั๊มชาร์จอีวี ปักหมุดตึก Enco ก่อนขยายอีกพันเครื่อง

บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) (ปตท.) ส่ง อรุณ พลัส เปิดสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า ออน-ไอออน ณ ศูนย์เอนเนอร์ยี่ คอมเพล็กซ์ หรืออาคาร Enco อย่างเป็นทางการ