กพท.เดินหน้าเป้าหมายเป็นฮับการบินภูมิภาค มั่นใจปี67 เที่ยวบินฟื้นเท่าช่วงก่อนเกิดโควิด-19 ลุยจัดตารางบินเพิ่ม 15% ต่อสัปดาห์ ลุ้นปีนี้ผู้โดยสาร 127 ล้านคน 8.5 แสนเที่ยวบิน จับตาสงครามอิสราเอล-ฮามาส รวมถึงเศรษฐกิจในจีน กระทบการเดินทางเข้าไทยวูบ
31 ต.ค.2566-นายมนตรี เดชาสกุลสม ผู้ตรวจราชการกระทรวงคมนาคม รักษาราชการแทนรองปลัดกระทรวงคมนาคม เป็นประธานเปิดงานสัมมนาอุตสาหกรรม การบินของไทย ครั้งที่ 2 “กลับคืนน่านฟ้า มุ่งหน้าสู่อนาคต” ว่า รัฐบาลได้มีการกำหนดแผนการกระตุ้นเศรษฐกิจระยะสั้น ที่มุ่งเน้นถึงการปรับปรุงระบบคมนาคมให้เป็นประตูสู่ประเทศไทย ดังนั้นกระทรวงคมนาคมจึงได้มีนโยบายสำคัญด้านอุตสาหกรรมการบินเพื่อเพิ่มศักยภาพของท่าอากาศยานและการขนส่งทางอากาศ
สำหรับนโยบายการดำเนินงานของกระทรวงคมนาคม ด้านที่ 1 คมนาคม เปิดประตูการค้า การท่องเที่ยว สร้างการเป็นศูนย์กลาง (ฮับ) เพื่อการเชื่อมโยงการเดินทางทุกมิติ อาทิ การจัดสรรเวลาการบิน หรือ Slot ให้เพิ่มขึ้น 15% ต่อสัปดาห์ เพื่อตอบสนองต่อความต้องการการเดินทางที่เพิ่มมากขึ้น และเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจระยะสั้นที่มุ่งเน้นถึงการปรับปรุงระบบคมนาคมให้เป็นประตูสู่ประเทศไทย เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวที่เป็นอุตสาหกรรมสำคัญในการสร้างรายได้ให้กับประเทศ โดยเพิ่มขีดความสามารถของสนามบินทั่วประเทศให้สามารถรองรับผู้โดยสารและเที่ยวบินได้อย่างมีประสิทธิภาพ
“ได้มอบหมายให้ การบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) ไปศึกษาและกำหนดมาตรการเรื่องการใช้น้ำมันอากาศยานแบบยั่งยืน หรือ SAF เพื่อให้สอดคล้องกับมาตรฐานที่องค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ หรือ ICAO กำหนดการจัดงานในครั้งนี้จึงถือเป็นหนึ่งในเวทีสำคัญที่ให้ผู้ประกอบการด้านอุตสาหกรรมการบินได้มารับฟังแนวโน้มและการผลักดันของภาครัฐ รวมทั้งได้มีโอกาสในการนำเสนอข้อคิดเห็นต่างๆ ต่อกระทรวงคมนาคมต่อไป”นายมนตรี กล่าว
นอกจากนี้ กระทรวงคมนาคมยังให้ความสำคัญกับประเด็นของการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกและต้นทุนด้านพลังงาน ซึ่งได้มอบหมายให้ กพท. กรมท่าอากาศยาน(ทย.) และ บริษัทท่าอากาศยานไทย (จำกัด)มหาชน หรือ(ทอท.) ศึกษาและกำหนดมาตรการเรื่องการใช้น้ำมันอากาศยานแบบยั่งยืน หรือ SAF เพื่อให้สอดคล้องกับมาตรฐานที่องค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ กำหนด
ด้าน นายสุทธิพงษ์ คงพูล ผู้อำนวยการสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) กล่าวว่าอุตสาหกรรมการบินหลังจากสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลายลงทำให้ปัจจุบันมีปริมาณผู้โดยสาร และเที่ยวบินกลับมาแล้วอยู่ที่ประมาณ 90% เมื่อเทียบกับช่วงก่อนเกิดการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 เมื่อปี 2562 โดยคาดว่าสิ้นปี 2566 ผู้โดยสารอยู่ที่ประมาณ 127 ล้านคน ส่วนเที่ยวบินคาดว่าอยู่ที่ประมาณ 8.5 แสนเที่ยวบิน
ขณะที่ปี 2567 คาดว่าปริมาณผู้โดยสาร และเที่ยวบิน จะกลับมาปกติ หรือสูงกว่าปี 2562 เล็กน้อย ทั้งนี้เที่ยวบินปี 2562 อยู่ที่ประมาณ 1.07 ล้านเที่ยวบิน และผู้โดยสารอยู่ที่ประมาณ 160 ล้านคน ส่วนปี 2567 คาดว่าผู้โดยสารอยู่ที่ประมาณ 162 ล้านคน และเที่ยวบินอยู่ที่ประมาณ 1.07 ล้านเที่ยวบิน โดยเที่ยวบินอาจจะโตเพิ่มไม่มากนัก เนื่องจากสายการบินใช้เครื่องบินขนาดใหญ่ที่รองรับผู้โดยสารได้มากขึ้น
นายสุทธิพงษ์ กล่าวว่า สำหรับตัวเลขคาดการณ์ปริมาณผู้โดยสารในปี 2566 คาดว่ามีปริมาณผู้โดยสารระหว่างประเทศ ประมาณ 63.03 ล้านคน ผู้โดยสารในประเทศ ประมาณ 64.43 ล้านคน ส่วนคาดการณ์ผู้โดยสารในปี 2567 ปริมาณผู้โดยสารระหว่างประเทศ ประมาณ 88.62 ล้านคน และผู้โดยสารในประเทศ ประมาณ 74.05 ล้านคน
“ขณะเดียวกันต้องจับตาดูสถานการณ์สงครามอิสราเอล-ฮามาส รวมถึงจีนที่มีปัญหาเศรษฐกิจในแระเทศ และยังมีความวิตกกังวลกับสวัสดิภาพในการเดินทางมาท่องเที่ยวในไทยหลังจากเกิดเหตุการณ์ที่สยามพารากอน ซึ่งเรื่องเหล่านี้ต้องมีการประชาสัมพันธ์ให้เกิดความมั่นใจกับนักท่องเที่ยวจีน เชื่อว่าหากแก้ไขเรื่องเหล่านี้ได้ นักท่องเที่ยวจีนจะกลับเข้ามาอย่างแน่นอน แต่ตอนนี้จะมุ่งเป้าหมายไปที่ประเทศอินเดียก่อนเนื่องจากมีการเติบโตอย่างก้าวกระโดด” นายสุทธิพงษ์ กล่าว
นายสุทธิพงษ์ กล่าวว่า ปัจจุบันพบว่ามีจำนวนเที่ยวบินที่บินมาไทย อยู่อันดับที่ 5 จำนวน 8.14 พันเที่ยวบิน ระหว่างเดือนมกราคม-สิงหาคม 2566 ขณะเดียวกันมีจำนวนนักท่องเที่ยวเดินทางจากอินเดียเข้าไทยในช่วงดังกล่าวเป็นอันดับที่ 3 จำนวน 1.02 ล้านคน เมื่อเทียบกับช่วงปี 2562 หรือช่วงก่อนเกิดโควิด-19 อยู่ที่ 1.96 ล้านคน ขณะที่สมาคมขนส่งทางอากาศระหว่างประเทศ (ไออาต้า) คาดการณ์ว่าตลาดอินเดียที่เดินทางด้วยอากาศยานจะโตอย่างก้าวกระโดด จากอันดับที่ 7 ของโลกในปี 2559 ขยับขึ้นเป็นอันดับที่ 3 ของโลก ในปี 2569
นายสุทธิพงษ์ กล่าวว่า กพท. อยู่ระหว่างเจรจาขอเพิ่มสิทธิการบินระหว่างไทย-อินเดีย เนื่องจากปัจจุบันสลอตอินเดียที่ไทยมีอยู่เต็มแล้ว ขณะที่ความต้องการการเดินทางค่อนข้างสูง และสายการบินส่วนใหญ่ยังต้องการทำการบินไปยังเมืองหลักของอินเดีย คาดว่าในเร็วๆ นี้ จะได้ข้อสรุปเรื่องเพิ่มสิทธิการบิน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
"มนตรี เดชาสกุลสม" ปักหมุดภารกิจเร่งด่วน เชื่อมโครงข่ายถนนยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชน
หลังจาก “มนตรี เดชาสกุลสม” เข้ารับตำแหน่งอธิบดีกรมทางหลวงชนบท (ทช.) คนที่ 11 อย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 1 ต.ค.ที่ผ่านมา ได้มอบนโยบายการดำเนินงานให้แก่บุคลากรกรมทางหลวงชนบท
ทช.ชวนชมไฟประดับสะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาในวันลอยกระทง
‘กรมทางหลวงชนบท‘ชวนประชาชนร่วมสืบสานประเพณีลอยกระทง พร้อมชมทัศนียภาพไฟประดับสะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา ในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล ในวันศุกร์ที่ 15พ.ย.นี้
นายกฯ ปลื้มยอดผู้โดยสารใช้บริการสนามบินเกือบ 120 ล้านคน
นายกฯ ปลื้มยอดผู้โดยสารใช้บริการท่าอากาศยาน 6 แห่ง เกือบ 120 ล้านคนในปีงบประมาณ 2567 พร้อมเปิดใช้งานเช็กอินระบบ Biometric นำร่องผู้โดยสารในประเทศก่อนเริ่ม 1 พ.ย.นี้
จับตา 22 ต.ค.นี้ชง ครม. เคาะตั้งประธานบอร์ด รฟม.
“คมนาคม” ชง ครม. เคาะตั้ง “มนตรี เดชาสกุลสม” นั่งเก้าอี้ประธานบอร์ด รฟม. พร้อมกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิอีก 4 ราย เดินหน้าต่ออายุมาตรการรถไฟฟ้า 20 บาท ขณะที่ “รฟม.” พร้อมชงบอร์ดชุดใหม่อนุมัติขยายสีม่วง 20 บาทต่ออีก 1 ปีทันที
'ภูเก็ต' ท่วมหนัก! สนามบินแจ้งเตือน เผื่อเวลาเดินทาง 3-4 ชม.
ภายหลังฝนตกหนัก ตั้งแต่คืนวันที่ 18 ส.ค. ต่อเนื่องถึงเช้าวันที่ 19 ส.ค. ทำให้หลายพื้นที่ในจังหวัดภูเก็ตเกิดน้ำท่วมขังรอระบาย ในพื้นที่อำเภอถลาง