"ภูมิธรรม" เตรียมชง นบข. พิจารณา 4 มาตรการรักษาเสถียรภาพราคาข้าวเปลือกเเละช่วยเหลือพี่น้องเกษตรกร ปี 66/67  

28 ต.ค. 2566 – นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังลงพื้นที่พบปะกับเกษตรกรผู้ปลูกข้าว สหกรณ์การเกษตรเพื่อการตลาดลูกค้า ธ.ก.ส. อุดรธานี จำกัด จ.อุดรธานี ว่า ตลอดเวลาที่ผ่านมาได้ติดตามสถานการณ์ผลผลิตเเละราคาข้าวเปลือกมาโดยตลอดเเละได้รับฟังเสียงสะท้อนจากพี่น้องเกษตรกรเรื่องเสถียรภาพราคาข้าวเเละได้สั่งการกระทรวงพาณิชย์ โดยกรมการค้าภายในให้เร่งดำเนินการเเก้ไขปัญหาเสถียรภาพราคาข้าวโดยด่วนเพื่อตอบสนองต่อความต้องการเเละความเป็นอยู่ของพี่น้องเกษตรกร

ทั้งนี้ ได้รับฟังความคิดเห็นข้อเสนอแนะจากเกษตรกร โรงสี เเละผู้ส่งออกเพื่อนำข้อมูลไปพิจารณาเพื่อจัดทำมาตรการบริหารจัดการข้าวเปลือกนาปี 2566/67 ที่จะออกสู่ตลาดมากตั้งแต่ช่วงเดือนพฤศจิกายน 2566 นี้เป็นต้นไป เพื่อช่วยดูแลเสถียรภาพราคาข้าวให้กับเกษตรกร

โดยจากการรับฟังความคิดเห็นทั้งจากเกษตรกร โรงสี ผู้ส่งออก ได้มีข้อเสนอเพื่อจัดทำมาตรการรักษาเสถียรภาพราคาข้าวเปลือก โดยทุกภาคส่วนเห็นว่าควรดำเนินมาตรการสำหรับปีการผลิต 2566/67 จำนวน 4 โครงการ ได้แก่

1. การเก็บสต๊อกเกษตรกรและสหกรณ์เพื่อชะลอข้าวเปลือก เป้าหมาย 3 ล้านตัน โดยช่วย 1,500 บาท/ตัน ในกรณีเข้าร่วมกับสหกรณ์ สหกรณ์รับ 1,000 บาท/ตัน เกษตรกรรับ 500 บาท/ตัน เก็บข้าวไว้ในยุ้งฉาง 1–5 เดือน และให้นำออกขายเมื่อข้าวราคาดี

2. ผู้ประกอบการเก็บสต๊อก เป้าหมาย 10 ล้านตัน ช่วยดอกเบี้ย 4% เก็บสต๊อก 2–6 เดือน

3. สินเชื่อรวบรวมข้าวเปลือก เป้าหมาย 1 ล้านตัน โดยช่วยดอกเบี้ย 15 เดือน ในอัตรา 3.85% สหกรณ์เสียดอกเบี้ย 1%

4. ช่วยลดต้นทุนการผลิต หรือค่าเก็บเกี่ยวไร่ละ 1,000 บาท ไม่เกิน 20 ไร่ หรือ ครัวเรือนละ 20,000 บาท

โดยจะได้นำเสนอคณะกรรมการนโยบายและบริหารข้าวแห่งชาติ (นบข.) ในวันที่ 1 พฤศจิกายน 2566  ซึ่งมีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน และเร่งนำเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ซึ่งคาดว่ามาตรการที่ให้เกษตรกร สหกรณ์ และให้ผู้ประกอบการช่วยเก็บสต๊อกและเสริมสภาพคล่องจะทำให้ราคาข้าวเปลือกในฤดูกาลนี้มีเสถียรภาพมากยิ่งขึ้น

นายภูมิธรรม กล่าวว่า ยังได้ใช้โอกาสนี้ติดตามการดำเนินโครงการ “พาณิชย์สั่งลุย ลดราคาปุ๋ย” ณ จังหวัดอุดรธานี โดยมีสถาบันเกษตรกรที่สั่งซื้อปุ๋ยในโครงการในล็อตแรก ที่จะส่งมอบระหว่างเดือนตุลาคม-ธันวาคม นี้ จำนวน 4 แห่ง ได้แก่ 1.สหกรณ์การเกษตรเพื่อการตลาดลูกค้า ธ.ก.ส.อุดรธานี 2.สหกรณ์การเกษตรปฏิรูปที่ดินบ้านน้ำพ่น 3.สหกรณ์การเกษตรหนองวัวซอ และ 4.สหกรณ์การเกษตรกุดจับ ปริมาณปุ๋ยรวม 1,200 กระสอบ ซึ่งได้มีการรับมอบและส่งมอบในเดือนตุลาคมและพฤศจิกายน เป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยโครงการนี้จะยังคงแซงต่อไปจนถึงสิ้นสุดเดือนธันวาคม ซึ่งช่วยให้เกษตรกรสามารถลดต้นทุนค่าปุ๋ยไปได้สูงสุดกระสอบละ 50 บาท

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

รัฐบาลยันผู้ปลูกมันสำปะหลังไม่ถูกกดราคาแน่

รัฐบาลให้ความเชื่อมั่นผู้ปลูกมันสำปะหลัง เตือนพ่อค้ากดราคา โทษจำคุกสูงสุด 7 ปี จัดสายตรวจเฉพาะกิจ ลงพื้นที่ตรวจสอบการซื้อขายมันฯ ในแหล่งเพาะปลูกทั่วประเทศ รับฤดูเก็บเกี่ยวที่จะเริ่ม ธ.ค.นี้

'ทักษิณ' กลับสู่สนามการเมือง 100 % ถ้าเป็นฟุตบอลก็ในฐานะเจ้าของทีม ชอบเอาเปรียบคู่ต่อสู้

นายพิชิต ไชยมงคล แกนนำเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศ (คปท.) โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า

‘พาณิชย์’ ชวนคนหาดใหญ่ สงขลา และจังหวัดใกล้เคียงแวะไป ชม ชิม ชอป ในงานแฟรนไชส์สร้างอาชีพ Roadshow 2024 ครั้งที่ 3 ระหว่างวันที่ 14 -18 พย.นี้ ที่เซ็นทรัลหาดใหญ่

ตามที่รัฐบาลมีนโยบายดำเนินโครงการฟื้นฟูเศรษฐกิจ "ลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ และขยายโอกาส" ให้ผู้ประกอบการ และประชาชนกลับมาคึกคักอีกครั้ง โดยให้ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องการกระตุ้นและสนับสนุนประชาชนในทุกมิติ เน้น 3 เรื่องหลัก ได้แก่ การลดต้นทุน การเพิ่มพื้นที่ค้าขายให้ผู้ประกอบการรายเล็ก และ