22 ต.ค. 2566 – นายชนินทร์ รุ่งแสง ผู้ช่วยเลขาธิการและ กรรมการบริหาร พรรคประชาธิปัตย์ อดีต ประธานกรรมธิการ การพัฒนาเศรษฐกิจ สภาผู้แทนราษฎร โพสต์เฟสบุ๊กส่วนตัวระบุว่า เป็นห่วงลูกหนี้เสี่ยงแบกภาระดอกเบี้ยสูงขึ้น หลังโลกจับตาแจก “ดิจิทัลวอลเล็ต” หากเสถียรภาพคลังแย่โดนลดความน่าเชื่อถือแน่ แนะ ถ้าจำเป็นต้องทำ แจกให้ถูกคน หนุนใช้แอพเป๋าตังของเดิม ไม่ต้องเสียเงินทำระบบใหม่ให้สิ้นเปลืองแถมเสี่ยงทุจริต วัดใจนายกฯ จะเดินหน้าหรือถอยเพื่อชาติ
โครงการแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต มูลค่า 5.6 แสนล้านบาท ว่า ซึ่งล่าสุดมีข่าวว่าการประชุมคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนนโยบายนี้ไปต่อไม่ได้ เพราะมีหลายหน่วยงานราชการมีความเห็นในที่ประชุมไม่สอดคล้องกับนโยบาย ซึ่งมีการแสดงออกในที่ประชุมโดยเฉพาะอย่างยิ่งหลายคนกลัวมีความผิดในอนาคต ถ้าหากโครงการมีการตรวจสอบและฟ้องร้องต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) หรือหน่วยงานองค์กรตรวจสอบอื่น รัฐบาลควรนำความเห็นจากหน่วยงานในที่ประชุมไปพิจารณาหรือเปิดเผยต่อสาธารณะด้วย เพื่อความรอบคอบจากทุกๆคนที่ติดตาม จะได้มีข้อมูลความเห็นอย่างตรงไปตรงมา
ที่สำคัญขณะนี้ไอเอ็มเอฟปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจไทยในปี 2566 ลงเหลือ 2.7% จากเดิมที่ระดับ 3.4% และได้ปรับลดคาดการณ์จีดีพีไทยในปี 2567 ลงสู่ระดับ 3.2% จากระดับ 3.6% โดยระบุถึงความไม่แน่นอนที่เกิดขึ้นทั่วโลก รวมถึงการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีน และความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลกับปาเลสไตน์ อีกทั้งสถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือ Fitch และ Moody’s มีสมมติฐานว่าภาครัฐจะคงสัดส่วนหนี้ต่อจีดีพี ได้ในระยะถัดไป แต่ระบุชัดเจนว่าหากเสถียรภาพทางการคลังแย่ลงจากที่ประเมินไว้มาก ก็จะเป็นสาเหตุให้ปรับลดระดับความน่าเชื่อถือ (Credit Rating) ลงได้
นอกจากนี้ ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) ทำรายงานออกมาว่าเรามีความเสี่ยงด้านเสถียรภาพระบบการเงิน ทำให้ต้องติดตามความสามารถในการชำระหนี้ของครัวเรือนและธุรกิจกลุ่มที่เปราะบางที่ลดลง ซึ่งอาจนำไปสู่หนี้เสียหรือเอ็นพีแอลที่เพิ่มสูงขึ้นได้ ประกอบกับหน่วยงานต่างๆ นักวิชาการ นักเศรษฐศาสตร์คาดว่าตัวคูณทางการคลังของโครงการแจกเงินดิจิตอลนี้อยู่ที่ราว 0.3-0.9 สะท้อนการใช้เงินที่ไม่มีประสิทธิภาพ และจะทำให้หนี้สาธารณะต่อจีดีพีเพิ่มสูงขึ้นในระยะยาว ดังนั้น ไทยจึงมีความเสี่ยงมากขึ้นที่จะโดนลดระดับความน่าเชื่อถือ หากมีการใช้ดิจิทัลวอลเล็ตแล้วไม่ได้ผลมากตามรัฐบาลประเมินไว้ หากโดนลดเกรดจริงๆ อาจทำให้ต้นทุนการกู้ยืมของประเทศและภาคเอกชนสูงขึ้น นักลงทุนสูญเสียความมั่นใจ ส่งผลให้การลงทุนในประเทศลดลงทั้งในเศรษฐกิจจริงและตลาดทุน
“ด้วยเหตุนี้ผมรู้สึกเป็นห่วงลูกหนี้ภาคครัวเรือนซึ่งธนาคารแห่งประเทศไทยระบุว่ามีมูลหนี้ประมาณ 16 ล้านล้าน ซึ่งคนเป็นหนี้คือหนึ่งส่วนสามของประชากรประเทศ หรือ25 ล้านคน ที่ส่วนใหญ่คือรากหญ้าหาเข้ากินค่ำ จะมีความเสี่ยงแบกรับภาระดอกเบี้ยที่เพิ่มสูงขึ้นจากความล้มเหลว และผลกระทบของนโยบายแจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท เพราะมีข้อมูลวิจัยของนักวิชาการออกมาทักท้วงแล้วว่าเงินจะหมุนในระบบเศรษฐกิจไม่ถึง 1 รอบ ซึ่งวิเคราะห์แล้วว่าลูกหนี้รายย่อยรากหญ้ามีโอกาสแบกภาระดอกเบี้ยเพิ่มขึ้นในอนาคต จากนโยบายแจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท”
ถ้าในทางการเมืองจำเป็นต้องทำโครงการ แนะนำว่าต้องแจกให้ถูกคน กำหนดการใช้จ่ายให้ชัดเจนกระจายถึงตรงต่อเศรษฐกิจฐานรากจริงๆ ที่สำคัญไม่ต้องใช้งบประมาณลงทุนทำบล็อกเชนหรือแพลทฟอร์มใหม่ เพราะไม่จำเป็น และเป็นความสิ้นเปลือง อีกทั้งอาจจะเสี่ยงกับการทุจริตในการจัดจ้างจัดซื้อได้ ควรใช้แพลตฟอร์มเก่า เช่น เป๋าตังของธนาคารกรุงไทยที่มีอยู่แล้วทำให้สมบูรณ์และเหมาะสมกับโครงการได้ การเหวี่ยงแหแจก เสี่ยงที่เงินจะไม่หมุนเวียน เพราะคนมีฐานะดีก็จะไม่ใช้จ่ายทันทีหรือนำเงินแจกไปใช้จ่ายกับสิ่งที่ไม่จำเป็นตรงกำกับวัตถุประสงค์โครงการ
การที่รัฐบาลยืนยันเดินหน้าทำนโยบายนี้ต่อนั้น ไม่ผิด เพราะรักษาคำพูดต่อประชาชน เป็นนักการเมืองที่ดีมีอุดมการณ์ แต่อย่าละทิ้งสิ่งสำคัญที่สุด คือผลประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชนที่ยั่งยืน ก็ขอให้นายกฯลองเลือกเดินได้ ระหว่างจะถอยเพื่อชาติ หรือเดินหน้ารักษาคำพูดเพื่อตัวเองและพรรคเพื่อไทย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'จุรินทร์' ยึดหลัก 4 ข้อ โหวตแก้รธน. เชื่อ สว. ลงมติมีเหตุผลอยู่แล้ว
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ สส. บัญชีรายชื่อ อดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงอุปสรรคในการแก้ไขรัฐธรรมนูญที่ประธานรัฐสภา จะบรรจุเข้าสู่ระเบียบวาระการประชุมร่วมรัฐสภา
'ชวน' อวยพรคนไทยให้เข้มแข็งด้วยตัวเองอย่ารอแค่เงินแจก
'ชวน' อวยพรคนไทยประสบความสำเร็จ ย้ำต้องเข้มแข็งช่วยเหลือตัวเอง ไม่รอเงินแจก
'ชวน' นำคนตรังทำบุญตักบาตรวันขึ้นปีใหม่
อดีตนายกฯ ชวน ร่วมทำบุญตักบาตร เนื่องในวันขึ้นปีใหม่ 2568 ร่วมด้วยประชาชน พร้อมอวยพรให้คนตรังอยู่ดีมีสุข ร่วมกันรักษาสิ่งแวดล้อม
'เทพไท' เตือน 'ทักษิณ' ฟังคำแนะนำ 'นายหัวชวน' ก่อนซ้ำรอยไม่มีแผ่นดินอยู่
นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราช โพสต์คลิปพร้อมเนื้อหาบนเฟซบุ๊ก
‘จุรินทร์' ชี้รัฐบาลอยู่นานหรือไม่ขึ้นอยู่กับ 4 ปัจจัย
”จุรินทร์“ ชี้รัฐบาลยังมีเสถียรภาพเพราะเสียงมาก แต่อยู่ได้นานแค่ไหนขึ้นกับ 4 ปัจจัย
‘ชวน’ ร่อนหนังสือถึงผู้ตรวจฯ-กกต.แก้ปมผู้บริหารท้องถิ่นลาออกก่อนครบวาระ
นายชวน หลีกภัย สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ เปิดเผยว่าตนพร้อมด้วยนายบัญญัติ บรรทัดฐาน และนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ สส.บัญชีรายชื่อพรรคประชาธิปัตย์ ได้ทำหนังสือถึงประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน เรื่องการจัดการเลือกตั้งสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด และนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด(อบจ.)