“คลัง” สั่งทีมเกาะติดสถานการณ์สงครามอิสราเอล-ฮามาส แจงไม่ติดหากรัฐบาลลดภาษีน้ำมันเบนซินดูแลประชาชน หลังปิดหีบปีงบ 2566 รายได้อู้ฟู่ ชี้หุ้นดิ่งเพราะส่วนต่างดอกเบี้ย แต่พร้อมปลุกความมั่นใจตลาด ย้ำไม่มีมาตรการเสริม-แทรกแซง
20 ต.ค. 2566 – นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง เปิดเผยว่า ได้สั่งการให้สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ศึกษาผลกระทบจากสงครามระหว่างอิสราเอล-ฮามาส ซึ่งมีข้อเป็นห่วงว่าจากสถานการณ์ดังกล่าว 1.ภาวะสงครามจะมีความยืดเยื้อหรือไม่ 2.สงครามจะลุกลามหรือไม่ และ 3.เสถียรภาพราคาพลังงานของโลกจะเป็นอย่างไร ซึ่งทั้งหมดก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทยในระดับหนึ่ง จากสภาพเศรษฐกิจไทยที่มองว่ายังมีความเปราะบางพอสมควร
ทั้งนี้ มีการระบุว่าที่ผ่านมาการบริโภคภายในประเทศเริ่มมีการฟื้นตัวแล้ว แต่เมื่อพิจารณาจากเศรษฐกิจสหรัฐ ที่มีการฟื้นตัวแบบร้อนแรง มีการขึ้นดอกเบี้ยห่างจากไทยไปมากกว่า 2 บาท ขณะที่คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ก็มีการปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายต่อเนื่องมาอยู่ที่ 2.50% ต่อปี หลังจากปรับแล้วอัตราเงินเฟ้อยังอยู่ที่ 0.3-0.5% ในช่วง 6-7 เดือนที่ผ่านมา โดยเศรษฐกิจโลกกำลังโต แต่ก็เห็นสัญญาณแปลก ๆ ว่าเศรษฐกิจไทยกลับอยู่ในช่วงชะลอตัว
รมช.คลัง กล่าวว่า สำหรับข้อเสนอที่ให้ลดภาษีน้ำมันเบนซินเพื่อลดภาระค่าครองชีพให้ประชาชนนั้น แม้ว่าจะกระทบต่อการจัดเก็บรายได้ไปบ้าง แต่ถ้ามีความจำเป็นก็สามารถบริหารจัดการได้ โดยในปีงบประมาณ 2566 ก็สามารถจัดเก็บได้เกินเป้าหมายไปแล้วระดับหนึ่ง ดังนั้นจึงมองว่าไม่มีผลกระทบอะไรมาก
ส่วนกรณีที่ดัชนีตลาดหุ้นไทยปรับตัวลดลงมากในช่วงที่ผ่านมา ก็ได้ติดตามอย่างใกล้ชิด ตนในฐานะ รมช.คลัง คงทำอะไรไม่ได้มาก เพราะไม่ได้กำกับดูแลโดยตรง แต่ก็ได้ติดตามใกล้ชิด และไม่เข้าไปแทรกแซง ไม่ได้มีมาตรการเพิ่มเติม ซึ่งเข้าใจว่าที่หุ้นลดลง เป็นเพราะส่วนต่างดอกเบี้ยสหรัฐกับไทย ส่งผลให้เงินทุนไหลทั้งตลาดหุ้นและตลาดพันธบัตร และผลกระทบหลักจากปัจจัยเรื่องสงคราม
“ที่ผ่านมานายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและ รมว.คลัง ได้เร่งเดินสายต่างประเทศ และให้ความสำคัญภูมิรัฐศาสตร์ มีการพูดคุยทั้งกับรัฐบาลประเทศต่าง ๆ และ นักลงทุน โดยพยายามดึงการลงทุนและสร้างความมั่นใจให้กับประเทศ หลังจากที่ผ่านมาเราสูญเสียความสามารถในการแข่งขันมานาน ส่วนข้อกฎหมายต่าง ๆ ที่นักลงทุนเป็นกังวล เมื่อได้ข้อสรุปทั้งหมดก็จะประกาศชัดเจน และยืนยันว่ารัฐบาลจะยึดมั่นในกรอบกฎหมาย วินัยการเงินการคลัง ไม่ให้กระทบตลาดทุนมากนัก” นายจุลพันธ์ กล่าว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
แย้มข่าวดี! รัฐจ่ออัดของขวัญปีใหม่
“จุลพันธ์” แย้มข่าวดีรัฐบาลเตรียมอัดมาตรการของขวัญปีใหม่ ชูปลุกจับจ่ายใช้สอย พร้อมยันคนแก่ได้แน่เงิน 10,000 บาท การันตีไม่เกิน ม.ค. 2568 ฟุ้งไทยติดท็อป 1 ใน 20 ประเทศลุยรีดภาษีนิติบุคคลบริษัทข้ามชาติไม่เกิน 15% ฝันดูดเม็ดเงินลงทุนกระหึ่ม ดันรายได้รัฐพุ่งปีละ 1 หมื่นล้านบาท