เอาแล้ว! ส่อแววเลื่อนแจกดิจิทัลวอลเล็ต

ส่อแววเลื่อนแจกดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท หลังยังไม่ได้ข้อสรุปแหล่งเงิน-เกณฑ์คนรับสิทธิ์ “จุลพันธ์” ยันไม่เกินไตรมาส 1/67 แจงไม่ห่วงซ้ำรอยโครงการจำนำข้าว การันตีดำเนินการทุกขั้นตอนภายใต้กรอบกฎหมายเข้มข้น พร้อมคลายล็อกใช้จ่ายไม่เกิน 4 กิโลเมตร ชงตัวเลือก ตำบล-อำเภอ-จังหวัด

19 ต.ค. 2566 – นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง กล่าวว่า ได้เลื่อนการประชุมคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนโครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่านดิจิทัลวอลเล็ต ในวันที่ 19 ต.ค. 2566 ออกไป เนื่องจากพบว่ายังมีอีกหลายปัญหาที่ยังไม่มีข้อสรุปที่ชัดเจน ซึ่งเป็นเรื่องที่เข้าใจได้ โดยจะมีการประชุมอีกครั้งในวันที่ 24 ต.ค. นี้ ซึ่งหากได้ข้อสรุปทั้งหมดก็จะเร่งเสนอให้คณะกรรมการขับเคลื่อนแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาทพิจารณาทันที ส่วนจุดใดที่ยังติดขัดก็จะทำเป็นทางเลือกให้คณะกรรมการชุดใหญ่พิจารณา

ทั้งนี้ ยอมรับว่ามีความเป็นห่วงเรื่องกรอบระยะเวลาของโครงการ ซึ่งโจทย์ที่นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง วางไว้คือ 1 ก.พ. 2567 โดยเรียนตามตรงว่า เป็นเวลาที่ค่อนข้างตึง และไม่ง่าย ดังนั้นหากมีความจำเป็นต้องเลื่อน ก็ต้องเลื่อน เชื่อว่านายกรัฐมนตรีจะไม่ติดใจในประเด็นนี้ หากเป็นการเลื่อนด้วยเหตุผลที่เหมาะสม และมีความจำเป็นจริง ๆ

“ไม่ได้หมายความว่าเราจะเลื่อนจากกรอบเวลา 1 ก.พ. 2567 แต่หมายความว่าสุดท้ายแล้วถ้าแอปพลิเคชันที่จะใช้ในการดำเนินการ จำเป็นต้องใช้เวลาในการพัฒนา และสิ่งสำคัญที่ต้องดูคือเรื่องความปลอดภัยของข้อมูล ความมั่นคงของตัวระบบ ดังนั้นถ้าจะเอาเรื่องพวกนี้มาแลกกับเวลาคงไม่ได้ เราอยู่อยู่แล้วว่ากระบวนการทำแอปพลิเคชัน สิ่งที่ใช้เวลานานที่สุดคือการทดสอบระบบ ทดสอบการโดนโจมตี ผมจะซื้อเวลาพวกนี้ไม่ได้เลย ถ้ามันมีความจำเป็นเท่าไหร่ก็ต้องเท่านั้น แต่ต้องตอบให้ได้ว่าช้าเพราะอะไร แต่ก็มีเดทไลน์ไว้ว่าจะต้องไม่เกินไตรมาส 1/2567” นายจุลพันธ์ กล่าว

นายจุลพันธ์ กล่าวอีกว่า ขณะนี้ยังต้องหารือในหลายประเด็น ทั้งเรื่องแหล่งเงิน ซึ่งมีการหารือกัน แต่ยังสรุปไม่ได้ ไม่ใช่ไม่มีข้อสรุป โดยเพดานของโครงการ อยู่ที่ 5.48 แสนล้านบาท ซึ่งสุดท้ายต้องมาหารือกับคณะทำงานว่าจะมีการกำหนดกรอบผู้ได้รับสิทธิ์อย่างไร จำเป็นจะต้องตัดคนรวยไหม เพราะมีทั้งข้อเสนอให้ตัด และไม่ให้ตัด รวมถึงมีข้อเสนอให้จ่ายเป็นเฟส ตรงนี้ก็ถือเป็นแนวทางหนึ่งที่ต้องนำมาพิจารณา แต่ยังไม่ได้มีการสรุป ดังนั้นสุดท้ายแล้วว่าจะใช้เงินเท่าไหร่ คนเท่าไหร่ ก็ยังตอบไม่ได้ ไม่มีคำตอบที่เป็นวิทยาศาสตร์

โดยรัฐบาลยังยืนยันว่า นโยบายนี้เป็นกลไกในการกระตุ้นเศรษฐกิจ ไม่ใช่การสงเคราะห์ ไม่ใช่นโยบายช่วยเหลือคนยากจน ดังนั้นต้องให้มีเม็ดเงินมากเพียงพอที่จะมีผลกับการกระตุ้นเศรษฐกิจให้ฟื้นกลับมาในระดับที่เต็มศักยภาพ เพราะที่ผ่านมาเห็นการเติบโตที่ต่ำมาโดยตลอด มีการปรับลดคาดการณ์จีดีพีลงอย่างต่อเนื่อง เหลือ 2.6-2.8% หากรัฐบาลไม่ทำอะไร ปล่อยไว้ หลายส่วนก็คาดว่าจีดีพีอาจจะต่ำไปกว่านี้ แต่ตอนนี้รัฐบาลมีหลายนโยบายออกมา ทั้งเรื่องกระตุ้นการท่องเที่ยว ลดราคาพลังงาน ทำให้ทุกฝ่ายมั่นใจมากขึ้น ด้วยกลไกที่รัฐบาลทำระดับนี้ และเศรษฐกิจไทยที่ยังมีช่องว่างในการเติบโตได้อีก จึงมองว่ากลไกการกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งนี้จะเป็นจุดหนึ่งที่ช่วยจุดประกายให้เศรษฐกิจอยู่ในช่วงขาขึ้น หลังจากนั้นรัฐบาลจะมีนโยบายอื่น ๆ ประกอบตามมา เพื่อให้การเติบโตเป็นไปได้ตามเป้าหมายที่เฉลี่ย 5%

“ถามว่าหากมีการกำหนดกรอบ หรือเกณฑ์ของผู้ได้รับสิทธิ์ในโครงการ ก็ยอมรับว่าอาจจะขัดกับนโยบายที่ได้เสนอไว้ตอนหาเสียงว่าจะจ่ายให้ทุกคนที่อายุตั้งแต่ 16 ปีขึ้นไป แต่อย่างไรก็ตามขณะนี้เป็นรัฐบาลผสม นโยบายบางข้อต้องมาพูดคุยเพื่อหาข้อสรุป จะยืนแข็งเป็นหินคงทำไม่ได้ ต้องมีจุดร่วมที่เหมาะสม เพราะตอนแรกยังไม่แน่ใจว่าพรรคเพื่อไทยจะเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล แต่เมื่อชัดเจนแล้วว่ามีการเดินหน้าโครงการการ ก็มีคนออกมาตั้งข้อสังเกต รัฐบาลก็พร้อมรับฟัง และนำมาปรับในสิ่งที่เหมาะสม” นายจุลพันธ์ กล่าว

ส่วนที่หลายฝ่ายมองว่าจะซ้ำรอยโครงการรับจำนำข้าวหรือไม่นั้น ผมไม่กังวล เพราะมั่นใจว่านโยบายนี้ไม่มีการทุจริต คอร์รัปชั่น โดยเฉพาะตัวผม ผมมั่นใจมากกว่าไม่มี เราแค่ต้องดูให้รอบคอบ รัดกุม ปฏิบัติตามกฎหมายทุกระดับอย่างเคร่งครัด มีกลไกในการตรวจสอบติดตาม ทั้งในส่วนนโยบายและการใช้จ่ายจริง หากไม่ได้มีการใช้จ่ายจริง โดยเป็นการแลกสิทธิ์เป็นเงินสด ก็มีกระบวนการติดตามตรวจสอบและดำเนินคดีได้อย่างครบถ้วน

สำหรับประเด็นเรื่องการใช้วงเงินในการพัฒนาแอปพลิเคชั่นหลักหมื่นล้านบาทที่เป็นข่าวไปก่อนหน้านี้นั้น รมช.คลัง กล่าวว่า ยืนยันว่าตัวเลขที่จะใช้ในการพัฒนาแอปพลิเคชันไม่ได้อยู่ในระดับที่น่าตกใจ ไม่ใช่ตัวเลขเป็นพันล้านบาท หรือหมื่นล้านบาทอย่างแน่นอน แต่ยังไม่ได้คุยชัดเจนในประเทศนี้ ตนไม่รู้ว่าข่าวดังกล่าวที่ออกไปไปเอาตัวเลขมาจากไหน ส่วนเงื่อนไขการใช้จ่ายที่เดิมกำหนดไม่เกิน 4 กิโลเมตรจากทะเบียนบ้านนั้น ตอนนี้ตัวเลือกที่เหลือคือ สามารถใช้จ่ายได้ในระดับตำบล อำเภอ จังหวัด หากเป็นในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ก็เป็นเขต เป็นแขวง

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'จุลพันธ์' ชี้ 'สมชาย' ตกเก้าอี้ สว. สะท้อนรัฐบาลไม่เกี่ยวข้อง

นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวถึงการเลือกสว. เพื่อหาสว.ชุดใหม่ จำนวน 200 คน ซึ่งผลปรากฏว่านายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ ผู้สมัครสว. ตกรอบ ในการเลือก สว.ระดับประเทศ

'เศรษฐา' ไปต่อ จ.ลำพูน เจ้าคณะจังหวัดทวงเงินหมื่น เจ้าตัวหันไปสั่ง 'จุลพันธ์' รีบดำเนินการ

หลังเสร็จภารกิจที่จังหวัดเชียงใหม่ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี พร้อมคณะ เดินทางมายังวัดพระธาตุหริภุญชัยวรมหาวิหาร อ.เมือง จ.ลำพูน โ

เดินหน้า ดิจิทัลวอลเล็ต เดิมพันสำคัญ รัฐบาลเพื่อไทย

หลังรัฐบาลเศรษฐา ทวีสิน อยู่ในสภาพชะงักงัน ไม่สามารถเดินหน้า”ดิจิทัลวอลเล็ต”ให้เป็นไปตามไทม์ไลน์เดิมที่เคยวางไว้คือ จะแจกเงินประชาชนคนละหนึ่งหมื่นบาท ได้ภายในวันที่ 1 พ.ค. 2567

จับตา10เมษาดิจิทัลวอลเล็ต รัฐบาลเลื่อน(แจก)อีก เสียคน!

พอพรรคเพื่อไทยหาเสียงเมื่อครั้งเลือกตั้งหลังสุด บอกว่าจะแจกเงิน 1 หมื่นบาท ประชาชนหูผึ่งทันที แต่ผ่านมานับเป็นเวลา 7 เดือนที่เพื่อไทยได้เป็นรัฐบาลเข้ามาบริหารประเทศ ก็ยังไม่ทำตามสัญญาที่ให้ไว้ แบบนี้เสียเครดิต เพราะถือว่าเบี้ยวหนี้