“ภูมิธรรม” นั่งหัวโต๊ะ บอร์ดอีอีซี สั่งลุยเมกะโปรเจ็กต์ รถไฟเชื่อม 3 สนามบิน เร่งเจรจาเอกชนคู่สัญญา จบ ม.ค.2567 พร้อมเดินหน้าเมืองการบินอู่ตะเภา ย้ำต้องสำเร็จในรัฐบาลชุดนี้ ลั่นแผน 99 วัน ลงมือทำจริง
18 ต.ค. 2566 – นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยในฐานะเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (กพอ.) ครั้งที่ 2/2566 ว่าที่ประชุมได้มอบหมายให้ บอร์ด กพอ. เร่งเจรจาหาข้อสรุป การแก้ไขสัญญาโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อมสามสนามบิน มูลค่าการลงทุน 281,941 ล้านบาท ระหว่างการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) และ บริษัท เอเชีย เอรา วัน จำกัด ซึ่งเป็นเอกชนคู่สัญญา รวมไปถึง โครงการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภา และเมืองการบินภาคตะวันออก เพื่อให้เอกชนคู่สัญญาพร้อมเริ่มต้นขั้นตอนการก่อสร้าง ให้แล้วเสร็จภายในเดือนม.ค. 2567
“ กพอ. จะต้องไปเจรจาให้ได้ข้อสรุป เคลียร์สัญญาให้จบภายใน 99 วัน ซึ่งรัฐบาลคาดหวังว่าการก่อสร้างต่าง ๆ จะเกิดขึ้นได้ตามแผนก่อนที่จะสิ้นสุดในรัฐบาลชุดนี้ ให้เห็นเป็นรูปเป็นร่างขึ้นเร็วที่สุด เราได้ให้นโยบายว่าไม่ต้องรอโครงการไหนเสร็จก่อน แต่ให้ทำพร้อม ๆ กันไปร่วมกัน” ภูมิธรรม กล่าว
ด้านนายจุฬา สุขมานพ เลขาธิการคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (สกพอ.) กล่าวว่า ที่ผ่านมาการเจรจาสัญญารถไฟความเร็วสูงล่าช้าในแง่ข้อสัญญา หลังจากนี้จะเร่งหาข้อสรุป จะเสนอเข้ามาในที่ประชุม กพอ. อีกครั้ง และเสนอให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาต่อไป
“ ต้องคุยกันให้จบ และดูให้รอบด้าน เพราะถ้าไม่จบจะผลกระทบไปถึงโครงการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภาด้วย โดยจะต้องเจรจาครอบคลุม ทั้งเรื่องแอร์พอร์ตเรลลิ้งค์ และไฮสปีดเทรนไทย-จีน มาคุยหมด ถ้าพบว่าอะไรที่เป็นปัญหาและไม่ได้เกี่ยวพันกับสัญญานี้ อาจจะต้องดึงออกไป เพื่อให้สัญญานี้เดินต่อ โครงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานใน EEC หากการเจรจาสัญญาจบการก่อสร้างจะเริ่มต้นนับหนึ่งและมั่นใจว่าจะเสร็จสิ้นภายในระยะเวลา 4 ปี”นายจุฬา กล่าว
นายจุฬา กล่าวว่า สำหรับการประชุมบอร์ดครั้งนี้ ที่ประชุมได้เห็นชอบร่างแผนดำเนินการในระยะ 1 ปี (ต.ค.66 – ก.ย.67) และเป้าหมายเร่งด่วนภายใน 99 วัน ลงมือทำจริง เพื่อดึงดูดเงินลงทุนทั่วโลกผ่านอุตสาหกรรมเป้าหมาย ใน 5 คลัสเตอร์หลัก (การแพทย์ ดิจิทัล ยานยนต์ไฟฟ้า(อีวี) BCG และภาคบริการ) ซึ่งสอดคล้องตามนโยบายหลักของรัฐบาล สำหรับเป้าหมายเร่งด่วนใน 99 วัน ของอีอีซี แบ่งออกเป็น 8 ด้าน
ด้านนโยบาย 2. ด้านการพัฒนาสิทธิประโยชน์เพื่อดึงดูดการลงทุน 3. ด้านการสร้างระบบนิเวศสำหรับการลงทุน เดือนม.ค. 2567 พัฒนาแหล่งระดมทุนอีอีซี รองรับการระดมทุนที่ใช้เงินตราต่างประเทศเป็นหลัก 4. ด้านการขับเคลื่อนการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน 5. ด้านการจัดให้มีบริการภาครัฐแบบเบ็ดเสร็จครบวงจร 6. ด้านการพัฒนาพื้นที่เขตส่งเสริมเศรษฐกิจพิเศษ 7. ด้านการเริ่มต้นการลงทุนอุตสาหกรรมเป้าหมายพิเศษ และ 8. ด้านการสร้างความเข้มแข็งของพื้นที่และชุมชน ต่อยอดผลิตภัณฑ์ที่ผลิตโดยชุมชน วิสาหกิจชุมชน และกิจการเพื่อสังคมในพื้นที่อีอีซี
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'คปท.' ชุมนุมหน้าทำเนียบฯ จ่อปักหลักยาว หาก 'ภูมิธรรม' ได้นั่งประธาน 'JTC'
ที่สะพานชมัยมรุเชฐ บริเวณหน้าทำเนียบรัฐบาล กลุ่มเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (คปท.) พร้อมรถเครื่อ
'ภูมิธรรม' ลั่นไม่ยอมเสียเกาะกูด รักษาเท่าชีวิต!
ที่ทำเนียบรัฐบาลนาย ภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะดูแลหน่วยงานด้าน
'สหายอ้วน' โยนถาม 'ป.ป.ช.- ตร' ปมขอเวชระเบียน 'ทักษิณ' ชั้น 14 รพ.ตรวจ
ที่ทำเนียบรัฐบาลนาย ภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ในฐานะกำกับดูแล คณะกรรมการนโยบายตำรว
'ภูมิธรรม' เมินเสียงต้าน 'กิตติรัตน์' นั่งประธานบอร์ด ธปท. ไม่ขาดคุณสมบัติก็เป็นได้
นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม กล่าวถึงกระแสต้านนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง อดีตรองนายกรัฐมนตรี และอดีตรมว.คลัง สมัยรัฐบาลน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี นั่งตำแหน่งประธานบอร์ดธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เพราะเกรงว่าการเมืองจะเข้ามาแทรกการทำงานของธปท
'ภูมิธรรม' แจง MOU ปี 44 ไม่เกี่ยวเกาะกูด เป็นของไทย 100% เอาให้ชัดจะให้ยกเลิกอะไร
นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม กล่าวถึงการประชุมหัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาลว่าในที่ประชุมจะมีการหยิบยกประเด็นการยกเลิกเอ็มโอยู 44 ที่เคยทำในสมัยรัฐบาล นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรีพิจารณาหรือไม่
สอน 'เพื่อไทย' หัดเอาอย่าง 'อภิสิทธิ์' นักการเมืองรักษาสัจวาจา
นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราช โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า เพื่อไทย ไม่นิรโทษ มาตรา 112 ไม่แคร์มวลชน แต่แคร์พรรคร่วม