ท่องเที่ยวภาคใต้บูมขนส่งทางน้ำพุ่ง 9.1 ล้านคน

‘เจ้าท่าภูมิภาคที่ 5’กางยอดเดินทางทางน้ำช่วง 10 เดือน พุ่ง กว่า 9.1 ล้านคน เตรียมความพร้อมท่าเรือ-บุคลากร เข้มงวดด้านความปลอดภัย อำนวยความสะดวกเดินทางทางน้ำ รองรับนักท่องเที่ยวเดินทางเยือน 6 จังหวัดอันดามัน ชมทะเลสวยระดับโลกช่วงไฮซีซั่น

10 ต.ค.2566-นายประเวศน์ สุภาชัย ผู้อำนวยการสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคที่ 5 กรมเจ้าท่า (จท.) เปิดเผยว่า จากนโยบายรัฐบาลในการสนับสนุนการท่องเที่ยว โดยเฉพาะนโยบายวีซ่าฟรี สำหรับนักท่องเที่ยวชาวจีน และคาซัคสถาน เพื่อสร้างรายได้และกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศนั้น สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคที่ 5 ได้ขานรับนโยบายดังกล่าว โดยสั่งการไปยังสำนักภูมิภาคสาขาฯ เตรียมความพร้อมทั้งในส่วนของบุคลากร, ท่าเทียบเรือต่างๆ และสิ่งอำนวยความสะดวก และความปลอดภัยในทุกมิติ

นอกจากนี้ให้ปฏิบัติหน้าที่อย่างเข้มงวดในการตรวจตรา ควบคุม กำกับดูแลท่าเทียบเรือ การตรวจสอบใบอนุญาตใช้เรือ ประกาศนียบัตรคนประจำเรือ และการบังคับใช้ระเบียบข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการเดินเรือโดยเคร่งครัด เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวที่จะเดินทางมาเที่ยวในช่วงฤดูกาลท่องเที่ยว (ไฮซีซั่น) ในกลุ่มจังหวัดอันดามัน 6 จังหวัด ประกอบด้วย จ.ภูเก็ต กระบี่ ระนอง พังงา สตูล และตรัง ซึ่งล้วนเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางทะเลที่สวยงามขึ้นชื่อระดับโลก

สำหรับข้อมูลผู้โดยสารที่ผ่านท่าเรือในสังกัดสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคที่ 5 ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.-9 ต.ค.66 พบว่า ผู้โดยสารรวม 9.1 ล้านคน แบ่งเป็น ขาเข้า 4.6 ล้านคน และขาออก 4.5 ล้านคน หากแบ่งแต่ละท่าเรือ พบว่า ท่าเรือ จ.ตรัง ขาเข้า จำนวน 5.2 หมื่นคน ขาออก 5.2 หมื่นคน, ภูเก็ต ขาเข้า 2 ล้านคน ขาออก 2 ล้านคน, กระบี่ ขาเข้า 1.8 ล้านคน ขาออก 1.8 ล้านคน, ระนอง ขาเข้า 1.7 แสนคน ขาออก 1.6 แสนคน, พังงา ขาเข้า 1.1 แสนคน ขาออก 1.1 แสนคน และสตูล ขาเข้า 3.8 แสนคน ขาออก 3.8 แสนคน

ทั้งนี้ในส่วนของจำนวนเที่ยวเรือที่ผ่านท่าทั้ง 6 จังหวัด รวม 4.1 แสนเที่ยว แบ่งเป็น ขาเข้า 2.1 แสนเที่ยว และขาออก 2 แสนเที่ยว โดยหากแบ่งแต่ละท่าเรือ พบว่า ท่าเรือ จ.ตรัง ขาเข้า จำนวน 1.9 พันเที่ยว ขาออก 1.9 พันเที่ยว, ภูเก็ต ขาเข้า 7.1 หมื่นเที่ยว ขาออก 7.1 หมื่นเที่ยว, กระบี่ ขาเข้า 1 แสนเที่ยว ขาออก 1 แสนเที่ยว, ระนอง ขาเข้า 1.8 หมื่นเที่ยว ขาออก 1.8 หมื่นเที่ยว, พังงา ขาเข้า 4.4 พันเที่ยว ขาออก 4.4 พันเที่ยว และสตูล ขาเข้า 1 หมื่นเที่ยว ขาออก 9.4 พันเที่ยว

นายประเวศน์ กล่าวอีกว่า ทั้งนี้เมื่อวันที่ 7-8 ต.ค. ที่ผ่านมา ตนพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ลงตรวจพื้นที่บริเวณท่าเทียบเรือประมงท่าฉัตรชัย, ท่าเทียบเรือภูเก็ตยอร์ชเฮเว่น, ท่าเทียบเรืออ่าวปอแกรนด์ มารีน่า, ท่าเทียบเรือภูเก็ตโบ๊ทลากูน, ท่าเทียบเรือรอยัลภูเก็ตมารีน่า และท่าเทียบเรือหาดราไวย์, ท่าเทียบเรือรัษฎา, ท่าเทียบเรือเจียรวานิช, ท่าเทียบเรือรุ่งสยาม, ท่าเทียบเรือวานิช, ท่าเทียบเรือซีแองเจิ้ล,ท่าเทียบเรือเอเชียมารีน่า, ท่าเทียบเรือเอเอ, ท่าเทียบเรือแหลมหิน และท่าเทียบเรืออ่าวฉลอง ในพื้นที่ จ.ภูเก็ต

สำหรับการลงพื้นที่ในครั้งดังกล่าว เพื่อตรวจสอบความเรียบร้อยและมาตรการด้านความปลอดภัยในการเดินเรือ เส้นทางการสัญจรทางน้ำ การบริหารจัดการท่าเทียบเรือ การให้ความช่วยเหลือกรณีเกิดเหตุอุบัติภัยทางน้ำ พร้อมทั้งรับฟังปัญหาอุปสรรคจากเจ้าของกิจการท่าเรือ เพื่อเตรียมความพร้อมด้านการขนส่งทางน้ำให้เป็นไปตามนโยบาย และข้อสั่งการของนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.คมนาคม, นางมนพร เจริญศรี รมช.คมนาคม และนายกริชเพชร ชัยช่วย รักษาราชการแทนอธิบดีกรมเจ้าท่าด้วย

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

“เจ้าท่า” เตรียมคิกออฟจัดงานวันทางทะเลโลก 25 ก.ย.นี้ โชว์ศักยภาพขนส่งทางทะเลสู่มาตรฐานความปลอดภัยที่ยั่งยืน

“กรมเจ้าท่า” เตรียมคิกออฟวันทางทะเลโลก 25 กันยายนนี้ เดินหน้าสู่เป้าหมายเพิ่มศักยภาพการบริหารความปลอดภัยเส้นทางขนส่งทางทะเล - ท่าเรือไทย ตามมาตรฐาน IMO ดึงเทคโนโลยี นวัตกรรมการเดินเรือ เพื่อการบริหารจัดการเส้นทางสัญจรทางทะเล ท่าเรือ และบุคลากรประจำเรือ

'เศรษฐา' โต้ฝ่ายค้านมองลงพื้นที่ชายแดนใต้ ดูแค่เศรษฐกิจ-ท่องเที่ยว ยันไม่ละเลยความยุติธรรม

นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง ให้สัมภาษณ์ภายหลังเข้าเยี่ยมคารวะจุฬาราชมนตรี ในโอกาสได้รับพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งจุฬาราชมนตรี ว่า ได้พูดคุยเรื่องการลงพื้นที่ และพัฒนาศักยภาพ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้

กสม. ชี้โครงการขุดลอกอ่าวปัตตานี ละเมิดสิทธิชุมชน กระทบประมงพื้นบ้าน ระบบนิเวศ

กสม. ชี้ โครงการขุดลอกอ่าวปัตตานี ละเมิดสิทธิชุมชน กระทบวิถีชีวิตชาวประมงพื้นบ้านและระบบนิเวศทางทะเล แนะหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมแก้ไข