'พิมพ์ภัทรา' สั่งการ กนอ. ติดตามสถานการณ์น้ำใน 68 นิคมฯ

‘พิมพ์ภัทรา’ สั่งการ กนอ. ติดตามสถานการณ์น้ำใน 68 นิคมฯใกล้ชิด ต้องไม่กระทบจากน้ำท่วม-น้ำแล้ง ด้าน กนอ.เด้งรับวางแผนรับมือ

5 ต.ค. 2566 – น.ส.พิมพ์ภัทรา วิชัยกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่าได้สั่งการให้การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) กำชับไปยังนิคมอุตสาหกรรมทั้ง 68 แห่งทั่วประเทศติดตามและเฝ้าระวังการเกิดน้ำท่วมฉับพลัน โดยเฉพาะพื้นที่ที่มีความเสี่ยง เช่น นิคมอุตสาหกรรมบางปะอิน นิคมอุตสาหกรรมบ้านหว้า (ไฮเทค) และนิคมอุตสาหกรรมนครหลวง ที่ตั้งอยู่ในพื้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ซึ่งเป็นพื้นที่ราบลุ่มต่ำและติดแม่น้ำเจ้าพระยา รวมถึงนิคมอุตสาหกรรมบางปู จังหวัดสมุทรปราการ หากเกิดน้ำทะเลหนุนร่วมกับปริมาณฝนในพื้นที่มาก อาจมีความเสี่ยงที่จะเกิดการระบายน้ำได้ช้า รวมทั้งยังอยู่ใกล้กับชุมชน ซึ่งขณะนี้สถานการณ์น้ำท่วมส่งผลกระทบไปแล้วหลายจังหวัด เช่น ตาก สุโขทัย กาฬสินธุ์ ยโสธร อุบลราชธานี และปราจีนบุรี

“กระทรวงอุตสาหกรรมขอให้ทุกหน่วยงานในกระทรวงอุตสาหกรรม ติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด ทั้งสถานการณ์น้ำท่วม-น้ำแล้ง โดยเฉพาะในพื้นที่เสี่ยง ภายหลังนายกรัฐมนตรีได้ประชุมติดตามสถานการณ์การบริหารจัดการน้ำโดยให้ทุกกระทรวงที่เกี่ยวข้องติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะภาคอุตสาหกรรม ต้องไม่ได้รับผลกระทบหรือได้รับผลกระทบให้น้อยที่สุด ถือเป็นนโยบายหลักของรัฐบาลนี้ในการกระตุ้นการลงทุนจากต่างประเทศ เพราะหากได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ น้ำท่วม หรือสถานการณ์ภัยแล้ง อาจจะส่งผลให้นักลงทุนเกิดความลังเลจนทำให้การลงทุนหยุดชะงักได้”น.ส.พิมพ์ภัทรา กล่าว

นอกจากนี้ ได้สั่งการให้ กนอ. เร่งสำรวจความพร้อมรับมือสถานการณ์น้ำท่วม-น้ำแล้งในทุกนิคมอุตสาหกรรมอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) ที่คาดการณ์ว่าอาจได้รับผลกระทบจากเอลนีโญ เพื่อลดผลกระทบจากความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นกับผู้ประกอบการและประชาชนในพื้นที่ ซึ่งเบื้องต้นได้รับรายงานว่าสถานการณ์ภัยแล้งในพื้นที่อีอีซีนั้น กนอ. มีมาตรการเตรียมรับมือเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

ด้านนายวีริศ อัมระปาล ผู้ว่าการ กนอ. กล่าวว่า ขณะนี้ ได้สั่งการทุกนิคมอุตสาหกรรมดำเนินการตามแนวทางการบริหารจัดการปัญหาน้ำท่วมในนิคมอุตสาหกรรมอย่างเคร่งครัด คือ 1.ติดตามสภาพอากาศจากกรมอุตุนิยมวิทยาอย่างใกล้ชิด 2.คาดการณ์ปริมาณฝนในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง 3.ตรวจสอบและซ่อมแซมบำรุงรักษาเครื่องสูบน้ำ รวมถึงเครื่องกำเนิดไฟฟ้าสำรองที่มีอยู่ให้ใช้งานได้ 100% 4.พร่องน้ำภายในพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมให้อยู่ในระดับต่ำสุด เพื่อเป็นพื้นที่แก้มลิงรองรับน้ำ

5.ประสานจัดเตรียมเครื่องสูบน้ำเคลื่อนที่สำรองจากภายนอก ทั้งแบบใช้น้ำมันและแบบใช้ไฟฟ้า เข้ามาสนับสนุนทันทีที่มีการร้องขอ พร้อมให้ทุกนิคมอุตสาหกรรมช่วยเหลือชุมชนในการขุดลอกคูคลอง กำจัดวัชพืช 6.สื่อสารให้ผู้ประกอบการในนิคมอุตสาหกรรม รวมทั้งผู้เกี่ยวข้อง ทราบถึงสถานการณ์ล่าสุดอย่างต่อเนื่อง 7.กำหนดให้ทุกนิคมอุตสาหกรรมซ้อมแผนฉุกเฉินรองรับอุทกภัยเป็นประจำ และ 8.กรณีที่มีความเสี่ยงว่าจะเกิดอุทกภัย ให้รีบรายงานผู้ว่าการ กนอ. และผู้บริหาร กนอ. ทราบอย่างต่อเนื่องจนกว่าสถานการณ์จะยุติ

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

เตือน 7 จว.ลุ่มเจ้าพระยา เฝ้าระวังเขื่อนเจ้าพระยาเพิ่มระบายน้ำ ท้ายเขื่อนสูงอีก 1.20 เมตร

แจ้งเตือนสถานการณ์น้ำและการบริหารจัดการน้ำลุ่มเจ้าพระยา ฉบับที่ 2/2567  ไปยังผู้ว่าราชการจังหวัด 7 จังหวัดลุ่มเจ้าพระยา ได้แก่ จังหวัด อุทัยธานี ชัยนาท สิงห์บุรี อ่างทอง สุพรรณบุรี พระนครศรีอยุธยา และลพบุรี

'พิมพ์ภัทรา' นำทีมบุกญี่ปุ่น ศึกษาโมเดล 'นิคมอุตสาหกรรม Circular' มาปรับใช้กับไทย

“พิมพ์ภัทรา”นำทีมเยือนญี่ปุ่น 21 - 27 กรกฎาคม 2567 ปักหมุดดูงานพัฒนาการจัดตั้ง “นิคมอุตสาหกรรม Circular” พร้อมหารือกับองค์การพัฒนาพลังงานใหม่และเทคโนโลยีอุตสาหกรรมประเทศญี่ปุ่น และองค์การส่งเสริมการค้าต่างประเทศของญี่ปุ่น (Japan External Trade Organization : JETRO) เพื่อศึกษาแนวทางพัฒนาการลงทุนในภาคอุตสาหกรรมของไทย ตอบสนองการเปลี่ยนแปลงของโลก ที่มุ่งเน้นการพัฒนาที่ยั่งยืน เศรษฐกิจหมุนเวียน และความเป็นกลางทางคาร์บอน

‘พิมพ์ภัทรา วิชัยกุล’หวังกระทรวงอุตฯเป็นที่พึ่งของทุกคนอย่างแท้จริง

การเข้ามานั่งเป็นรัฐมนตรีว่าการประจำกระทรวงต่างๆ ในประเทศไทยนั้นต้องผ่านด้านการบริหารงานมาเข้มข้น และยังต้องเป็นผู้มีวิสัยทัศน์อย่างจริงจัง

นายกฯ ถกรับมือสถานการณ์น้ำลั่นป็นวาระแห่งชาติห้ามเกิดน้ำท่วมฉับพลัน!

นายกฯ ถกรับมือน้ำท่วมเป็นวาระแห่งชาติ สั่งทุกหน่วยงานพร้อมรับมือ ย้ำการทำงานอย่างมีเอกภาพ สั่งตั้ง้งศูนย์ฉุกเฉินบริการประชาชน ด้าน สทนช.รับอาจมีน้ำท่วมบ้าง

'พิมพ์ภัทรา' สั่งการ 'ดีพร้อม' เร่งเยียวยาประชาชนในพื้นที่มาบตาพุด

นางสาวพิมพ์ภัทรา วิชัยกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม สั่งการให้ นายภาสกร ชัยรัตน์ อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม เร่งเยียวยาและฟื้นฟูให้ความช่วยเหลือผู้ประกอบการและพี่น้องประชาชนในพื้นที่จากเหตุเพลิงไหม้ถังเก็บวัตถุดิบสารไพโรไลสีส แก๊สโซลีน