สนพ.ชี้ราคาน้ำมันโลกผันผวน เหตุอุปทานโลกตึงตัว จากซาอุฯ-รัสเซียยืดเวลาลดกำลังการผลิต ขณะที่เศรษฐกิจอียูชะลอตัว ส่วนไทยค่าเงินบาทร่วงกระทบต้นทุนน้ำมันเบนซิน-ดีเซลพุ่งพาค่าการตลาดจ่อ 2.28 บาท/ลิตร
26 ก.ย. 2566 – นายวัฒนพงษ์ คุโรวาท ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) เปิดเผยถึงสถานการณ์ราคาน้ำมันเชื้อเพลิงในตลาดโลกว่าสัปดาห์ที่ผ่านมา ราคาน้ำมันดิบมีแนวโน้มผันผวนจากความกังวลว่าอุปทานน้ำมันโลกจะเผชิญภาวะตึงตัวต่อเนื่องหลังซาอุดีอาระเบียขยายเวลาการปรับลดกำลังการผลิตและรัสเซียขยายเวลาปรับลดการส่งออกน้ำมันไปจนถึงช่วงสิ้นปีนี้ ซึ่งตลาดยังคงมีความกังวลต่อสภาพเศรษฐกิจของยุโรปที่มีแนวโน้มชะลอตัว หลังคณะกรรมาธิการยุโรปปรับลดคาดการณ์อัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจ (GDP) ของยูโรโซน ในปี 2566 มาอยู่ที่ +0.8% โดยชี้ว่าอัตราเงินเฟ้อในยุโรปยังอยู่ในระดับสูง
ส่วนภาพรวมสถานการณ์ราคาน้ำมันโลก (วันที่ 4-10 กันยายน 2566) ราคาน้ำมันดิบดูไบและเวสต์เทกซัส เฉลี่ยอยู่ที่ระดับ 90.37 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล ปรับตัวขึ้นจากสัปดาห์ที่แล้ว 3.69 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล และ 87.15 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล ปรับตัวเพิ่มขึ้น 4.70 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล เนื่องจากความกังวลต่ออุปทานตึงตัวหลังซาอุดีอาระเบียขยายเวลาการปรับลดกำลังการผลิตเพิ่มเติมที่ 1.0 ล้านบาร์เรล/วัน จนถึงสิ้นปี ขณะที่รัสเซียปรับลดการส่งออกลง 0.3 ล้านบาร์เรล/วัน จนถึงสิ้นปีเช่นกัน
นายวัฒนพงษ์ กล่าวว่า สำหรับค่าเงินบาทของไทยอ่อนค่าขึ้นจากสัปดาห์ที่แล้ว 0.34 บาท/เหรียญสหรัฐที่ระดับเฉลี่ย 35.5853 บาท/เหรียญสหรัฐ ทำให้ต้นทุนน้ำมันเบนซินเพิ่มขึ้น 0.23 บาท/ลิตร และต้นทุนน้ำมันดีเซลเพิ่มขึ้น 0.36 บาท/ลิตร ส่งผลต่อค่าการตลาดเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักของน้ำมันกลุ่มเบนซิน และน้ำมันดีเซล อยู่ที่ระดับ 2.28 บาท/ลิตร