‘กยศ.’ ชี้ไม่กระทบหลังรัฐจ่อจ่ายเงินเดือนขรก. 2 รอบ

“กยศ.” ชี้ไม่ได้รับผลกระทบหลังรัฐบาลผุดแนวทางจ่ายเงินเดือนข้าราชการ 2 รอบ แจงพักหนี้ไม่เหมาะ หวั่นกระทบเงินหมุนเวียนสะเทือนปล่อยกู้นักเรียน-นักศึกษา เดินเครื่องขอจัดสรรงบปี 2567 เพิ่ม 1 หมื่นกว่าล้านบาท รองรับการปล่อยกู้

19 ก.ย. 2566 – นายชัยณรงค์ กัจฉปานันท์ ผู้จัดการกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) เปิดเผยว่า กรณีที่รัฐบาลมีแนวทางการจ่ายเงินเดือนข้าราชการ 2 ครั้งต่อเดือนนั้น เบื้องต้นมองว่า กยศ. จะไม่ได้รับผลกระทบจากเรื่องดังกล่าว และไม่จำเป็นต้องลงทุนเกี่ยวกับระบบเพิ่มเติม เนื่องจากตามหลักกฎหมายของกองทุน ระบุไว้ว่า ให้นายจ้างทำการหักเงินเดือนลูกหนี้ เพื่อนำส่งให้กรมสรรพากรทุกวันที่ 15 ของเดือนถัดไป ดังนั้นกองทุนจึงไม่ได้รับผลกระทบในส่วนนี้ แต่ในรายละเอียดยังต้องรอความชัดเจนจากกรมบัญชีกลางอีกครั้ง

“อาจจะต้องมีการหารือร่วมกับกรมบัญชีกลางอีกครั้ง ว่าแนวทางหรือวิธีไหนจะดีที่สุด แต่เรื่องนี้ กยศ. ไม่ต้องมีการลงทุนเพิ่ม เพราะเป็นหน้าที่ของหน่วยงานที่จะหักเงินเดือนเอาไว้ โดยปัจจุบันอัตราการหักเงินเดือนต่ำสุด คือ 100 บาท” นายชัยณรงค์ กล่าว

ขณะเดียวกันกรณีที่รัฐบาลมีแนวทางในการพักชำระหนี้ต่าง ๆ มองว่า เรื่องการพักชำระหนี้อาจจะไม่เหมาะกับ กยศ. เนื่องจากกองทุนไม่ได้มีการดำเนินงานในรูปแบบธนาคาร ไม่ได้รับฝากเงิน และไม่มีหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล) โดยการดำเนินงานของ กยศ. เป็นรูปแบบของกองทุนหมุนเวียน ใช้เงินหมุนเวียนจากการชำระหนี้ของผู้กู้ยืม และสภาพคล่อง ดังนั้นหากมีการพักชำระหนี้ กยศ. ก็อาจจะทำให้ไม่มีเงินไหลเข้ามา ทำให้เป็นปัญหาได้

นายชัยณรงค์ กล่าวอีกว่า ขณะนี้คณะกรรมการกองทุนได้มีมติอนุมัติขยายกรองการให้กู้ยืมในปีการศึกษา 2566 จากเดิมที่กำหนดไว้ 4.07 หมื่นล้านบาท เป็น 4.61 หมื่นล้านบาท เพื่อรองรับนักเรียน นักศึกษาผู้กู้ยืมจากเดิม 6.43 แสนล้านบาท เนื่องจากมีจำนวนผู้ยื่นขอกู้ยืมเพิ่มขึ้นมากกว่าที่ประมาณการไว้กว่า 1.17 แสนราย รวมจำนวนผู้กู้ยืมทั้งสิ้น 7.6 แสนราย และเพื่อเป็นการช่วยเหลือนักเรียน นักศึกษา และผู้ปกครองที่ได้รับผลกระทบทางเศรษฐกิจ

ขณะที่ในปีงบประมาณ 2567 กยศ. อยู่ระหว่างดำเนินการของบประมาณเพิ่มเติมจากรัฐบาล ประมาณ 1 หมื่นกว่าล้านบาท เพื่อมาเสริมศักยภาพในการดำเนินการ และรองรับการปล่อยกู้ หลังจากช่วงโควิด-19 คนชำระหนี้ลดลง ขณะที่แนวโน้มการกู้ยืมเพื่อการศึกษาเพิ่มมากขึ้น แต่ยืนยันว่าปัจจุบันกระแสเงินสดของกองทุนยังมีอยู่เพียงพอที่จะรองรับการปล่อยกู้ ขณะเดียวกันการออกมาตรการปรับโครงสร้างหนี้ก็จะช่วยดึงลูกหนี้เข้ามาอยู่ในระบบและมีการชำระหนี้มากขึ้น ซึ่งจะเป็นผลดีกับสถานะของกองทุนเพิ่มขึ้นไปอีก

นอกจากนี้ กองทุนยังอยู่ระหว่างเตรียมโครงการนำร่องการให้กู้ยืมในหลักสูตร Reskill Upskill โดยนำร่องให้กู้ในกลุ่มโรงเรียนบริบาล เพื่อเป็นการขยายโอกาสในการศึกษาที่หลากหลาย โดยกองทุนคาดว่าจะสามารถเริ่มให้เงินกู้ยืมในหลักสูตรระยะสั้นดังกล่าวได้ในเร็ว ๆ นี้

สำหรับสถานะของ กยศ. ในปัจจุบัน ได้ปล่อยกู้ให้นักเรียน นักศึกษาทั่วไประเทศไปแล้ว 6.5 ล้านราย เป็นเงินให้กู้ยืมกว่า 7.34 แสนล้านบาท ประกอบด้วย ผู้กู้ยืมที่อยู่ระหว่างการศึกษา/ปลอดหนี้ 1.13 ล้านราย, ผู้กู้ยืมที่ชำระหนี้เสร็จสิ้นแล้ว 1.81 ล้านราย, ผู้กู้ยืมที่อยู่ระหว่างการชำระหนี้ 3.54 ล้านราย และผู้กู้ยืมที่เสียชีวิต/ทุพพลภาพ 7.15 หมื่นราย ส่วนภาพรวมการรับชำระหนี้ในปีนี้ กองทุนได้รับชำระเงินคืน 2.57 หมื่นล้านบาท ขณะที่ปัจจุบัน กยศ. มีหนี้เสียอยู่ราว 9 หมื่นล้านบาท จากหนี้คงค้างทั้งสิ้น 4.3 แสนล้านบาท ถือเป็นระดับปกติ เนื่องจากกองทุนมีการให้กู้ยืมปีละราว 4 หมื่นกว่าล้านบาท ขณะที่การปล่อยกู้นั้นก็ไม่ได้พิจารณาประเด็นเรื่องความสามารถในการชำระหนี้ เพราะเป็นการให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา แต่เชื่อว่าหลังจากมีมาตรการปรับโครงสร้างหนี้ และการดำเนินการตามกฎหมายใหม่ จะช่วยให้การผ่อนชำระคืนมีสัดส่วนที่ดีขึ้นแน่นอน

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ตลาดหลักทรัพย์ฯ จับมือพันธมิตรยกระดับความรู้ทางการเงินแก่คนไทยทุกช่วงวัย

ตลาดหลักทรัพย์ฯ กองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.) และกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) เดินหน้าส่งเสริมความรู้การวางแผนการเงิน ต่อเนื่องเป็นปีที่ 7

ก้าวไกลซัดรัฐบาลไม่จริงใจแก้ปัญหาเรื่องการศึกษาไม่ให้งบ กยศ.แม้แต่บาทเดียว

สส.ปารมี เผยตัวเลขเด็กไทยหลุดออกจากระบบการศึกษา 1.02 ล้านคน ส่อหลุดอีก 2.8 ล้านคน อัด รัฐบาลไม่จริงใจแก้ปัญหา หลัง กยศ.ของบ 5,000 ล้านบาท แต่ไม่ให้สักบาทเดียว หวั่นทำเด็กกู้ยืมไม่มีเงินเรียนต่อ