“ธนารักษ์” แจงปมตัดไม้พะยูง ในที่ราชพัสดุ จ.กาฬสินธุ์ ระบุเร่งรวบรวมพยานหลักฐาน-เอกสาร ส่ง ป.ป.ช. ดำเนินการเอาผิดผู้ที่เกี่ยวข้อง พร้อมยืนยันไม่มีเจ้าหน้าที่ธนารักษ์เกี่ยวข้องกรณีชายฉกรรจ์อ้างตัวเป็นเจ้าหน้าที่นำสว่านเจาะไม้พะยูง 9 ต้น
8 ก.ย. 2566 – นายจำเริญ โพธิยอด อธิบดีกรมธนารักษ์ เปิดเผยว่า ตามที่สื่อมวลชนได้นำเสนอข่าว และภาพข่าวกรณีการลักลอบตัดไม้พะยูงในสถานีเพาะชำกล้าไม้จังหวัดกาฬสินธุ์ และมีการขนย้ายไม้พะยูงในส่วนที่เหลือจากการลักลอบตัดมาเก็บไว้ที่หน้าสำนักงานเทศบาลตำบลอิตื้อ ต่อมาไม้ดังกล่าวได้สูญหายไป และกรณีการตัดไม้พะยูงในเขตโรงเรียนคำไฮวิทยา รวมถึงภาพข่าวหลักฐานการเจาะต้นไม้พะยูง ในโรงเรียนโคกกลางเหนือนั้น จากเหตุการณ์ดังกล่าวข้างต้น กรมธนารักษ์ขอเรียนชี้แจงข้อเท็จจริงดังนี้
1.กรณีไม้พะยูงที่นำมาเก็บไว้หน้าสำนักงานเทศบาลตำบลอิตื้อหายไป ซึ่งจากการแถลงข่าวของสำนักงานตำรวจภูธรจังหวัดกาฬสินธุ์ ระบุว่า เกิดจากการยักยอกไม้พะยูงของกลางไปจากหน้าสำนักงานเทศบาลตำบลอิตื้อโดยมีเจ้าหน้าที่ป่าไม้ จำนวน 3 คน ผู้นำองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและพนักงานรวม 2 คน และเจ้าหน้าที่ของรัฐ ซึ่งเป็นผู้นำหมู่บ้าน จำนวน 3 คน ในเบื้องต้นพนักงานสอบสวนจะรวบรวมพยานหลักฐานและเอกสารทั้งหมด ส่งเรื่องให้สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ดำเนินการสอบสวนเพื่อเอาผิดกับผู้ที่เกี่ยวข้องกับกรณีดังกล่าว
2.กรณีการตัดต้นไม้พะยูงที่โรงเรียนคำไฮวิทยา สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษากาฬสินธุ์ เขต 2ชี้แจงว่า ได้ดำเนินการตามขั้นตอนและสาเหตุในการขอตัดต้นไม้พะยูงเนื่องจากเกิดเหตุมีผู้ลักลอบตัดต้นไม้ที่อยู่ในโรงเรียนบ่อยครั้ง ด้วยเหตุดังกล่าวจึงประสงค์ที่จะตัดไม้พะยูงดังกล่าว
ทั้งนี้ สำนักงานธนารักษ์พื้นที่กาฬสินธุ์ได้มีหนังสือแจ้งสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษากาฬสินธุ์ เขต 2 ว่า การตัดต้นไม้ในที่ราชพัสดุ ผู้ใช้ที่ราชพัสดุสามารถดำเนินการได้ โดยจะต้องตัดต้นไม้เท่าที่จำเป็นตามแนวทางที่กรมธนารักษ์กำหนด เช่น กีดขวางการใช้พื้นที่เพื่อปลูกสร้างอาคาร หรือกีดขวางสายไฟฟ้า หรือต้นไม้อาจโค่นล้มเป็นอันตรายแก่ชีวิตและทรัพย์สิน หรือเป็นการตัดแต่งกิ่งไม้เพื่อความเป็นระเบียบเรียบร้อยและความสวยงาม และกรมธนารักษ์ก็ยังได้มีหนังสือซักซ้อมความเข้าใจ กรณีการตัดต้นไม้ในที่ราชพัสดุให้สอดคล้องกับนโยบายของทางราชการ ที่ให้ทุกหน่วยงานมีการอนุรักษ์ต้นไม้และป่าไม้ในเขตพื้นที่ราชพัสดุ โดยให้หลีกเลี่ยงการตัดต้นไม้ใหญ่ ยกเว้นการณีที่มีเหตุจำเป็นอย่างยิ่งที่มิอาจหลักเลี่ยงได้ โดยให้ผู้ใช้ประโยชน์ในที่ราชพัสดุถือปฏิบัติโดยเคร่งครัด
นายจำเริญ กล่าวยังกล่าวถึงการประเมินราคาไม้พะยูง และการขายไม้พะยูง ว่า การประเมินราคาไม้พะยูงและการขายไม้พะยูงในกรณีที่ปรากฏเป็นข่าว เป็นการขายโดยวิธีเฉพาะเจาะจง โดยการตกลงราคาในราคา 152,200 บาท (หนึ่งแสนห้าหมื่นสองพันสองร้อยบาทถ้วน) ซึ่งเป็นการดำเนินการโดยคณะกรรมการประเมินราคากลาง ที่สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษากาฬสินธุ์ เขต 2แต่งตั้งขึ้น และดำเนินการขายโดยวิธีดังกล่าวเอง โดยสำนักงานธนารักษ์พื้นที่กาฬสินธุ์ไม่ทราบว่า เอื้อให้แก่บุคคลในบุคคลหนึ่งหรือไม่ เนื่องจากไม่มีส่วนเกี่ยวข้องแต่อย่างใด
3.กรณีเมื่อวันที่ 5 ก.ค. 2566 ปรากฏภาพข่าวหลักฐาน กลุ่มชายฉกรรจ์ ที่อ้างตัวว่าเป็นเจ้าหน้าที่กรมธนารักษ์ นำสว่านมาเจาะต้นไม้พะยูงในโรงเรียนโคกกลางเหนือ อำเภอห้วยเม็ก จังหวัดกาฬสินธุ์ จำนวน 9 ต้น และมีการพูดคุยกับครูว่าจะมีการประมูลไม้พะยูงขาย ซึ่งจากการลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงของสำนักงานธนารักษ์พื้นที่กาฬสินธุ์ โดยเชิญเจ้าหน้าที่เข้ามาสอบถามทุกคน ได้รับการยืนยันว่า ไม่มีเจ้าหน้าที่ของกรมธนารักษ์เข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องในกรณีดังกล่าวแต่อย่างใด
“หากกรมธนารักษ์พบว่าเจ้าหน้าที่กรมธนารักษ์มีส่วนร่วมหรือรู้เห็นกับการกระทำความผิด กรมธนารักษ์จะถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง โดยจะดำเนินการตามกระบวนทางวินัยและทางกฎหมายอย่างเคร่งครัดต่อไป” นายจำเริญ กล่าว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
นายกฯ เดินทางไปนครพนม มอบสัญญาเช่าที่ราชพัสดุและบ้านโครงการพัฒนาคุณภาพชีวิต
นายกฯ บินนครพนม มอบสัญญาเช่าที่ราชพัสดุและมอบบ้าน ตามโครงการพัฒนาคุณภาพชีวิต ที่ดินทำกินและที่อยู่อาศัย เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
'เลขาฯก้าวไกล' มอง 'หนองวัวซอโมเดล' ไม่เป็นธรรม อ้างชาวบ้านถูกบังคับเช่าที่ราชพัสดุ
นายอภิชาติ ศิริสุนทร สส.บัญชีรายชื่อ และเลขาธิการพรรคก้าวไกล ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการการที่ดินทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงกรณี ‘หนองวัวซอโมเดล’ ว่า ชาวบ้านมีการมาร้องเรียน ว่ามีการบังคับให้เช่าที่ดิน ทั้งที่มีหลักฐานว่าอยู่มาก่อน เช่น ใบตราจองหนังสือรับรองการทำประโยชน์ หรือ น.ส.3 ซึ่งไม่เป็นธรรมกับประชาชน
ตะลึง! พบที่ดินทำกินกว่า 6 หมื่นไร่ ต.ละอาย ยังเป็นที่ราชพัสดุ วอนช่วยทำให้ถูกต้อง
นายจิตรธรรม บุญญาธิการ ส.อบจ.นครศรีธรรมราช เขต อ.ฉวาง พร้อมด้วยนายจรูญ พยาบาล อดีตกำนันตำบลละอาย อ.ฉวาง จ.นครศรีธรรมราช ในฐานะตัวแทนชาวบ้าน ได้ร่วมเปิดเผยว่า ตนพร้อมกับชาวบ้านในพื้นที่ ต.ละอาย กำลังเตรียมจะเดินทางมายื่นหนังสือทวงถามสิทธิที่ดินทำกินในพื้นที่