‘สุริยะ’ โชว์ฟิตประกาศลุยสางปัญหาสายสีส้มดันพัฒนาขนส่งระบบรางให้มีประสิทธิภาพ

‘สุริยะ’ เข้ากระทรวงคมนาคมวันแรก ประกาศสางปัญหารถไฟฟ้า ‘สายสีส้ม’ ส่วนหนี้สิน ‘บีทีเอส’ โยนมหาดไทยพิจารณา พร้อมเดินหน้าพัฒนาระบบขนส่งทางราง เตรียมเข็นประมูลรถไฟทางคู่ ช่วงขอนแก่น – หนองคาย ย้ำจะทำงานเดินหน้าร่วมมือกันก้าวข้ามความขัดแย้ง

7 ก.ย.2566-นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.คมนาคม เปิดเผยในวาระเข้ากระทรวงคมนาคมเพื่อเริ่มงานวันแรก ว่า ขณะนี้ยังไม่สามารถแถลงนโยบาย และมอบหมายงานให้กับรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคมได้ เนื่องจากต้องรอให้นายกรัฐมนตรีได้แถลงนโยบายรัฐบาลต่อรัฐสภาในวันที่ 11 ก.ย.นี้ เสร็จเรียบร้อยก่อน โดยพร้อมที่จะเข้ามาร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการแก้ไขปัญหาตามที่รัฐบาลมอบหมาย และเป็นไปตามความคาดหวังของประชาชน โดยเฉพาะเรื่องการพัฒนาโลจิสติกส์ของประเทศที่ครองสัดส่วนในผลิตภัณฑ์มวลรวมประเทศ (GDP) สูงถึง 15% แต่กลับพบว่าในนั้นมีการขนส่งระบบน้ำและรางเพียง 2% ดังนั้นไทยต้องลงทุนพัฒนาโลจิสติกส์เหล่านี้เพื่อเพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขัน

“มองว่าระบบขนส่งทางรางโดยเฉพาะรถไฟทางคู่ ต้องมีการปรับปรุงให้ตรงเวลา เพื่อทำให้การขนส่งนั้นมีประสิทธิภาพ อีกทั้งต้องผลักดันให้เกิดการลงทุนอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะโครงการที่มีความพร้อมแล้ว อาทิ รถไฟทางคู่ช่วงขอนแก่น – หนองคาย เนื่องจากโครงการนี้ศึกษาพร้อมที่จะผลักดันให้เกิดการลงทุนแล้ว จึงเป็นสิ่งที่ตั้งใจมากที่จะทำ”นายสุริยะ กล่าว

ทั้งนี้ส่วนปัญหาที่เกิดกับโครงการรถไฟฟ้าทั้งในเรื่องของภาระหนี้สินโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว เรื่องนี้โครงการอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของกระทรวงมหาดไทย ดังนั้นคงต้องให้ทางรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยได้พิจารณารายละเอียดด้วย ขณะที่ปัญหารถไฟฟ้าสายสีส้มปัจจุบันทราบว่ายังมีอีก 1 ข้อพิพาทที่อยู่ในขั้นตอนการพิจารณาของศาลปกครอง ซึ่งทางศาลปกครองกลางได้พิจารณาแล้วว่าทางคณะกรรมการคัดเลือก และการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ไม่ได้กระทำผิดขั้นตอน แต่อย่างไรก็ดีคงต้องรอให้การพิจารณาของศาลปกครองสูงสุดเป็นที่สิ้นสุดก่อน

อย่างไรก็ตามเบื้องต้นแนวทางที่จะเป็นไปได้ทั้งหมดในการแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม คือ 1. เดินหน้าขั้นตอนประกวดราคาที่ค้างอยู่ในแล้วเสร็จ และ 2. ยกเลิกการประกวดราคาเดิมและเปิดประกวดราคาใหม่ ซึ่งแนวทางเหล่านี้เป็นไปได้ทั้งหมด คงต้องรอให้การพิจารณาของศาลปกครองสูงสุดออกมาก่อน

นายสุริยะ กล่าวด้วยว่า ประเด็นนโยบายรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสายนั้น ตนต้องขอโทษประชาชนที่ทำให้เกิดความเข้าใจผิดว่านโยบายนี้ไม่เร่งด่วน เพราะยืนยันว่านโยบายนี้เป็นเรื่องเร่งด่วนที่รัฐบาลจะทำเพื่อแก้ไขปัญหาลดค่าใช้จ่ายให้กับประชาชน แต่เนื่องจากการผลักดันนโยบายนี้ต้องมีความพร้อมจากทั้งภาครัฐและเอกชนหารือร่วมกันในการพัฒนาระบบตั๋วร่วม จึงต้องใช้เวลาในการหารือกับผู้ประกอบการ อีกทั้งต้องใช้เวลาติดตั้งระบบซอฟต์แวร์ที่ประเมินว่าใช้เวลาอย่างเร็ว 1 ปี ดังนั้นจึงประเมินว่าจะใช้เวลาทำงานเรื่องนี้ 2 ปีสำเร็จ

“พอลดราคาค่าโดยสาร 20 บาท ผู้โดยสารก็จะเพิ่มขึ้น 10% รายได้ของผู้ประกอบการก็จะเพิ่มขึ้นทันที เมื่อเอกชนมีรายได้เพิ่มขึ้นก็ต้องแบ่งปันผลประโยชน์ ซึ่งตอนนี้ทางกรมการขนส่งทางรางก็ประเมินตัวเลขออกมาแล้วว่าหากจะดำเนินการนโยบายนี้รัฐบาลต้องชดเชยเม็ดเงินเท่าไหร่ แต่ผมก้มอบหมายให้ไปหารือกับนักวิชาการ ม.ธรรมศาสตร์ที่มีข้อมูลเรื่องนี้ และกลับมาทบทวนตัวเลขกัน ยืนยันว่า 20 บาทต้องทำแน่นอน แต่ขอเวลา”

นอกจากนี้ อีกเรื่องหนึ่งที่รัฐบาลเน้นย้ำ คือ ในเรื่องของการกระตุ้นภาคการท่องเที่ยวในช่วงไฮซีซันที่จะถึงนี้ ซึ่งนายกฯ ได้มีการสั่งการกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปแล้ว แต่ผมได้มีการกำชับเพิ่มเติม โดยให้สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) หาวิธีจัดสล็อตเพิ่มเติม เพื่อเปิดโอกาสให้นักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าไทยเพิ่มขึ้น เบื้องต้นทราบมาว่ากองทัพอากาศ มีตารางการบิน (สล็อต)การบินในช่วงเช้าเหลืออยู่

“เบื้องต้นได้ฝากเรื่องนี้ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ให้หารือกับกองทัพอากาศ เพื่อขอสล็อตที่ไม่ใช้ไปมอบให้กับ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือทอท. ซึ่งคาดว่าเบื้องต้นจะได้เพิ่มขึ้นมาประมาณ 100 เที่ยวบิน หรือทำให้มีผู้โดยสารเพิ่มขึ้นมา 10,000 คนต่อวัน ซึ่งถือเป็นวิธีการแก้ไขปัญหาอย่างเร่งด่วน” นายสุริยะ กล่าว

ด้านนางมนพร เจริญศรี รมช.คมนาคม กล่าวว่าได้พบปะผู้บริหารของกระทรวงคมนาคม โดยจะมีการมอบนโยบายในการทำงานอีกครั้งหลังจากที่นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และ คณะรัฐมนตรี(ครม.)ได้แถลงนโยบายต่อที่ประชุมรัฐสภาในวันที่11 และ12 ก.ย.2566 ในส่วนของการทำงาน เราจะตั้งใจทำงานให้เป็นรัฐบาลของประชน สิ่งใดที่เป็นปัญหาความเดือดร้อนเราจะลงมือทำทันที จะนำคำกล่าวของนายกรัฐมนตรีที่ได้ให้โอวาทในการประชุม ครม.นัดแรกในเรื่องความโปร่งใสในการทำงาน ให้ความเป็นธรรมในการโยกย้ายของข้าราชการของคนทุกกลุ่ม ซึ่งการทำงานเหล่านี้เราต้องบอกว่าภาวะที่เรารับมาจากพี่น้องประชาชนคาดหวังกับรับบาลชุดนี้

“เราจะทำงานให้หนักและคงต้องขอความร่วมมือกับข้าราชการทุกหน่วยงานของกระทรวงคมนาคม ร่วมทั้งสื่อมวลชนพี่น้องประชาชนที่จะร่วมมือกันก้าวข้ามความขัดแย้ง และนำไปสู่การพัฒนาประเทศให้ทันสมัยและทันโลกกับความคาดหวังของพี่น้องประชาชน”นางมนพร กล่าว

ขณะที่นายสุรพงษ์ ปิยะโชติ รมช. คมนาคม กล่าวว่า วันนี้ถือเป็นวันแรกที่ได้พบปะกับพี่น้องในกระมรวงคมนาคม ในการที่จะดูแลหน่วยงานและรู้จักอำนาจหน้าที่ของแต่ละจุด เป็นไปตามที่ท่าน รมว.คมนาคม ได้กล่าวว่าวันนี้วาระของประเทศไทยก็คือวาระของชาติที่เราต้องช่วยกันขับเคลื่อน ซึ่งกระทรวงคมนาคมก็เป็นอีกหนึ่งจิ๊กซอตัวหนึ่งที่จะช่วยส่งเสริมเศรษฐกิจเรื่องการท่องเที่ยว รู้สึกมั่นใจเนื่องจากท่าน รมว.คมนาคม เคยทำงานที่กระทรวงคมนาคมมาก่อนหน้านี้

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

รัฐบาลโอ่ผลงานยกระดับเส้นทางสู่ภาคตะวันออกเชื่อมโยงอีอีซี

รัฐบาลยกระดับเส้นทางสู่ภาคตะวันออก เพิ่มประสิทธิภาพการจราจร เชื่อมโยงอีอีซี ล่าสุดกรมทางหลวงขยาย 4 ช่องจราจร ทล.3481 ตอน บ้านหัวไผ่ - การเคหะฯ จังหวัดปราจีนบุรี แล้วเสร็จ

'อนุทิน' ยันไม่คิดเอาคืนใคร ปมที่ดินเขากระโดงอย่าโยงการเมือง ไม่อย่างนั้นก็หมดสภาฯ

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงข้อพิพาทพื้นที่เขากระโดงระหว่างการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) และกรมที่ดิน ซึ่งกระทรวงคมนาคมยืนยันสิทธิ์ตามกฎหมาย

'สุริยะ' ย้ำที่เขากระโดงเป็นของรฟท. ส่วนที่ดินอัลไพน์ ยันไม่ผิดกฎหมาย

ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.คมนาคม ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าภายหลังการรถไฟ

'สุริยะ' ลั่น รฟท.ไม่ยอมเสียที่ดินให้ใคร ขอให้จบในชั้นเจ้าหน้าที่ อย่าขยายประเด็นการเมือง

นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.คมนาคม ให้สัมภาษณ์กรณีกรมที่ดินมีมติไม่เพิกถอนสิทธิ์ที่ดินเขากระโดง ซึ่งเป็นข้อพิพาทระหว่างการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.)และกรมที่ดิน