MI ชี้เม็ดเงินโฆษณาครึ่งปีแรกหืดจับเหตุปัจจัยลบอื้อ

MI ชี้เม็ดเงินโฆษณาหืดจับ เหตุปัจจัยลบอื้อ! ลุ้น ครม. เศรษฐา1 กระตุ้นตลาดคึกคักโค้งสุดท้ายปี 2566 ดันการเติบโต 2.5% แม้ต่ำกว่าคาดการณ์ พร้อมเผยแพลตฟอร์มยอดฮิตในอุตสาหกรรม

30 ส.ค. 2566 – นายภวัต เรืองเดชวรชัย ประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท มีเดียอินเทลลิเจนซ์กรุ๊ป จำกัด เปิดเผยว่า ในช่วงระยะเวลากว่า 8 เดือนของปี 2566 ที่ผ่านมาต้องยอมรับว่าเศรษฐกิจของประเทศไทยยังต้องเผชิญกับความท้าทายและปัจจัยลบที่มีมาอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ต่ำกว่าคาดการณ์ ราคาสินค้ายังแพง หนี้ครัวเรือนยังสูง ขณะเดียวกันสถานการณ์การส่งออกก็ไม่ดี มีการติดลบ และการเมืองหลังเลือกตั้งที่ยังไม่นิ่ง ทำให้ส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นและอุปสงค์ที่ต่ำ แม้ว่าจะมีปัจจัยบวกด้านการท่องเที่ยวที่จะเห็นได้ว่ามีต่างชาติเข้ามาไทยมากขึ้น ทำให้ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมท่องเที่ยวได้รับอานิสงส์ดังกล่าว แต่ก็ไม่เพียงพอต่อการฟื้นอุปสงค์ในประเทศ บริษัทคาดการณ์ว่าเม็ดเงินโฆษณาปีนี้น่าจะเติบโต 2.5% ซึ่งอยู่ในระดับที่ต่ำกว่าคาดการณ์ก่อนหน้าที่มองว่าจะเติบโตได้ 5%

พร้อมกันนี้ ยังมีปัจจัยบวกเข้ามาเพิ่ม เช่น การจัดตั้งรัฐบาลสำเร็จ และโฉมหน้า ครม. เศรษฐา 1 หากไม่มีปัจจัยอื่นที่ส่งผลต่อการเมืองและรัฐบาลใหม่ แม้จะมีนโยบายบางอย่างที่ประกาศว่าจะทำเลยหลังรัฐบาลใหม่เข้าบริหารประเทศภายในปลายเดือนกันยายน เช่น การปรับลดราคาเชื้อเพลิง ค่าครองชีพเช่น ค่าเดินทาง ค่ารักษาพยาบาล แต่นโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจที่ทุกคนเฝ้ารอน่าจะส่งผลอย่างมีนัยสำคัญต่อตลาดในช่วงต้นปีหน้าเป็นอย่างเร็ว คือ เงินดิจิตัล 10,000 บาท หรืออาจส่งผลได้ในระยะเวลาอีกหลายปี เช่น ค่าแรงขั้นต่ำ เงินเดือนนักศึกษาจบใหม่ เงินเดือนข้าราชการ ซอฟต์พาวเวอร์ เป็นต้น

นายภวัต กล่าวว่า MI GROUP มองภาพรวมเม็ดเงินสื่อโฆษณาปีนี้ คงไปในทิศทางที่เคยคาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ ซึ่งเม็ดเงินสื่อโทรทัศน์จะลดลงอย่างต่อเนื่อง โดยปีนี้น่าจะลดลงเล็กน้อย 1% เมื่อเปรียบเทียบกับปีที่ผ่านมา ส่วนสื่อดิจิทัลและสื่อนอกบ้านยังคงเติบโตต่อเนื่อง ซึ่งคาดว่าปีนี้จะมีอัตราการเติบโตอย่างน้อย 7% และ 10% ตามลำดับ (ตัวเลขคาดการณ์ของ Digital Ad Spending ในปีนี้ ทาง DAAT จะแถลงโดยละเอียดในวันที่ 31 สิงหาคม ที่งาน DAAT Day 2023)

สำหรับตัวขับเคลื่อนหลักของสื่อโทรทัศน์ในปีนี้คือ คอนเทนต์รายการประเภทข่าว วิเคราะห์ข่าวและละคร ซึ่งปีนี้กลับมาคึกคักเป็นพิเศษ ส่วนรายการประเภทอื่นค่อนข้างถดถอยและถูกท้าทายอย่างต่อเนื่องหลักๆโดยคอนเทนต์บนโซเชียล สตรีมมิ่ง แพลตฟอร์ม โดยเม็ดเงินสื่อดิจิทัลที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง ตัวขับเคลื่อนยังคงมาจาก 2-3 แพลตฟอร์มหลักคือ Meta และ YouTube ส่วน TikTok เป็นอีกแพลตฟอร์มที่น่าจับมองในแง่การเติบโตของเม็ดเงินโฆษณาและผลกระทบในเชิง Full-Funnel Solution ซึ่งบริษัทคาดว่าผู้ใช้งานเป็นประจำในไทยทะลุมากกว่า 30 ล้านคน โดยมีเหล่าครีเอเตอร์เป็นตัวขับเคลื่อนหลักในยุคที่ e-commerce economy เติบโตขึ้นเรื่อยๆ ส่งผลให้สื่อดิจิตัลคึกคักและเติบโตต่อเนื่อง ทั้งนี้ ยังคงยืนยันว่าสื่ออื่นๆ แม้จะมีบทบาทน้อยลงเรื่อยๆ แต่ยังคงมีบทบาทในการสื่อสารและสร้างประสบการณ์ที่แตกต่างกันไปกับแต่ละกลุ่มเป้าหมายเฉพาะ

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

เศรษฐกิจโลกชะลอตัว กดดันดัชนี MPI ครึ่งปีแรก ปี 66 หดตัว 4.60%

สศอ.เผยเศรษฐกิจโลกชะลอตัว กดดันดัชนี MPI 6 เดือนแรก ปี 66 หดตัว 4.60% งวดมิ.ย. อยู่ที่ระดับ 95.73 ชี้ยอดผลิตมอ’ไซค์ช่วยหนุน ขยายตัวต่อเนื่องหลังความต้องการทั้งในและต่างประเทศกำลังโต

รายได้ท่องเที่ยวปี 66 ครึ่งปีแรกทะลุ 1 ล้านล้าน

กองเศรษฐกิจการท่องเที่ยวและกีฬา สำนักงานปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ได้ประเมินเบื้องต้นพบว่าตั้งแต่เดือน ม.ค. ถึง 23 ก.ค. 66 ประเทศไทยมีรายได้จากการท่องเที่ยวสะสมรวมกว่า 1.045 ล้านล้านบาท

ก.ท่องเที่ยวชี้ครึ่งปีแรก ต่างชาติเดินทางเข้าไทยเพิ่มขึ้น 5 เท่าเมื่อเทียบกับปีก่อน

สำนักงานปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา โดยกองเศรษฐกิจการท่องเที่ยวและกีฬา ได้ประเมินเบื้องต้นพบว่าครึ่งปีแรกของปี 66 (ม.ค.-มิ.ย. 66) มีนักท่องเที่ยวต่างชาติกลับเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทยประมาณร้อยละ 63.5 เทียบกับช่วงเดียวกัน